Food Tech หนึ่งในธุรกิจที่ร้อนแรงแห่งยุค | BI Opinion

ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของ Covid-19 ในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ ธุรกิจเทคโนโลยีคือธุรกิจที่เป็นผู้ชนะอย่างแท้จริงในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ เนื่องจากบริการของบริษัทเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สังคมออนไลน์ อีคอมเมิร์ซ วีดีโอคอนเฟอเรนซ์ และ คลาวด์คอมพิวติ้ง ล้วนเป็นที่ต้องการและมียอดขายที่สูงขึ้นมาก ราคาของหุ้นในธุรกิจเหล่านี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีและทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง

และมีอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับความนิยมอย่างสูงไม่แพ้ธุรกิจเทคโนโลยีอื่น นั่นคือ ธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านอาหารหรือ Food Tech โดยเฉพาะบริษัทอย่าง Beyond Meat ที่ทำวัตถุดิบสำหรับทำอาหารโดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้บริโภคที่เป็นมังสวิรัติ โดยตัววัตถุดิบจะผลิตขึ้นมาจากพืช ราคาหุ้น Beyond Meat ให้ผลตอบแทนสูงถึงกว่า 150% ในปี 2020 ให้ผลตอบแทนสูงมากไม่แพ้บริษัทเทคโนโลยีที่เติบโตสูงอย่างกลุ่ม Cloud Computing เลยทีเดียว และมีมูลค่าตลาดสูงถึงเกือบ 10,000 ล้านเหรียญแล้ว

ล่าสุด ธุรกิจนี้ยังเป็นธุรกิจที่ยังคง “ร้อนแรง” เนื่องจากเป็นหนึ่งในธุรกิจที่กลุ่ม Venture Capital หรือ VC ยังใส่เงินลงทุนเข้าไปอย่างต่อเนื่องโดยมีปัจจัยสนับสนุนดังนี้

  1. ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้นและหันมาบริโภคอาหารมังสวิรัติเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการเนื้อที่ทำจากพืชมีความต้องการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  2. ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ช่วยลดปัญหาในเรื่องโลกร้อน ซึ่งเป็นธุรกิจที่เข้าข่ายได้คะแนนด้าน ESG (Environment, Social and Governance) สูง ซึ่งเป็นเกณฑ์การลงทุนที่นักลงทุนสถาบันให้ความสำคัญมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ภาพจาก Shutterstock

มีการคาดการณ์จากบริษัท Polaris Market Research ว่า ความต้องการสินค้าประเภทเนื้อที่ทำจากพืชจะเติบโตได้ราว 15.8% ต่อปีไปจนถึงปี 2027 โดยมีผลจากการทำวิจัยว่า “เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านอาหารโดยเฉพาะเนื้อที่ทำจากพืช ว่าผู้คนใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม แต่พวกเขาไม่ต้องการจ่ายเงินเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อม แต่พร้อมจะจ่ายเงินเพื่อดูแลเรื่องอาหารที่สามารถช่วยลดปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างเรื่องโลกร้อน”

การแพร่ระบาดของ Covid-19 ในระดับ Pandemic เป็นหนึ่งในปัจจัยที่เข้ามาเร่งให้เกิดการลงทุนในธุรกิจประเภท Food Tech มากขึ้นเนื่องจากการแพร่ระบาดที่ผ่านมาส่งผลให้ระบบขนส่งตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำติดขัดทั้งหมด ห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดเกิดปัญหาขึ้นและทำให้ราคาของสินค้าเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก การลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Food Tech จะเป็นวงกว้างขึ้น โดยจะมีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรักษาหรือบริษัทผู้ผลิตโรบอทสำหรับช่วยเลี้ยงสัตว์และเก็บผลผลิตอย่างผลไม้ ไม่ใช่จะลงทุนในบริษัทที่ทำเนื้อจากพืชเพียงอย่างเดียว

ตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา เม็ดเงินลงทุนและจำนวนการลงทุนจากกลุ่ม VC ต่อธุรกิจ Food Tech มีการเติบโตขึ้นอย่างสูง โดยในปี 2010 มีเม็ดเงินลงทุนไม่ถึง 100 ล้านเหรียญและมีจำนวนข้อตกลงการลงทุนเพียง 3 ครั้งเท่านั้น แต่ล่าสุดในปี 2020 ที่ยังไม่จบปีดี มีเม็ดเงินลงทุนในธุรกิจนี้สูงถึง 1,800 ล้านเหรียญแล้วและคาดว่าเม็ดเงินจนถึงสิ้นปีอาจจะสูงถึง 2,500 – 3,000 ล้านเหรียญเลยทีเดียว

ตัวอย่างอาหารเนื้อที่ทำจากพืช โดย Beyond Meat ภาพจาก Beyond Meat

โอกาสและความเสี่ยง

โอกาสที่ธุรกิจในกลุ่ม Food Tech ยังถือว่าเป็นช่วงต้นๆ ของวัฏจักรในการเติบโต นอกจากธุรกิจที่ทำเนื้อจากพืชแล้ว ธุรกิจด้านการเกษตรก็มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อช่วยให้ผลผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้นและให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นหรือที่เรียกกันว่า “Agtech” อย่างเช่นในอดีต ผู้ประกอบการอาจจะใช้วิธีดูแลผลผลิตผ่านการเดินเข้าไปในสวน แต่ทุกวันนี้ ผู้ประกอบการมีการนำ  โดรนมาใช้ในการดูแลผลผลิตในพื้นที่กว้างๆ และให้ AI มาช่วยวิเคราะห์ถึงประสิทธิภาพในการเพาะปลูกอีกด้วย โอกาสที่จะนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจด้านการเกษตรยังมีอีกพอสมควร ไม่ได้อยู่ในวงแคบๆ อย่างการลงทุนในธุรกิจผลิตอาหารที่ใช้พืชเป็นวัตถุดิบเพียงอย่างเดียว

มาที่ด้านความเสี่ยงกันบ้างครับ เนื่องจากธุรกิจเหล่านี้เป็นธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้นได้ไม่นานและต้องการเงินลงทุนจากนักลงทุน VC ค่อนข้างมาก ดังนั้น จึงมีความเสี่ยงที่อาจจะเจอบริษัทที่ปลอมแปลงเอกสารทางการเงินให้มีรายได้ที่สูงเกินจริง การเจอเหตุการณ์แบบนี้ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังจากที่มีการจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ก็คงจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ๆ ซึ่งการควบคุมของกลต.โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่มีความรัดกุมมากขึ้น ซึ่งถ้าเกิดเจอขึ้นมาก่อนที่จะได้ทำการ IPO เงินที่กลุ่ม VC ลงทุนไว้ก็อาจจะหายไปแทบทั้งหมด แต่ถ้าเจอหลังจากที่ IPO ไปแล้ว นักลงทุนรายย่อยก็จะเป็นกลุ่มที่เจ็บตัวหนัก

Photo : Shutterstock

สรุป

ธุรกิจในกลุ่มเทคโนโลยีด้านอาหารหรือ Food Tech รวมถึงธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมย่อยลงไปอย่างการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีหรือ Agtech เป็นกลุ่มธุรกิจดาวเด่นที่มีบริษัท Start-up เกิดขึ้นอย่างมากมาย และทางกลุ่ม Venture Capital ก็มีเงินทุนมากมายที่พร้อมจะลงทุนเนื่องจากดอกเบี้ยในตลาดอยู่ในระดับที่ต่ำมาก ขอเพียงธุรกิจมีศักยภาพในการเติบโตที่ดี รวมถึงผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ที่โดดเด่น ทางกลุ่ม Venture Capital ก็พร้อมที่จะใส่เงินลงทุนเข้าไปอย่างแน่นอน ความเสี่ยงในธุรกิจ Start-up มีอยู่สูง เงินที่ลงทุนไปอาจจะหายไปทั้งหมดถ้าเกิดไปลงทุนในบริษัทที่มีการปลอมแปลงเอกสารทางการเงินให้ดูดีเกินจริง แต่ความเสี่ยงเหล่านี้ก็เป็นความเสี่ยงที่นักลงทุน VC ทำใจไว้แล้ว เพราะการลงทุนในธุรกิจเหล่านี้ความเสี่ยงต่อผลตอบแทนถือว่าคุ้มค่า

สำหรับนักลงทุนรายย่อยที่จะลงทุนในบริษัทลักษณะนี้ คงจะต้องลงทุนผ่านตลาดหุ้นเพียงอย่างเดียว โอกาสในการเติบโตในอนาคตของบริษัทในกลุ่ม Food Tech ยังมีอีกสูงก็จริง แต่ระยะสั้นอาจจะมีความผันผวนที่สูงด้วยเช่นกัน เนื่องจากบริษัทเหล่านี้ส่วนใหญ่ยังอยู่ในช่วงที่ต้องลงทุนหนักสำหรับการผลิตและขยายตลาด แม้แต่ Beyond Meat ที่ทำตลาดมาหลายปีแล้วก็ยังมีผลการดำเนินงานที่ขาดทุนอยู่ ดังนั้น การลงทุนในธุรกิจประเภทนี้สามารถลงทุนได้ แต่ควรลงทุนในสัดส่วนที่เหมาะสมกับความสามารถในการรับความเสี่ยงของเรา หุ้นเหล่านี้ขึ้นได้แรงก็จริง แต่เวลาลงก็แรงมากเช่นกันครับ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา