“ฮ่องกงคือสวรรค์ของบริษัทข้ามชาติ”
ข้อความนี้เคยเป็นเรื่องจริงหากเราย้อนไปก่อนหน้านี้ซัก 3-4 ปี ฮ่องกงเคยเป็นปลายทางในฝันของบริษัทข้ามชาติ เป็นสะพานเชื่อมโลกตะวันออกสู่ตะวันตก บริษัทเล็กใหญ่ต่างมาเปิดสาขาไว้มากมาย
แต่ทุกวันนี้ดูเหมือนว่า ฮ่องกงจะสูญเสียมนต์ขลังในการเป็นเมืองที่ไม่ว่าใครก็ต้องเข้ามาลงทุนไปทีละน้อย
- 42% ของบริษัทที่เป็นสมาชิกของหอการค้าอเมริกันมีแผนย้ายออกจากฮ่องกง
- สัดส่วนอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ไร้ผู้เช่าสูงสุดในรอบ 15 ปี โดย 80% เกิดจากบริษัทข้ามชาติยกเลิกสัญญา
- ข้อมูลทางการระบุว่า บริษัทข้ามชาติจำนวนมากเริ่มย้ายออกตั้งแต่ปี 2019
สถิติเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันชัดเจนว่า ฮ่องกงไม่ได้เป็นจุดหมายของบริษัทข้ามชาติอีกต่อไป ซ้ำร้ายบริษัทจำนวนมากเตรียมที่จะย้ายออกจากฮ่องกง
ปัญหาคือฮ่องกงเริ่มเป็น ‘จีน’ มากขึ้น
ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้บริษัทข้ามชาติย้ายออกคือการที่จีนมีความต้องการออกกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับฮ่องกง ทำให้ดินแดนที่มีลักษณะ ’กึ่งอิสระ’ เริ่มมีความใกล้ชิดกับจีนแผ่นดินใหญ่อย่างน้อยก็ในเรื่องของระบบกฎหมาย
เศรษฐกิจและการเมืองฮ่องกงจึงมีความใกล้ชิดกับจีนแผ่นดินใหญ่มากขึ้น ฮ่องกงที่กลายเป็น ‘จีน’ มากยิ่งขึ้นจึงสูญมนต์เสน่ห์ของการเป็น ‘เมืองตะวันออกบรรยากาศสากล’ ที่มีความเสรีในการลงทุนไปทีละน้อย
ต่อจากนี้บริษัทต่างชาติอาจชายตามองสถานที่ข้างเคียงเพื่อเข้าไปลงทุน เพราะสถานะของฮ่องกงทุกวันนี้ค่อนข้างจะกำกวม จะเป็นจีนก็ไม่ใช่ จะสากลก็ไม่เชิง
- แรงงานทักษะสูงรุ่นใหม่ อยากย้ายออกจาก ฮ่องกง
- อังกฤษให้วีซ่าคนฮ่องกง เริ่มชีวิตใหม่ในอังกฤษ
- ไม่มั่นใจ! ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งตัดสินใจไม่เปิดธุรกิจในฮ่องกงแต่ย้ายไปสิงคโปร์แทน
สำหรับบริษัทที่จะเข้าไปลงทุนในจีนโดยเฉพาะ ตัวเลือกอย่าง เซินเจิ้น หรือ เซี่ยงไฮ้ อาจดูเป็นทางเลือกที่เหมาะกว่า แต่หากอยากได้ความเป็นสากลบริษัทต่างๆ ก็มีแนวโน้มจะไปลงทุนใน สิงคโปร์ มากขึ้น
หลังจากนี้ ฮ่องกงอาจไม่ตอบโจทย์นักลงทุนอีกต่อไป
ที่มา – WSJ
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา