Hotel Subscription กลยุทธ์ใหม่เครือโรงแรมทั่วโลก จ่ายรายเดือน ทำงาน-นอนค้างไม่จำกัด

เราคงคุ้นเคยกับคำว่า Subscription หรือการสมัครเป็นสมาชิกกับบริการ เช่น บริการสตรีมมิงภาพยนตร์ และเพลง บริการพื้นที่ฝากไฟล์ออนไลน์ หรือแม้แต่ฟิตเนส ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายรายเดือนเป็นประจำ

แต่ในขณะนี้บริการ Subscription กำลังกลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ใหม่ๆ ที่เครือโรงแรมระดับโลกหลายแห่งเลือกใช้ ในช่วงที่ผู้เข้าพักโรงแรมลดลง จากสถานการณ์โควิด-19 โดยจับกลุ่มลูกค้าที่เบื่อการทำงานที่บ้าน (Work From Home) อยากเปลี่ยนบรรยากาศ และสถานที่

InterContinental Hotels Group, Marriott และ Accor 3 เครือโรงแรมรายใหญ่ของโลก เปิดให้บริการ Subscription จ่ายเงินเป็นรายเดือน เข้าพักในโรงแรมได้ไม่จำกัด นอกเหนือจากการรองรับผู้เข้าพักที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศการทำงาน จาก Work From Home เป็น Work From Hotel แล้ว ผู้เข้าพักบางคนยังใช้โรงแรมเป็นยิม หรือห้องสตูดิโอสำหรับบันทึกเสียงส่วนตัวก็ได้

citizenM เครือโรงแรมจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ก็กำลังจะเปิดให้บริการ Subscription รายเดือน ในราคา 600 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน หรือประมาณ 18,782 บาท โดยสามารถเข้าใช้โรงแรม 21 แห่ง ทั้งในนิวยอร์ก ปารีส แลอัมสเตอร์ดัม สำหรับการทำงาน ใช้ประชุม และค้างคืนได้ 3 คืน ต่อเดือน

แต่ถ้าหากต้องการนอนพักค้าคืนที่โรงแรมแบบไม่จำกัด ก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ราคาของแพคเกจจะมีความต่างกัน อยู่ที่ 1,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน หรือประมาณ 46,949 บาท หรือเฉลี่ยเพียงคืนละ 50 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,564 บาท

ไม่ใช่แค่เครือโรงแรมรายใหญ่ระดับโลกเท่านั้น แต่ บริษัทที่ให้บริการด้านการท่องเที่ยวก็กำลังสนใจกลยุทธ์ Subscription เช่นเดียวกัน

Inspirato บริษัทผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวแบบหรูหรา ก็เปิดให้บริการ Inspirato Pass membership จ่ายเงิน 2,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน หรือประมาณ 78,275 บาท สามารถเข้าพักได้ในที่พักกว่า 300 แห่ง ไม่จำกัด โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่มอีก รวมถึงแพคเกจ Inspirato Club ที่มีราคาถูกกว่า เพียง 600 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน หรือประมาณ 18,782 บาท โดยจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการเข้าพักในที่พักต่อคืนเพิ่ม

ที่พักระยะยาว และ Staycation กลยุทธ์โรงแรมไทย

แม้โรงแรมในประเทศไทย จะยังไม่ได้ใช้กลยุทธ์ Subscription โดยตรงแบบโรงแรมในต่างประเทศ แต่โรงแรมในไทยหลายๆ แห่ง ก็เลือกที่จะใช้กลยุทธ์ เปลี่ยนโรงแรมให้กลายเป็นที่พักระยะยาว แข่งขันกับการเช่าอพาร์ทเมนท์ หรือคอนโดมิเนียม โดยมีข้อได้เปรียบคือได้บริการที่ครบกว่า ตามแบบฉบับของโรงแรม แต่จ่ายในราคาเท่ากัน

หรือแม้แต่การใช้กลยุทธ์ Staycation ดึงดูดให้คนไทย ใช้บริการ แก้เบื่อ เปลี่ยนบรรยากาศ จากนอนที่บ้านมาเป็นนอนโรงแรม จ่ายค่าห้องพักต่อคืน แต่ได้บริการเสริมอื่นๆ ด้วย เช่น บุฟเฟต์อาหารเช้า กลางวัน เช็คอินได้ตั้งแต่เช้า เช็คเอาท์ได้ถึงเย็น ได้ส่วนลดค่าอาหาร ค่าสปา

แถมโรงแรมเหล่านี้ส่วนใหญ่มักมีบรรยากาศดี น่าถ่ายรูป ทุกมุมของโรงแรมจึงกลายเป็นจุดถ่ายรูปแล้วโพสต์ลง Instagram ได้ (Instagramable) ซึ่งกลายเป็นจุดที่ดึงดูดให้คนเข้าพักในโรงแรมได้ดีเช่นกัน

ที่มา – cnbc

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา