เจาะธุรกิจ Gogolook ผู้ให้บริการระบบกันมิจฉาชีพ และเจ้าของแอปฯ Whoscall ทำรายได้ 877 ล้านบาท

ภัยไซเบอร์ในปัจจุบันมีการโจมตีมหาศาล เหยื่อมีตั้งแต่ผู้บริโภคทั่วไป, SME จนถึงองค์กรขนาดใหญ่ จนทุกภาคส่วนเริ่มให้ความสำคัญเรื่องนี้มากขึ้น และอานิสงส์ก็คงไปตกอยู่ที่ผู้ให้บริการระบบป้องมิจฉาชีพออนไลน์ ซึ่ง Gogolook ผู้ให้บริการเรื่องนี้จากไต้หวันคือหนึ่งในนั้น

ชื่อของ Gogolook อาจไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่ถ้าบอกว่า Gogolook คือเจ้าของแอปพลิเคชัน Whoscall เชื่อว่าคนไทยน่าจะคุ้นกันบ้าง เพราะแอปฯ ดังกล่าวเริ่มถูกดาวน์โหลดใช้งานมากขึ้น และมีการทำตลาดร่วมกับองค์กรต่าง ๆ ที่ต้องการช่วยเหลือลูกค้าของพวกเขาให้ปลอดภัยจากมิจฉาชีพผ่านระบบบล็อกเลขหมายของ Whoscall

วันนี้ Brand Inside อยากชวนมาทำความรู้จักภาพรวม Gogolook และแอปพลิเคชัน Whoscall ให้มากขึ้น เพราะธุรกิจดังกล่าวที่ดำเนินธุรกิจโดยเน้นบล็อกมิจฉาชีพนั้นสร้างรายได้ในปี 2023 ที่ 771 ล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่ หรือราว 877 ล้านบาท แถมเติบโต 83% จากปีก่อน ดังนี้

Whoscall

Gogolook กับการวางตัวเป็นบริษัท TrustTech

หลังจากก่อตั้งเมื่อปี 2012 ทาง Gogolook วางตัวเองเป็นบริษัท TrustTech หรือผู้ให้บริการเทคโนโลยีเพื่อความเชื่อมั่น ผ่านการมีข้อมูลที่ช่วยป้องกันการหลอกลวงในรูปแบบต่าง ๆ และมีเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยอีกขั้น จนการให้บริการระบบป้องกันการหลอกลวงในโลกดิจิทัล และบริการบริหารความเสี่ยงให้ผู้บริโภค และองค์กรต่าง ๆ

Gogolook มีธุรกิจหลักคือ Whoscall แอปพลิเคชันป้องกันการหลอกลวงในโลกดิจิทัลที่พัฒนาขึ้นเอง มียอดดาวน์โหลดกว่า 100 ล้านครั้งทั่วโลก และมีผู้ใช้งานต่อเนื่องรายเดือน (MAU) 17 ล้านราย มีพื้นที่หลักที่ให้บริการ เช่น ไต้หวัน, ไทย, ญี่ปุ่น และบราซิล และปัจจุบันมีข้อมูลเลขหมายโทรศัพท์มากที่สุดในเอเชียตะวันออก และอาเซียน

Whoscall Whoscall

นอกจากนี้ยังมี Roo.Cash มาร์เก็ตเพลสด้านการเงินส่วนบุคคลที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในไต้หวัน และบริการป้องกันการหลอกลวงในระดับองค์กรที่มี AI เป็นฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อน และเตรียมพํฒนาบริการเกี่ยวกับความปลอดภัยไซเบอร์ส่วนบุคคล รวมถึง FinTech ในรูปแบบอื่น ๆ

ทุกคนตระหนักเรื่องความปลอดภัยทำกิจการเติบโต

การที่ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญในเรื่องการหลอกหลวงในโลกดิจิทัล และความปลอดภัยไซเบอร์ ทำให้ Gogolook สิ้นปี 2023 มีรายได้รวม 771 ล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่ หรือราว 877 ล้านบาท เติบโต 83% จากปีก่อน ผ่านการมีพนักงาน 187 คน มี 7 พื้นที่หลักที่ให้บริการ และบล็อกเลขหมาย กับข้อความไปแล้วกว่า 10,000 ล้านครั้ง

Whoscall Whoscall

ตัวเลขดังกล่าวสามารถแบ่งเป็นสัดส่วนในแง่บริการเป็น Trust Cloud Services ที่ประกอบด้วย Whoscall และระบบความปลอดภัยสำหรับองค์กร 86% (เป็นลูกค้าผู้บริโภคทั่วไปเกือบทั้งหมด) ที่เหลือเป็นบริการทางการเงินสำหรับผู้บริโภค ส่วนถ้าแบ่งเป็นพื้นที่จะมาจากไต้หวัน 47% รองลงมาเป็นพื้นที่อื่น ๆ ในเอเชียตะวันออก 46%

Gogolook เพิ่มความแข็งแกร่งเรื่องข้อมูลการหลอกลวงผ่านดิจิทัลด้วยการร่วมมือกับตำรวจ และหน่วยงานรัฐบาลของแต่ละประเทศ ยิ่งปัจจุบันตลาด TrustTech ทั่วโลกมีมูลค่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 9.23 ล้านล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 18-22% ต่อปี ทำให้ Gogolook และ Whoscall มีโอกาสเติบโตหลังจากนี้

Whoscall Whoscall

เจาะตัวเลข Whoscall ธุรกิจหลักของ Gogolook

หากเจาะไปที่ Whoscall จะพบว่า บริการดังกล่าวอยู่ในกลุ่ม Consumer Trust Cloud Services ของ Gogolook นอกจากมี 100 ล้านดาวน์โหลดทั่วโลก และมีผู้ใช้งานต่อเนื่องรายเดือน 17 ล้านราย ยังมีฐานข้อมูลเลขหมาย 2,600 ล้านเลขหมาย และมีการโทรเข้ารับสายที่วิ่งผ่าน Whoscall ถึง 2,000 ล้านครั้ง

Whoscall มีรายได้ 2 ช่องทางคือ รายได้จากโฆษณา กับรายได้จากการสมัครสมาชิก Premium โดยปี 2023 สัดส่วนรายได้จากโฆษณาอยู่ที่ 34% และรายได้จาก Premium อยู่ที่ 66% ซึ่งรายได้จาก Premium มีแนวโน้มเติบโตขึ้นผ่านบริการใหม่ ๆ ที่สร้างขึ้น แม้สัดส่วน Premium จะอยู่ที่ 5% ของผู้ใช้งานทั้งหมด

Whoscall Whoscall

บริการใหม่ที่พัฒนาขึ้น เช่น การตรวจสอบ URL ของลิงก์ที่ส่งมาในข้อความ, การอัปเดตฐานข้อมูลอัตโนมัติ และการบล็อกเลขหมายอัตโนมัติ เป็นต้น ส่วนรายได้จากโฆษณา Whoscall จะร่วมกับแพลตฟอร์มโฆษณาอื่น ๆ ควบคู่กับการเจรจากับองค์กรต่าง ๆ ในการใช้ Whoscall เป็นช่องทางในการทำตลาดเพื่อช่วยป้องกันการหลอกลวง

ขอช่วยไทยลดสูญเสียจากการหลอกลวง 28,000 ล้านบาท

ฐิตินันท์ สุทธินราพรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Gogolook เล่าให้ฟังว่า สถิติในปี 2023 มีคนไทยที่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพวันละ 217,047 ราย มีคนไทยได้รับสายจากมิจฉาชีพถึง 20.8 ล้านครั้ง และถูกมิจฉาชีพหลอกลวงจาก SMS มากกว่า 58.3 ล้านข้อความ

Whoscall Whoscall

จำนวนดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นจากปี 2022 ที่มียอดรวมของสายโทรศัพท์หลอกลวงเพิ่มขึ้น 22% และ ข้อความ SMS เพิ่มขึ้น 17% รวมมูลค่าความเสียหายสะสมกว่า 53,875 ล้านบาท ดังนั้นในปี 2024 Whoscall จึงตั้งเป้าที่จะช่วยชาติลดความสูญเสียทางทรัพย์สินจำนวน 28,000 ล้านบาท จากมิจฉาชีพ

ควบคู่กับการรณรงค์ให้คนไทยทั้งประเทศดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Whoscall เพื่อ ให้เป็นแอปกันมิจฉาชีพที่ทุกคนต้องมี เพราะเสียงของทุกคนมีความหมายที่จะช่วยป้องกันให้คนที่เรารัก ปลอดภัยจากกลลวงต่าง ๆ ด้วยการแจ้งเบอร์มิจฉาชีพ ตัดสาย และไม่กดลิงก์จาก SMS พร้อมร่วมมือกับองค์กรอื่น ๆ ในการช่วยกันสื่อสารเรื่องนี้

Whoscall Whoscall

ใช้พรีเมียม Whoscall เพิ่ม ทำบริษัทกำไรครั้งแรก

สำหรับค่าเฉลี่ยรายได้ต่อผู้ใช้ หรือ ARPU ของ Whoscall ในปี 2023 อยู่ที่ 50.4 ดอลลาร์ไต้หวันใหม่ หรือ 57 บาท เติบโต 72% เมื่อเทียบกับปี 2022 ซึ่งการจับจ่ายที่มากขึ้นนี้เองทำให้ Gogolook มีกำไรสุทธิเป็นครั้งแรกตั้งแต่เริ่มก่อตั้งกิจการที่ 5 ล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่ หรือราว 5 ล้านบาท คิดเป็น 3% เมื่อเทียบกับรายได้รวม

Gogolook มีเป้าหมายขยาย ARPU และผู้ใช้งานเฉลี่ยต่อเดือนเพิ่มขึ้น ผ่านการขยายธุรกิจในไต้หวันที่มีประชากร 23 ล้านคน ให้แข็งแกร่ง ควบคู่กับการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับ 6 ประเทศที่มีทำตลาดอยู่แล้ว และมีประชากรรวมกว่า 500 ล้านคน รวมถึงขยายตลาดไปยังพื้นที่อื่น ๆ ที่ยังมีประชากรอีก 1,500 ล้านคน

Whoscall Whoscall

ทั้งหมดนี้คือภาพรวมธุรกิจของ Gogolook และ Whoscall ที่พัฒนาบริการต่าง ๆ มาแก้ปัญหาเรื่องการหลอกลวงดิจิทัลทั้งผู้บริโภคทั่วไป และระดับองค์กร ซึ่งหลังจากนี้มีแผนขยายออกไปมากกว่าแค่ในเอเชีย เพื่อไปแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่ไม่ใช่แค่ในเอเชียที่เจอ เพราะประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกก็เจอเหมือนกัน

Whoscall

อ้างอิง // รายงานผลประกอบการของ Whoscall

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา