Google ยืนยันแล้วว่าการได้ร่วมกับพาร์ทเนอร์เพื่อเข้าลงทุนใน Go-Jek สตาร์ทอัพแอพเรียกรถรายใหญ่ในอินโดนีเซียเป็นเรื่องจริง หลังจากนี้การแข่งขันจะเข้มข้นขึ้น ที่สำคัญ Uber และ Grab เตรียมเจองานหนักได้เลย
Google ยืนยันแล้ว ลงทุนใน Go-Jek
หลังจากที่มีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้ ตอนนี้ถือเป็นการยืนยันที่ชัดเจนจากทาง Google แล้วว่าจะร่วมกับ Temasek กองทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ และ Meituan-Dianping เว็บซื้อดีลรายใหญ่ของจีนลงทุนใน Go-Jek สตาร์ทอัพเรียกรถรายใหญ่ของอินโดนีเซีย มีมูลค่าบริษัทกว่า 4 พันล้านดอลลาร์
- ความน่าสนใจของดีลนี้ยังเหมือนเดิมคือ เป็นการลงทุนของ Google โดยตรง ไม่ได้ผ่านหน่วยงาน Google Ventures ที่เอาไว้ลงทุนโดยเฉพาะ นั่นหมายความว่า Go-Jek ถือเป็นบริษัทรายแรกในปี 2018 ที่ Google เข้าไปลงทุนโดยตรง ส่วนมูลค่าของดีลยังยืนยันตามที่ Reuters ได้ประเมินไว้ว่าอยู่ที่ 1,200 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3.7 หมื่นล้านบาท
ทำไม Google ถึงลงทุนใน Go-Jek
Google ให้เหตุผลของการเข้าลงทุนใน Go-Jek ด้วยการอ้างถึงสถิติของ Statista ที่ระบุว่า อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีผู้ใช้งานออนไลน์สูงเป็นอันดับ 5 ของโลก ตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 133 ล้านคน รองมาจากจีน อินเดีย สหรัฐอเมริกา และบราซิล
Google มองว่า อินโดนีเซียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตในแง่การใช้อินเทอร์เน็ตสูงมาก และยังเป็นประเทศที่มีสตาร์ทอัพยูนิคอร์นเกิดขึ้นในอัตราที่สูงเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค อินโดนีเซียมีสตาร์ทอัพยูนิคอร์นถึง 4 ราย ในขณะที่ทั้งภูมิภาคอาเซียนมีทั้งหมด 8 รายเท่านั้น
นอกจากนั้น Google ยังเชื่อว่า บริการแอพเรียกรถ (ride-hailing service) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเติบโตอย่างมหาศาล โดยคาดการณ์ไว้ว่าในปี 2025 มูลค่ารวมของตลาดนี้จะสูงถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยที่ประมาณ 6.2 แสนล้านบาท
- นับเป็นการคาดการณ์การเติบโตที่ก้าวกระโดดมาก เพราะในปี 2015 มูลค่าตลาดอยู่ที่ 2,500 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 7.8 หมื่นล้านบาท
- ส่วนในปี 2017 มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5,100 ล้านดอลลาร์ หรือราวๆ 1.6 แสนล้านบาทเท่านั้นเอง
Grab มีหนาว ส่วน Uber ไม่ต้องพูดถึง เพราะงานหนักขึ้นอีก
การลงทุนของ Google ในครั้งนี้ น่าจะทำให้ Grab ที่เป็นเจ้าตลาดแอพเรียกรถของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คงรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ กันบ้าง เพราะ Go-Jek มีฐานผู้ใช้งานที่มั่นคงในบ้านเกิด การได้เงินลงทุนของ Google และพาร์ทเนอร์ในครั้งนี้จะทำให้ Go-Jek เสริมความแข็งแกร่งในการให้บริการเพิ่มขึ้นไปอีก
แต่ Grab ที่ว่าน่าจะทำตลาดในอินโดนีเซียได้ยากขึ้นแล้ว แต่ถ้าไปดู Uber แทบจะไม่ต้องพูดถึง เพราะรายนี้ประสบปัญหาจากการทำธุรกิจนอกประเทศของตัวเอง (สหรัฐอเมริกา) มานานแล้ว อย่างเช่น ในจีนที่เข้าไปทำธุรกิจ แต่ก็เหลวไม่เป็นท่า จนสุดท้ายต้องขายกิจการในจีนให้กับ Didi
- พูดได้ว่า Go-Jek ได้กลายเป็นหนึ่งในบริการแอพเรียกรถที่น่ากลัวสำหรับคู่แข่งที่คิดจะเข้าไปทำตลาดในประเทศอินโดนีเซียอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม การที่ Google ลงทุนใน Go-Jek ในขั้นแรกอาจโฟกัสไปที่ตลาดแอพเรียกรถ แต่ในระยะยาวคือการลุยตลาด e-Payment ผ่าน Go-Jek นั่นก็คือการทำให้บริการ Go-Pay แข็งแกร่งและขยายออกไปเพิ่มอีกนั่นเอง
ที่มา – Google, techcrunch
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา