Fed คงดอกเบี้ย 5.25-5.50% ส่งสัญญาณยังไม่ปรับลดในครั้งหน้า ไทยจับตา กนง.ประชุมนัดแรก 7 ก.พ. 67

เมื่อคืนนี้ (31 ม.ค.) FOMC หรือคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ เปิดเผยผลการประชุมว่า ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 5.25-5.50% โดยให้เหตุผลหลักถึงความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจในอนาคต แต่ยังคงมีเงินเฟ้อเป้าหมายที่ 2% และหากมีการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยฯ จะพิจารณาอย่างรอบคอบผ่านข้อมูลตัวเลขต่างๆ ที่จะออกมาเพิ่มเติม และแนวโน้มพัฒนาการทางเศรษฐกิจ รวมถึงสมดุลความเสี่ยง

ครั้งนี้ FOMC ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย มาจากเงินเฟ้อของสหรัฐในเดือน ธ.ค. 66 ที่ยังอยู่สูงกว่าระดับเป้าหมายที่ 2% ส่วนตลาดแรงงานสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง ทำให้อัตราการว่างงาน ธ.ค. 66 ยังอยู่ในระดับต่ำ

ภาพจาก Shutterstock

นอกจากนี้ Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ยังส่งสัญญาณว่าอาจไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยฯ ในการประชุมเดือน มี.ค. 2567 นี้ เนื่องจากต้องติดตามสถานการณ์อัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง

ด้านฮั่วเซ่งเฮงระบุว่า หลังจาก Fed คงและส่งสัญญาณว่ายังไม่มีแผนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยฯ​ส่งผลให้มีแรงเทขายทองคำออกมา ส่วนกองทุน SPDR ขายทอง 1.73 ตัน ทั้งนี้ราคาทองคำโลกปิดตลาดเมื่อคืนนี้ที่ระดับ 2,038 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.1% จากวันก่อนหน้า ในส่วนของตลาดหุ้นมองว่า ท่าทีของ Fed นี้จะกดดันการลงทุนในภาพรวมของตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง 

ทั้งนี้ ในคืนนี้ต้องติดตามตัวเลขสำคัญของสหรัฐ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ตลาดคาดว่าจะลดลง 1,000 รายสู่ระดับ 213,000 ราย และดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน ม.ค.67 โดย ISM ตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 47.2 จาก 47.4 ในเดือนธ.ค. 66

ขณะที่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ Fed ในระยะต่อไป ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า Fed อาจปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในช่วงไตรมาส 3/2567 และจะปรับลดดอกเบี้ย 3-4 ครั้ง ในปีนี้ ตามทิศทางที่ได้ให้ไว้ใน Fed Dot plot ครั้งล่าสุด จาก 

  1. เงินเฟ้อที่ทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายของเฟดตามตลาดแรงงานที่ปรับเข้าสู่สมดุลมากขึ้น
  2. เศรษฐกิจที่คาดว่าจะชะลอลงแบบ soft-landing หลังตัวเลข GDP สหรัฐปี 2566 ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด

หมายเหตุ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทย จะแถลงผลการประชุม กนง. นัดแรกของไทยวันที่ 7 ก.พ. 2567 นี้

ที่มา FOMC statement, ฮั่วเซ่งเฮง, ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา