ING มองปัญหาการเมืองไทยยังกดดันเศรษฐกิจ คาด GDP โต 3.1% และ กนง. ลดดอก 2 ครั้งในปีนี้

มุมมองของเศรษฐกิจไทยล่าสุดจากบทวิเคราะห์ของ ING ที่มองว่าเรื่องการเมืองจะยังกดดันเศรษฐกิจไทยต่อไป คาดว่า GDP ไทยปีนี้จะเติบโตเพียง 3.1% จากเดิมคาดไว้ที่ 3.8%

Bangkok Thailand
ภาพจาก Unsplash

ING สถาบันการเงินจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้ออกบทวิเคราะห์เกี่ยวกับการเมืองไทยหลังจากมีการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีออกมาแล้ว โดยมีมุมมองว่าแม้ว่าไทยจะได้รัฐบาลจากการเลือกตั้งแล้ว แต่ไทยเองก็ยังมีประเด็นทางการเมืองกดดันในภาคเศรษฐกิจต่อไป นอกจากนี้ยัง ING มองว่า กนง. จะลดดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้งภายในปีนี้ ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายเหลือเพียง 1.25%

ปัญหาการเมืองไทยยังกดดันต่อไป

สถาบันการเงินจากประเทศเนเธอร์แลนด์มองว่าหลังจากการเลือกตั้งถึง 3 เดือนยังไม่มีรัฐบาลอย่างเป็นทางการ แม้ว่าจะมีการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีและรอโปรดเกล้าก็ตาม นอกจากนี้เสียงของรัฐบาลที่ค่อนข้างปริ่มน้ำเพียงแค่ 4 เสียง ทำให้เสถียรภาพของรัฐบาลไม่ดีเท่าไหร่นัก และจะสร้างความไม่แน่นอนในอนาคต ซึ่งในตอนแรก ING ได้มองว่าหลังจากนี้การเมืองไทยจะกลับมามีเสถียรภาพอีกครั้งหลังจากรัฐประหารปี 2014 ซึ่ง ING ยอมรับว่าคิดผิด

นอกจากนี้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นคือการอภิปรายงบประมาณของรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะถูกทดสอบโดยฝ่ายค้าน ทำให้เกิดคำถามว่ารัฐบาลจะรอดจากการอภิปรายงบประมาณครั้งนี้หรือไม่ และถ้าหากรัฐบาลยังไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่หลังเดือนกรกฏาคมเป็นต้นไป ก็อาจทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อกลไกลของรัฐบาลลดลง

ข้อมูลจาก ING

ภาพรวมเศรษฐกิจยังไม่ดี

หลังจากตัวเลข GDP ในไตรมาส 1 ออกมาเพียงแค่ 2.8% แสดงถึงความอ่อนแอในเรื่องของภาคการส่งออกที่ยังได้รับผลกระทบจากสงครามการค้านอกจากนี้ตัวเลขของการสต็อกสินค้าที่เพิ่มขึ้นยังอาจทำให้ตัวเลข GDP ของไทยในไตรมาสข้างหน้าอาจย่ำแย่ลงไปอีก ยังรวมไปถึงการส่งออกสินค้าหลักของไทย เช่น ยานยนต์ รวมไปถึงอุปกรณ์ Electronics ที่ลดลงจากภาวะสงครามการค้า ยิ่งทำให้ภาคการส่งออกไทยย่ำแย่ไปอีก

ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวจากจีนยังลดลง นอกจากนี้ปัญหาการเมืองไทยยังส่งผลกระทบกับภาคการท่องเที่ยวของไทยด้วย ซึ่งการส่งออกและท่องเที่ยวได้เป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจไทยในช่วงที่ผ่านมา

สำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย ING มองว่าได้ลดความคาดหวังลงไป เนื่องจากการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ING ได้มองสัญญาณทางเศรษฐกิจของไทยในหลายๆ ตัว และพบว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 จะยังอ่อนแอต่อไป นอกจากนี้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคก็ยังไม่สามารถที่จะกลับมาฟื้นตัวในปีนี้ด้วยซ้ำ

ข้อมูลจาก ING

ปรับ GDP ไทยลงมาเหลือ 3.1%

ING ได้ปรับลด GDP ของไทยลงมาเหลือแค่ 3.1% เท่านั้น จากคาดการณ์ในตอนแรกที่ 3.8% โดยมองว่าการเติยโตทางเศรษฐกิจระดับปานกลาง ทำให้เงินเฟ้อค่อนข้างต่ำเสียด้วยซ้ำ และ ING คาดว่าค่าเฉลี่ยเงินเฟ้อของไทยในปีนี้จะอยู่ประมาณ 1% เท่ากับประมาณของกระทรวงพาณิชย์และธนาคารแห่งประเทศไทย

ขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยในปีนี้ ING มองว่าจะอยู่ทีประมาณ 4.8% ของ GDP ไทย โดยมองว่าไทยยังเป็นประเทศที่แข็งแกร่งในดุลบัญชีเดินสะพัดเมื่อเทียบกับหลายๆ ประเทศในเอเชีย ส่งผลให้ค่าเงินบาทของไทยแข็งค่า 6% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ อย่างไรก็ดีค่าเงินบาทที่แข็งมากไปส่งผลให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายน้อยลง เนื่องจากอดีตนั้นไทยเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวนิยม เพราะค่าใช้จ่ายถือว่าถูกมาก ING มองเป้าค่าเงินบาทในปีนี้ 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ ING ยังมองว่า กนง. จะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 2 ครั้งในปีนี้ เนื่องจากมองว่าด้วยสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่กำลังผันผวนอย่างหนักจึงไม่จำเป็นต้องดำเนินนโยบายทางการเงินแบบตึงตัว นอกจากนี้ยังมองว่าสภาพเศรษฐกิจของไทยไม่ได้ดีขึ้นตามหลังจากนโยบายทางการเงินครั้งล่าสุดที่ได้ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และยังคาดว่ารัฐบาลใหม่ต้องการนโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลายมากกว่านี้อีกด้วย คาดว่าจะลดดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกในไตรมาสนี้ และอีกครั้งในไตรมาส 4 ครั้งละ 0.25%

ข้อมูลจาก ING

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา