เมื่อรถยนต์ไฟฟ้ามา ไม่ได้กระทบแค่วงการรถยนต์ ประกันภัยก็โดน Tesla จับมือพาร์ทเนอร์ ขายรถพร้อมประกัน

ธุรกิจใหม่ขายรถพร้อมประกัน InsureMyTesla ส่งออกมาโดยความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์บริษัทประกันภัย ด้วยเหตุที่ Tesla มองว่าด้วยระบบไร้คนขับจะทำให้อุบัติลดลง ดังนั้นประกันภัยควรจะลดราคาลงตามด้วย แต่ก็ไม่รอช้า จับมือพาร์ทเนอร์ทำเองเสียเลย

Photo: Tesla Model S

ธุรกิจใหม่ขายรถพร้อมประกันโดย Tesla

Tesla ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผลิตรถยนต์ออกมาจำหน่ายอีกต่อไปแล้ว แต่ขายประกันภัยรถยนต์ไปพร้อมๆ กันเลยด้วย โดยไปจับมือกับพาร์ทเนอร์บริษัทประกันภัย Liberty Mutual ซึ่งประกันภัยที่ว่านี้จะเป็นประกันภัยชนิดที่ออกแบบได้ด้วยตนเอง (customized) ไม่ได้เป็นแพ็คเก็จประกันภัยชั้น 1,2,3 อย่างที่เรารู้จักกันอีกต่อไป

Tesla จับมือกับบริษัทประกันภัยหลายแห่ง เช่นในฮ่องกงและออสเตรเลีย เพื่อช่วยลดต้นทุนในการซื้อประกันภัย โดยขณะนี้ InsureMyTesla มีให้บริการในกว่า 20 ประเทศแล้ว แต่ไม่นานมานี้เพิ่งจับมือกับ Liberty Mutual เพื่อส่งบริการมาในสหรัฐอเมริกา

Elon Musk ซีอีโอ Tesla ระบุว่า “การซื้อประกันภัยสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าควรปรับราคาให้เหมาะสม” เพราะรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะของ Tesla มาพร้อมกับระบบขับด้วยตนเอง (autopilot) การทำประกันภัยเพื่อป้องกันอุบัติเหตุอาจไม่ใช่ปัจจัยหลักของการซื้อประกันอีกต่อไป (แม้ว่าจะยังคงมีข่าวเรื่องความผิดพลาดของระบบไร้คนขับบ้างก็ตาม) แต่ทางหลวงจราจรของสหรัฐอเมริกาบอกว่า นับตั้งแต่ Tesla ปล่อยระบบไร้คนขับออกมา อัตราการเกิดอุบัติเหตุบนทางหลวงลดลงไปกว่า 40%

ประเด็นสำหรับเรื่องประกันก็คือ อุตสาหกรรมประกันภัยควรจะปรับราคาให้ต่ำลง และที่สำคัญควรจะเป็นประกันภัยที่ให้ลูกค้ามีทางเลือกที่มากขึ้น เพราะหลักๆ แล้ว รูปแบบการประกันต่อไปนี้จะมุ่งไปที่การซ่อมบำรุงตัวรถยนต์/เครื่องยนต์มากกว่าการประกันภัยอุบัติเหตุ

วงการประกันภัยต้องปรับตัว ในยุครถยนต์ไร้คนขับ

เป็นอีกหนึ่งทางรอดของอุตสาหกรรมประกันภัยที่จะประสบปัญหาในแง่ธุรกิจ เพราะการมาของ “รถยนต์ไร้คนขับ” ในเชิงเทคนิคจะทำให้อุบัติเหตุลดลง (แม้ว่าในทางปฏิบัติต้องทดสอบและเรียนรู้อีกไม่น้อย) ดังนั้น อุตสาหกรรมประกันภัยต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง

ด้าน Tesla มองว่า หลังจากนี้จะรวมค่าประกันและค่าบำรุงรักษารถยนต์รวมกับค่ารถยนต์ไปเลย คือทำผ่าน InsureMyTesla แล้วให้ลูกค้าเลือกได้ว่าจะอะไรบ้าง จากนั้นก็คิดรวมกับราคาของรถยนต์ไปเลย

ที่มา – Business Insider

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา