มัณฑนากรแนะนำ 4 เทคนิคแต่งบ้าน Work From Home ที่ไม่ใช่แค่สวย แต่คลายเครียดได้ด้วย

นักออกแบบและตกแต่งภายในแนะนำ 4 เทคนิควิธีการแต่งบ้านเตรียมพร้อมรับการทำงานที่บ้าน (Work From Home) ที่กลับมาอีกครั้ง ครั้งนี้ต้องคิดให้ไกล เพราะวิถีชีวิตแบบนี้อาจอยู่กับเราไปอีกหลายปี

ภาพโดย Arnel Hasanovic จาก Unsplash

ในช่วงนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มกลับมามีความรุนแรงกันอีกครั้ง หลายๆ คนกลับมาทำงานที่บ้าน (Work From Home) กันอีกครั้งในช่วงนี้ แต่อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่าสภาพแวดล้อมภายในบ้านทุกๆ หลัง จะเหมาะสมกับการทำงานเสมอไป บางครั้งบ้านจึงกลายเป็นสถานที่ที่มีสิ่งรบกวนการทำงานมากมาย จนทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง

ก่อนหน้านี้ Brand Inside เคยชวนอ่านเทคนิควิธีเพิ่มประสิทธิภาพขณะทำงานที่บ้าน ตามวิธีของ Marie Kondo นักแต่งบ้านชื่อดัง มาแล้ว แต่ความจริงแล้วการสร้างสภาพแวดล้อมในบ้านให้เหมาะสมกับการทำงานก็มีความสำคัญเช่นกัน

Jonathan Adler นักออกแบบและตกแต่งภายในที่มีชื่อเสียงในสหรัฐอเมริกา ได้แนะนำเทคนิควิธีในการแต่งบ้าน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับการทำงาน แต่เขามีแนวคิดการแต่งบ้านที่แปลก และไม่เหมือนคนอื่นๆ ทั่วไป เพราะเขาเชื่อว่า “การแต่งบ้านให้สวยงาม ช่วยลดความเครียดในการทำงานยิ่งเสียกว่าการรับประทานยาแก้เครียดเสียด้วยซ้ำ”

ทำงานที่บ้านต้องคิดการณ์ไกล อย่ามองว่าเป็นเรื่องชั่วคราว

ก่อนที่จะเข้าสู่เทคนิคการแต่งบ้าน Adler แนะนำว่า ควรมองเรื่องการทำงานที่บ้านเป็นเรื่องที่ต้องทำในระยะยาว เราอาจไม่ได้ทำงานที่บ้านแค่ชั่วคราวในระยะสั้นๆ ไม่กี่สัปดาห์ หรือไม่กี่เดือนอีกต่อไป แต่ควรใช้โอกาสนี้เปลี่ยนสภาพแวดล้อมของบ้านให้เหมาะกับการทำงานในระยะยาวไปเลย

ซึ่งเมื่อบอกว่าเรื่องการทำงานที่บ้านเป็นเรื่องที่ควรคิดระยะยาว หลายคนอาจนึกถึงการซื้อบ้านหลังใหม่ แต่ความจริงแล้ว Adler แนะนำว่า เราควรจินตนาการว่าหากบ้านของเรามีแต่ห้องโล่งๆ เราจะตกแต่งบ้านอย่างไร โดยเริ่มตั้งแต่การนับหนึ่งเป็นขั้นตอนแรก

ภาพโดย André François McKenzie จาก Unsplash

อย่ายึดติดกับฟังก์ชั่นของห้องอีกต่อไป

แต่เดิมเรามักเข้าใจว่าห้องแต่ละห้องมีวัตถุประสงค์การใช้งานเฉพาะ ห้องนอนต้องใช้นอน ห้องครัวต้องเอาไว้แค่ทานอาหาร หรือทำกับข้าวเท่านั้น

แต่ในความจริงแล้ว Adler แนะนำว่า “ชีวิตของเราจะมีความสุขมากกว่า ถ้าไม่ยึดติดกับวัตถุประสงค์ของห้องมากเกินไป” นอกจากนี้การยึดติดว่าแต่ละห้องมีวัตถุประสงค์การใช้งานเฉพาะเท่านั้น จะทำให้เกิดพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้งานในบ้าน

Adler ยกตัวอย่างว่า หากเราอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ ทำไมไม่เปลี่ยนเคาน์เตอร์ครัวขนาดใหญ่ หรือตู้เสื้อผ้าที่ไม่ค่อยได้ใช้ ให้กลายเป็นพื้นที่สำหรับการทำงานแทน หรือหากบ้านใครมีพื้นที่ใต้บันได ทำไมไม่ลองเปลี่ยนพื้นที่ตรงนั้นให้กลายเป็นพื้นที่กินข้าว แล้วใช้ห้องครัวเป็นพื้นที่การทำงานแทน

ภาพโดย Pickawood จาก Unsplash

สร้างมุมสำหรับการประชุมออนไลน์ ที่บ่งบอกความเป็นตัวตน

ในช่วงการระบาดของโควิด-19 รอบที่ผ่านมา หลายๆ คนประสบกับปัญหาไม่มีพื้นที่สำหรับการประชุมออนไลน์ที่เหมาะสม อาจเป็นเพราะฉากหลังไม่สวยงาม บ้านรก ต้องเก็บของ

Adler แนะนำว่า เราควรมีพื้นที่ หรือมุมสำหรับการประชุมออนไลน์โดยเฉพาะ แม้ว่าภายในบ้านของเราอาจไม่ได้มีห้องทำงานเลยก็ตาม เพราะภาพพื้นหลังในขณะที่เราประชุมออนไลน์ เป็นสิ่งที่บ่งบอกตัวตนของเรา และช่วยส่งเสริมสิ่งที่เราต้องการสื่อสารออกไป

ที่ผ่านมาเรามักเห็นแอปพลิเคชันประชุมออนไลน์มีฟีเจอร์ในการเปลี่ยนภาพพื้นหลังเป็นรูปต่างๆ อย่างเช่นรูปชั้นหนังสือ หรือหลายๆ คน อาจลงทุนซื้อชั้นหนังสือ และหนังสือมาวางให้เต็มชั้นจริงๆ ก็มี แต่ Adler แสดงความคิดเห็นว่า “มันเป็นเรื่องน่าตลกที่หลายคนลงทุนซื้อชั้นหนังสือ และหนังสือมาใส่ ทั้งๆ ที่ไม่เคยอ่านหนังสือเหล่านั้นเลย”

แต่ Adler แนะนำว่า ถ้าอยากสร้างภาพพื้นหลังสวยๆ ให้กับการประชุมออนไลน์ ควรลงทุนกับการซื้อเฟอร์นิเจอร์ หรืองานศิลปะสวยๆ มากกว่า เช่น ตกแต่งผนังให้ห้องครัวสำหรับการประชุมออนไลน์ด้วยเครื่องปั้นดินเผาชิ้นเล็กๆ

ภาพโดย Taylor Vick จาก Unsplash

สภาพแวดล้อมที่ดี ช่วยลดความเครียดได้

นอกจากการสร้างมุมประชุมออนไลน์ให้สวยงามแล้ว การตกแต่งบ้านในส่วนอื่นๆ ก็สำคัญเช่นกัน เพราะความสวยงาม และสภาพแวดล้อมที่ดีจะเป็นสิ่งที่ช่วยลดความเครียดได้ ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟสวยๆ เก้าอี้ที่นั่งสบายๆ

หรือหากมีงบประมาณไม่มาก ก็ไม่ต้องใช้ของตกแต่งรายคาแพงก็ได้ อาจลองใช้งานศิลปะที่เคยทำ ผลงานวาดรูปของลูกๆ มาวางแทนก็ได้

นอกจากนี้ Adler ยังแนะนำด้วยว่าหากมีพื้นที่มากพอ ลองจัดมุมสำหรับการพักผ่อนไว้ข้างๆ โต๊ะทำงาน เมื่อถึงเวลาที่อยากพักก็จะได้เปลี่ยนมุมง่ายๆ ดื่มกาแฟไประหว่างนั่งพัก แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ Adler เน้นย้ำคือ “ให้จัดบ้านยังไงก็ได้ที่ทำให้เรามีความสุข” แค่นี้ก็พอแล้ว

ที่มา – Fastcompany

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา