มองตลาดรถโคตรหรูในไทยกับ Federico Foschini ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของ Lamborghini

ตลาดรถหรูนำเข้าในประเทศไทยเมื่อ 2 ปีก่อนเจอปัญหามากมาย ทั้งเลี่ยงภาษี และนำเข้าอย่างไม่ถูกต้อง แต่นั่นก็ไม่ทำให้โอกาสเติบโตของตลาดนี้ลดลง เพราะผู้บริหารระดับสูงของ Lamborghini ออกมายืนยันด้วยตัวเอง

Lamborghini
Federico Foschini ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ Automobili Lamborghini

ตลาดที่ยังเติบโตได้ เพราะความต้องการยังมี

ตลาดรถสปอร์ตประสิทธิภาพสูง หรือ Extreme Super Sport Car (ESS) ในระดับโลกนั้นยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผ่านความต้องการของกลุ่มเศรษฐีที่ยังชื่นชอบในความเร็ว ซึ่งตลาดนี้ Lamborghini ก็คือหนึ่งในผู้นำ เพราะมีประวัติยาวนาน และมีรุ่นที่มีเอกลักษณ์ถึงขนาดที่ใครๆ ก็จดจำได้

Federico Foschini ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ Automobili Lamborghini เล่าให้ฟังว่า ตลาด Extreme Super Sport Car นั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพราะเวลามีรถยนต์รุ่นใหม่เปิดตัว ยอดขายก็จะไหลไปที่รุ่นนั้นๆ ประกอบกับด้วยแบรนด์เดิม และแบรนด์ใหม่ก็ทยอยเปิดตัวรุ่นใหม่ จึงไม่แปลกที่เราต้องปรับตัว

Lamborghini
ศูนย์บริการ Lamborghini ในประเทศไทย

“Lamborghini มีหลากหลาย Model และแต่ละ Model ก็ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อ และล่าสุดเราเพิ่งส่ง URUS รถยนต์แบบ SUV ออกมาทำตลาดเพื่อรับกับเทรนด์ตลาดในตอนนี้ ซึ่งกระแสโลกนั้นทำได้ดีมาก สังเกตจากยอดจองที่ไหลเข้ามาเยอะ แถม 70% ของยอดนั้นยังเป็นคนที่ไม่เคยเป็นเจ้าของ Lamborghini มาก่อน”

ประเทศไทย กับความต้องการที่ยังมีมาก

สำหรับในประเทศไทยนั้น ความต้องการของ Extreme Super Sport Car ก็ยังมีอยู่เช่นกัน แม้ตลาดนี้จะมีปัญหามาระยะหนึ่ง แต่ทาง Lamborghini นั้นหลังจากได้ตัวแทนจำหน่ายรายใหม่เป็น “เรนาสโซ มอเตอร์” และเชื่อว่าความเชื่อมั่นของผู้ซื้อก็น่าจะกลับมา และเป็นโอกาสสำคัญของทั้งบริษัทเอง รวมถึงตัวแทนจำหน่าย

Lamborghini
ศูนย์บริการ Lamborghini ในประเทศไทย

“ในไทยเราเพิ่งเปิดโชว์รูมแห่งใหม่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิคหลังจากแต่งตั้งเรนาสโซ มอเตอร์เป็นตัวแทนจำหน่าย โดยที่นี่จะมี 7 ช่องซ่อม รองรับการบริการต่อเดือน 70-80 ได้ ซึ่งจำนวนนี้มันรองรับความต้องการของผู้ใช้ในประเทศไทยได้อยู่แล้ว และเมื่อเราเร่งทำตลาดอย่างจริงจัง ความสำเร็จในตลาดนี้ก็คงเป็นไปตามเป้า”

Super Sport กับ Super SUV ที่ไปด้วยกัน

ทั้งนี้ตัวโชว์รูมแห่งใหม่ในประเทศไทยนั้นตัวแทนจำหน่ายได้ลงทุน 180 ล้านบาท และหลังจากได้รับสัญญาก็ได้ให้โควต้าทำตลาดรถยนต์ในปีนี้ 40 คันรวมทุกรุ่น ซึ่งตัว URUS นั้นอยู่ระหว่างรอรถยนต์ Demo เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายได้มากกว่าเดิม เพราะถือเป็นเรื่องใหม่ที่ผู้บริโภคไม่เคยลองมาก่อน

สรุป

การทำตลาดรถยนต์หรูนำเข้านั้นไม่ใช่ว่าไม่เติบโต เพราะมันมีความต้องการเพิ่มขึ้นตลอด ผ่านความต้องการของคนกลุ่มเล็กๆ ที่มีกำลังจ่าย ดังนั้นการเร่งทำตลาด รวมถึงสร้างภาพลักษณ์ให้ดีในอุตสาหกรรมนี้ ก็ไม่แปลกที่จะทำให้ Lamborghini สามารถเป็นรถยนต์ในฝันของคนไทย และทั่วโลกเอาไว้ได้เช่นกัน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา