ตลาดเสื้อผ้ามือสองมาแรง คาดโต 127% ภายในอีก 3 ปี ขณะที่ความนิยม Fast Fashion ลดลง

เสื้อผ้ามือสองได้รับการยอมรับทางสังคมมากขึ้นทำให้ตลาดเติบโตแรง ผู้บริโภคภาคภูมิใจกับการเปิดเผยว่าตนเองซื้อเสื้อผ้าราคาประหยัด ขณะที่คนนิยมเสื้อผ้า Fast Fashion น้อยลง

ThredUP เว็บไซต์ซื้อขายเสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่นมือสองเผยรายงาน Resale Report 2022 คาดการณ์ว่าตลาดเสื้อผ้ามือสองทั่วโลกจะเติบโตขึ้น 127% ภายในปี 2026 โดยคาดว่ามูลค่าตลาดเสื้อผ้ามือสองจะอยู่ที่ 2.18 แสนล้านดอลลาร์หรือราว 7.47 ล้านล้านบาท ถือว่าโตเร็วกว่าตลาดเสื้อผ้าโดยรวมเฉลี่ยเป็น 3 เท่า

รายงานมาจากการเก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้บริโภค 3,500 คนในสหรัฐอเมริกาประกอบกับข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคจาก ThredUP เองเผยว่า ตลาดเสื้อผ้ามือสองได้รับการยอมรับมากขึ้นจากกลุ่มผู้บริโภคและเป็นไปได้ว่าภายในปี 2023 เสื้อผ้ามือสองจะมีส่วนแบ่งการตลาดจากตลาดเสื้อผ้าทั้งหมดอยู่ที่ 23% เทียบกับตอนนี้ที่มี 2.3% รวมทั้งตลาดเสื้อผ้ามือสองมีขนาดใหญ่เกือบ 2 เท่าของตลาด Fast Fashion ภายในปี 2029

นอกจากนี้ รายงานยังเผยข้อมูลที่น่าสนใจ ดังนี้

  • 3 ใน 4 ของผู้บริโภคที่ซื้อเสื้อผ้ามือสองระบุว่าตนเองเป็นคนประหยัดและภูมิใจกับการเปิดเผยว่าตนเองซื้อเสื้อผ้ามือสอง นอกจากนี้ ผู้บริโภค 74% กล่าวว่าเสื้อผ้ามือสองได้รับการยอมรับทางสังคมมากขึ้นกว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
  • คน Gen Z เป็นกลุ่มที่เปิดรับการใช้เสื้อผ้ามือสองได้เร็วกว่าคนรุ่นอื่น ส่วนสาเหตุหลักที่ผู้บริโภคเลือกซื้อเสื้อผ้ามือสองก็เพราะต้องการประหยัดเงิน ส่วนสาเหตุที่ 2 ที่เป็นสาเหตุหลักของ Gen Z ด้วยคือเสื้อผ้ามือสองดีต่อสิ่งแวดล้อมมากว่า
  • ผู้บริโภค 72% กล่าวว่า ตนเองเลือกซื้อ Fast Fashion เพราะมีราคาถูก รวมทั้งผู้บริโภค 74% เชื่อว่าพฤติกรรมการบริโภคของปัจเจกบุคคลมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ในขณะที่ 50% ในจำนวนนี้มองว่า Fast Fashion มีผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อม

สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศผู้ส่งออกเสื้อผ้ามือสองรายใหญ่ที่สุด โดย 70% ของประชากรโลกทั้งหมดใช้เสื้อผ้ามือสองและเคนย่าเป็นประเทศที่นำเข้าเสื้อผ้ามือสองรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปแอฟริกา 

เสื้อผ้ามือสองได้รับการยอมรับและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นหลังจากที่คนเริ่มให้ความสนใจกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากกระบวนการผลิตเสื้อผ้า แฟชั่นเป็นอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่อโลกมากเป็นอันดับที่ 3 รองจากอาหารและการก่อสร้างโดยเฉพาะเสื้อผ้าแบบ Fast Fashion ที่คอลเลคชันเสื้อผ้าเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วตามเทรนด์แฟชัน ทำให้ Fast Fashion มีราคาถูกเพราะผลิตให้เหมาะกับการใช้ในระยะสั้น คนใช้เสื้อผ้าไม่กี่ครั้งแล้วทิ้ง 

ในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา การผลิตเสื้อผ้าเติบโตขึ้นเป็น 2 เท่าจาก Fast Fashion โดยเฉลี่ยผู้บริโภคซื้อเสื้อผ้ามากขึ้นถึง 60% ขณะที่ระยะเวลาการใช้เสื้อผ้าลดลงจากแต่ก่อนครึ่งหนึ่ง นอกจากนี้ thredUP ยังรายงานว่าผู้บริโภค 1 ใน 2 กำจัดเสื้อผ้าด้วยการทิ้งทันที แต่ขณะนี้ตลาดเสื้อผ้ามือสองเริ่มโตขึ้นมากทำให้แพลตฟอร์มซื้อขายเสื้อผ้าราคาถูกอย่าง thredUp ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

ที่มา – ThredUP, EDGE, Quartz

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา