“สหรัฐและจีนเป็น 2 ประเทศที่สร้างหนี้เยอะสุด คิดเป็น 60% ของหนี้รวมทั่วโลก” บทวิเคราะห์ล่าสุดจาก IIF

รายงานจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศ นั้นได้รายงานว่าหนี้ทุกประเทศรวมกันล่าสุดอยู่ที่ 250 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยประเทศสร้างหนี้มากสุดคือสหรัฐและจีน

Shanghai China เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
ภาพจาก Unsplash

สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (Institute of International Finance) ได้ออกรายงานล่าสุดถึงสถานการณ์หนี้ทั่วโลก ว่าครึ่งปีแรกของปี 2019 หนี้ทั่วโลกรวมกันล่าสุดอยู่ที่ 250 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยถ้าหากหารเฉลี่ยทุกคนกับประชากรโลก 7,700 ล้านคนแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 32,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 983,125 บาท ซึ่งแสดงถึงสถานการณ์หนี้ทั่วโลกนั้นไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด

สำหรับประเทศที่สร้างหนี้มากที่สุดในโลกคือ สหรัฐอเมริกาและจีน ซึ่งหนี้รวมกันแล้วคิดเป็นสัดส่วน 60% ของหนี้ทั้งหมดในโลกนี้ โดยหนี้ของรัฐบาล 2 ประเทศนี้อยู่ราวๆ 70 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เทียบได้กับหนี้ทั้งหมดของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาทั้งหมด

ถ้าหากแยกประเภทของหนี้ทั้งหมด หนี้จากรัฐบาลนั้นยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้นั้นเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 1.5% ขณะที่หนี้ของเอกชนถ้าหากไม่นับรวมกับสถาบันการเงินแล้ว เติบโตประมาณ​ 1% นอกจากนี้ในรายงานของสถาบันการเงินระหว่างประเทศนั้นได้แสดงให้เห็นว่าหนี้ของรัฐวิสาหกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนานั้นมีระดับหนี้ที่สูงว่าเอกชนด้วยซ้ำ

สถาบันการเงินระหว่างประเทศ ยังได้เตือนถึงประเทศกำลังพัฒนาที่เติบโตด้วยการกู้ยืมสกุลเงินจากต่างประเทศ โดยเฉพาะ ตุรกี เม็กซิโก ชิลี ฯลฯ อาจเกิดความเสี่ยงได้ทันทีจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และคาดการณ์ว่าภายในสิ้นปีนี้นั้นหนี้รวมทุกประเทศจะอยู่ที่ราวๆ 255 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

ก่อนหน้านี้ IMF เคยได้ออกคำเตือนถึงเรื่องหนี้ของภาคเอกชนที่สูงถึง 19 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 40% จากประเทศพัฒนาเช่น สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น เยอรมัน สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส อิตาลี และสเปน มีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ถ้าหากเกิดวิกฤติเศรษฐกิจขึ้นมา

ที่มา – ABC, Axios, CNBC

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
Content Writer ที่สนใจในเรื่องของตลาดทุนทั้งในและต่างประเทศ กลุ่ม TMT (Technology, Media, Telecom) การควบรวมกิจการ (M&A) นโยบายทางเศรษฐกิจของไทยและต่างประเทศ รวมถึงสิ่งละอันพันละน้อยทางธุรกิจที่น่าสนใจ