คนที่ไม่ปรับจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง องค์กรที่ไม่ลงทุนกับคนจะไปไม่รอด – กานติมา เลอเลิศยุติธรรม

กานติมา เลอเลิศยุติธรรม Chief Human Resources Officer หรือ CHRO ของ AIS รวมถึง INTOUCH ได้ย้ำมาตลอดว่า เวลานี้พนักงานออฟฟิศ ยังรู้สึกตื่นเต้นหรือต้องปรับตัวกับการ Work from Home อยู่ แต่นี่เป็นแค่สถานการณ์ชั่วคราวที่เกิดจากโควิดเท่านั้น สิ่งที่ต้องโฟกัสมากกว่าคือ การเปลี่ยนวิถีการทำงานไปจากเดิมด้วยเทคโนโลยีต่างหาก ที่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

ais

ในงานสัมมนาออนไลน์ ในหัวข้อ “Future Thailand – Innovation in Education and Workforce Development” โดย The Stanford Thailand Research Consortium มีการพูดถึงการเตรียมความพร้อม การพัฒนาแรงงาน และระบบการศึกษาของไทยให้พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เรียกว่า Digital Disruption ซึ่งคำนี้อาจจะได้ยินกันบ่อยจนไม่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่

การเรียนแบบเก่ากำลังเป็นอุปสรรคใหญ่

กานติมา บอกว่า นี่คือเรื่องที่น่าเป็นห่วงสำหรับระบบการศึกษา แรงงาน และองค์กรของไทยอยู่ไม่น้อย สิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ ตอนนี้ระบบการศึกษาของไทย เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างมากจากที่มีวิชาคอมพิวเตอร์เป็นพื้นฐาน ตอนนี้ต้องเรียนด้านเทคโนโลยีมากกว่านั้น การเรียนการสอนต้องมีระบบออนไลน์มาเกี่ยวข้อง

ระบบการเรียนการสอนของไทยต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ตอนนี้นักเรียนนักศึกษากำลังถูกสอนในสิ่งที่ไม่ได้ใช้ในการทำงาน และต้องมาเสียเวลาฝึกอบรมกันใหม่ท่ามกลางการแข่งขันที่หนักหน่วง ความเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง เด็กไทยเรียนทฤษฎีอย่างหนัก ท่องจำสิ่งต่างๆ แต่นำมาประยุกต์ใช้ได้น้อย

นี่คือสิ่งที่ผู้ใหญ่ต้องยอมรับ และรีบปรับปรุงโดยด่วน

แนวทางหนึ่งที่สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว คือ การร่วมมือกันระหว่างสถาบันการศึกษากับภาคเอกชน โดยภาคเอกชนต้องสะท้อนความต้องการ ส่งต่อประสบการณ์ตรง และสถาบันการศึกษาต้องนำไปพัฒนาเป็นหลักสูตร เพื่อให้แรงงานพร้อมสำหรับการทำงานทันที

เช่น ระบบอาชีวศึกษาที่เน้นการปฏิบัติ เคยถูกมองเป็นมวยรองมาตลอด จะมีบทบาทมากขึ้น สถาบันการศึกษาอื่นๆ ต้องนำรูปแบบนี้มาใช้ อาจมีคอร์สเรียนสั้นๆ แต่ได้ใช้งานจริง เรียกว่า หลักสูตรต้องมีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา

ais
ภาพประกอบจาก AIS

ปัญหาใหญ่คือการ Reskill

ขณะที่การ Upskill ถ้ามีพื้นฐานที่ดี มีใจรักการเรียนรู้ ยังสามารถต่อยอดได้ แต่ กานติมา บอกว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับแรงงานไทยคือ การ Reskill เพราะแรงงานไทยจำนวนไม่น้อยยึดติดกับ Comfort Zone ของตัวเอง ทำให้การ Reskill เป็นไปได้ยาก

“ถ้าเรามีความเชื่อแบบเดิมๆ มั่นใจในทักษะที่ทำมาตลอด มาวันหนึ่งบอกว่าต้องเปลี่ยน ต้องเรียนรู้ใหม่ ของเดิมใช้ไม่ได้แล้ว นี่คือเรื่องท้าทายมาก เรื่องยากคือการให้คนเลิกทำสิ่งที่คนคุ้นเคย”

ทางออกคือ ทุกคนต้องมีความเข้าใจที่ถูกต้อง โดยเฉพาะผู้บริหาร

คนไทยยังไม่เชื่อว่าต้องปรับ และจะกลายเป็นปัญหาใหญ่

กานติมา บอกว่า คนไทยมีความสามารถ แต่อย่าให้ความสามารถมาเป็นอุปสรรคในการพัฒนาตัวเอง ตอนนี้เห็นชัดเจนว่า ประเทศไทยยังปรับไม่เพียงพอ และยังไม่เชื่อว่านี่คือเรื่องเร่งด่วน

ระบบการศึกษาไทยทุกคนรู้ว่าต้องปรับระบบใหม่ แต่คิดว่ายังไม่คอขาดบาดตาย ดังนั้นจึงไม่มีแผน ไม่มีการลงมือปฏิบัติ ผู้สอนและผู้มีประสบการณ์จริง ต้องอยู่ในสถาบันการศึกษา เพื่อสร้างแรงงานที่มีศักยภาพมากขึ้น เตรียมความพร้อมคนเข้าสู่ภาคธุรกิจ ความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษากับภาคเอกชนเป็นเรื่องนี้จำเป็นมาก

ส่วนองค์กรต่างๆ ต้องปรับ Mindset ใหม่ ต้องทำทั้ง Reskill และ Upskill อย่างหนัก เป็นเรื่องที่รอช้าไม่ได้ ไม่มีทางเลือกว่าจะทำหรือไม่ทำ สถานการณ์บังคับว่าต้องทำเดี๋ยวนี้เท่านั้น

ais
ภาพจากงานเปิดโครงการ Academy for Thais

AIS ดัน Academy for Thai และ Jump Thailand หนุนเต็มที่

AIS เป็นองค์กรธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมาตลอดหลายสิบปี แต่รู้แล้วว่าโลกกำลังเปลี่ยนและไม่ยึดติดกับความสำเร็จในอดีต จึงเน้นสร้างองค์ความรู้และการเปลี่ยนแปลงในองค์กร พร้อมกับส่งต่อองค์ความรู้นั้นออกสู่สังคม ด้วยโครงการ Academy for Thais เพื่อให้คนที่อยากได้องค์ความรู้แต่เข้าไม่ถึง

ขณะที่ Jump Thailand ส่งเสริมให้คนที่มีองค์ความรู้ มีแนวคิด ไอเดียแต่ขาดองค์ประกอบอื่นๆ ได้มาพัฒนานวัตกรรมร่วมกับ AIS ซึ่งเป็นเหมือนการสร้าง Ecosystem ให้เกิดขึ้นในสังคม เพราะรู้ว่าไม่มีใครสามารถเติบโตคนเดียว หรือทำทุกอย่างเองทั้งหมดได้

สรุป

เวลานี้ ทักษะที่สำคัญที่สุด คือ ความสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทำให้สามารถ Reskill และ Upskill ได้ ต้องจำไว้ว่าคนที่ไปข้างหน้าได้ก็ไปเลย คนที่ไม่ปรับก็จะถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างเลือกไม่ได้ ต้องยอมรับความจริงว่า มีคนถูกทิ้งไว้ตลอดเวลาเพราะสถานการณ์บังคับ

องค์กร ต้องสร้างความพร้อมในการเข้าถึงองค์ความรู้ใหม่ๆ ให้พื้นที่ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ต้องเปิดใจรับ Diversity แบบแผนเดิมๆ ไม่ได้การันตีว่าจะนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จในอนาคต องค์กรที่หยุดลงทุนเรื่องคนไปไม่รอด อย่างตอนนี้ทำอะไรมากไม่ได้ ต้องใช้เวลาในการพัฒนาคน เมื่อเศรษฐกิจกลับมา องค์กรจะพร้อมไปข้างหน้าทันที

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา