Kishida นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นตั้งเป้าหนุนคนทำงานพาร์ทไทม์และครอบครัวที่มีลูกเล็กหลังโควิดระบาดอย่างหนักหน่วง ญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เปิดและปิดประเทศบ่อยครั้ง ความนิยมผู้นำคนก่อนหน้า Suga ก็ลดฮวบลงต่อเนื่องหลังรับมือโควิดได้ไม่ค่อยได้ดีเท่าที่ชาวญี่ปุ่นคาดหวัง หลังลงจากตำแหน่งและมีการเลือกตั้ง จนในที่สุดพรรค LDP ก็ได้รับชัยชนะ ครองเสียงข้างมาในสภาญี่ปุ่น
หลังจากประกาศยุบสภาในวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมาและกำหนดให้มีการเลือกตั้งครั้งใหม่ช่วงปลายเดือนตุลาคม ล่าสุด นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น Fumio Kishida ระบุว่า เขาจะให้การสนับสนุนทางการเงินแก่กลุ่มคนทำงานพาร์ทไทม์และครอบครัวที่มีลูกเล็ก ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิดระบาด สิ่งที่ Kishida ต้องรับมือ คือการทำให้เศรษฐกิจกลับมาแข็งแกร่งได้เหมือนเดิม ขณะเดียวกันก็ต้องจัดการโควิดระบาดให้ได้
Kishida ยังตั้งเป้าที่จะผลักดันนโยบายที่กระตุ้นเศรษฐกิจออกมาให้ได้อย่างเร็วที่สุดเพื่อจะเร่งแก้ปัญหา ขณะเดียวกันก็เตรียมนำแคมเปญ Go To Travel กลับมาใช้อีก เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ ที่จะมีทั้งส่วนลดรวมทั้งวอเชอร์สำหรับร่วมแคมเปญด้วย แต่ถูกระงับไปเสียก่อนหลังจากที่มีคนติดเชื้อโควิดเพิ่มมากขึ้น ส่วนเรื่องการจัดการโควิดระบาดนั้น Kishida กล่าวว่า เขาจะเตรียมแผนการเพื่อรับมือกับดควิดระบาด โดยจัดหาวัคซีนเข็มกระตุ้น ที่น่าจะมีขึ้นในเดือนธันวาคม
พรรค LDP ภายใต้การนำของ Kishida นั้นไม่ได้เป็นแค่เสียงส่วนมากในสภาเท่านั้น แต่ยังถือว่ามีเสถียรภาพมากด้วย เขาได้ที่นั่งในสภาหรือมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากถึง 261 ที่นั่ง หากจับมือกับพรรค Komeito ซึ่งได้เก้าอี้ ส.ส. 32 ที่นั่ง เมื่อร่วมมือกันทั้งสงฝ่าย ก็จะสามารถมีที่นั่งได้มากถึง 293 ที่นั่ง จากที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรรวม 465 ที่นั่ง
ทั้งนี้ Kishida ต้องการให้มีการประชุมสภานัดพิเศษในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งก็คาดการณ์ว่าเขาจะได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี จากนั้นเขาจะตั้งคณะรัฐมนตรีชุดที่สอง เขาตั้งใจจะส่งงบประมาณเพิ่มเติม สำหรับงบประมาณการเงินประจำปี 2021 ที่มีมูลค่าหลายแสนล้านเหรียญสหรัฐ โดยตั้งเป้าจะผ่านแผนการเงินให้ได้ภายในหนึ่งปี
ทุนนิยมใหม่ภายใต้ Kishida: ให้ความสำคัญคนตัวเล็ก ตัวน้อย กระจายความมั่งคั่งให้ทั่วถึง
นอกจากเรื่องการเงิน การคลังที่ต้องเตรียมแผนสำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจ โควิดระบาดที่ต้องจัดการให้ได้แล้ว ยังมีการประชุมภายใต้นโยบายที่เป็นร่มใหญ่ของ Kishida ด้วย นั่นก็คือนโยบายทุนนิยมใหม่ (new capitalism) ที่เขาตั้งเป้าจะสนับสนุนให้มีการลงทุนในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่มากขึ้น เพิ่มค่าแรงคนทำงานและทำให้เศรษฐกิจเติบโตมากขึ้น
ทุนนิยมใหม่ภายใต้แนวคิดของ Kishida นี้ เขาจะให้ความสำคัญกับคนตัวเล็กตัวน้อยมากขึ้น พยายามสร้างเศรษฐกิจให้เติบโตโดยจัดสรรผลประโยชน์ให้ผู้คนจำนวนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ลดช่องว่างระหว่างกลุ่มคนร่ำรวย และคนรายได้ปานกลางและยากจน การแบ่งแยกจังหวัดหรือเมืองหลวงใหญ่ๆ ต้องหมดไป กระจายความมั่งคั่งให้ทั่วถึงถ้วนหน้าทุกคน
เดินหน้าเพิ่มความแข็งแกร่งด้านความมั่นคง ยึดหลักเสรีภาพ ประชาธิปไตย ต้านเผด็จการ
ไม่ใช่แค่เรื่องเศรษฐกิจที่ Kishida สนใจ แต่ยังมีเรื่องยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติด้วย เขาพูดเลยว่า เขาพร้อมทำงานให้สำเร็จโดยเร็ว เพิ่มศักยภาพขีปนาวุธให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นพร้อมกับยกระดับความมมั่นคงไซเบอร์และ AI ด้วย รวมถึงการทำให้ห่วงโซ่อุปทานของประเทศมีความยืดหยุ่นมากขึ้น เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ เช่นกัน
เรื่องต่างประเทศ Kishida มองว่า 3 ปัญหาหลักที่ต้องแก้ไข คือเรื่องที่ต้องทำให้ความสัมพันธ์ ความร่วมมือในอินโด-แปซิฟิกเปิดกว้างและเสรี ปกป้องค่านิยมหลัก อาทิ ประชาธิปไตย สันติภาพ เสรีภาพ และเสถียรภาพรอบหมู่เกาะญี่ปุ่น ทำให้ญี่ปุ่นมีบทบาทเชิงรุกในประเด็นสำคัญของโลก เช่นเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
Kishida มีความชัดเจนเรื่องจุดยืนที่พร้อมต่อกรกับจีน เขาพร้อมจะปกป้องค่านิยมพื้นฐานทั้งเรื่องเสรีภาพ ประชาธิปไตย หลักนิติธรรม และหลักสิทธิมนุษยชน เขาพร้อมเดินหน้าร่วมกับกลุ่มประเทศที่ยึดถือค่านิยมเดียวกัน ทั้งสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป อินเดีย ออสเตรเลีย เพื่อต่อต้านระบอบเผด็จการ
ที่มา – Nikkei Asia (1), (2), (3)
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา