ใครๆ ก็อยากทำเงินผ่าน Video บน Facebook แต่รูปแบบการคิดเงินไม่เอื้อต่อการสร้างรายได้

รูปแบบการโฆษณาแบบคั่นกลาง Video ของ Facebook สร้างปัญหาให้กับบริษัทโฆษณาและผู้ที่อยากสร้างรายได้หลายราย เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ได้ดู Video จนจบ บางรายมียอดวิว 20 ล้าน แต่ยังทำเงินได้ไม่ถึง 20,000 บาทเลย

Photo: flickr.com by Mobil Yaşam

รีวิว 6 เดือน โฆษณาคั่นกลางของ Video บน Facebook

เป็นเวลา 6 เดือนแล้ว ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมากับการทดลองใช้รูปแบบการโฆษณาคั่นกลาง (mid-roll ads) ของวิดีโอบน Facebook ผลปรากฏว่าทำเงินไม่ค่อยดีนัก ด้วยเหตุผลและหลักฐานหลากหลายประการดังนี้

  • บริษัทโฆษณารายหนึ่งบอกว่า Video บน Facebook โดยเฉลี่ยแล้วค่า CPM (Cost Per Impressions) หรือที่ Adsense ของ Google ประเทศไทยแปลว่า “ต้นทุนต่อการแสดงผล” ไม่ค่อยดีนัก หรืออธิบายง่ายๆ ก็คือ CPM เป็นการสร้างรายได้ทางหนึ่ง โดยจะได้เงินเมื่อมีคนเห็นโพสต์นั้นๆ แต่ทีนี้การแสดงผลโฆษณาผ่าน Video ของ Facebook ดันอยู่กลาง Video ผู้ให้บริการโฆษณารายนี้บอกว่า เฉลี่ยแล้ว Video 1 ตัว ได้เงินแค่ 15 เซ็นต์หรือ 5 บาทเท่านั้น
  • อีกหนึ่งบริษัทบอกว่า จากการคำนวณแล้ว โดยเฉลี่ยแล้วการสร้างรายได้ผ่านการโฆษณาของ Facebook จาก Video ขนาดยาว ทำเงินเพียง 75 เซ็นต์หรือประมาณ 25 บาท เพราะว่าโฆษณาจะขึ้นตรงช่วงกลางของ Video แล้วส่วนใหญ่ผู้คนก็ดู Video เพียงแค่ 3 วินาทีแรกเท่านั้น
  • กรณีต่อมาน่าสนใจ รายนี้บอกว่า เขาทำ Video ลง Facebook มียอดคนดูมากกว่า 20 ล้านวิว แต่ทำเงินได้เพียง 500 เหรียญ หรือ 17,000 บาทเท่านั้น
Photo: facebook

ประเด็นคือ facebook เอาโฆษณามาคั่นกลาง แต่คิดเงินแบบ CPM

ย้ำอีกครั้งกับ CPM ซึ่งก็คือการคิดเงินโฆษณาที่นับเฉพาะการเห็นหรือรับรู้เท่านั้น ไม่ใช่จำนวนการคลิกหรือยอดดูโดยรวมทั้งหมด

เพราะฉะนั้นยอดวิวมากกว่า 20 ล้านครั้ง แล้วจะได้เงินไม่ถึง 20,000 บาท ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะ Facebook นับยอดการดู Video ตั้งแต่ 3 วินาทีแรก มีการคำนวณง่ายๆ ไว้คือ ในจำนวน 1 ล้านวิว จะมีสัก 1 แสนคนเท่านั้นที่จะรับชม Video ไปจนเห็นโฆษณาคั่นกลาง แล้วจะสร้างรายได้ให้กับผู้ผลิต Video ผ่านการคิดแบบ CPM

เมื่อ Facebook รับรู้เรื่อง จึงเปลี่ยนท่าที ส่ง Watch ออกมาแก้ปัญหา

ที่แน่ๆ ก็คือการโฆษณาคั่นกลางไม่ได้เป็นปัญหากับบริษัทโฆษณา สื่อ หรือผู้ที่ต้องการหารายได้จาก Video บน Facebook เท่านั้น แต่เมื่อฟีดแบ็คออกมาเป็นแบบนี้ บริษัทโฆษณาหน้าไหนก็ต้องรู้สึกเช่นเดียวกันว่า รูปแบบ Video บน Facebook ไม่น่าจะเป็นช่องทางที่ดีในการทำโฆษณา

ล่าสุดเมื่อ Facebook รับรู้เรื่องนี้ จึงได้เปลี่ยนท่าทีแก้ปัญหาด้วยการส่ง Watch ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยรูปแบบของ Watch จะเป็นหน้ารวม Video ขึ้นมาโดยเฉพาะ และเอาเข้าจริงแล้วนั้น โดยพื้นฐานแนวคิดของ Facebook ที่นำเอาโฆษณาไปไว้คั่นตรงกลางถือเป็นการเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคที่ดีและน่าสนใจมาก เพียงแต่ว่าทำแล้วไม่มีคนดู

การนำ Watch มาใช้จึงเป็นการทำให้ผู้คนใช้เวลากับ Video ให้มากขึ้น “ทำอย่างไรก็ได้ให้ผู้คนชม Video ได้เป็นเวลานานๆ” นี่คือสิ่งที่ Facebook กระตุ้นให้ผู้ผลิตทำเพื่อสร้างรายได้

อ่านมาถึงตรงนี้ ใครที่คิดจะหารายได้ผ่าน Video บน Facebook ต้องพัฒนารูปแบบให้ทัน เพราะความชัดเจนอย่างหนึ่งก็คือ Facebook จะใช้แนวทางการแชร์รายได้จากการเข้าชมโฆษณา ไม่ใช่การจ่ายเงินเพื่อให้ไปสร้างเนื้อหา (content) ออกมาอย่างแน่นอน

ที่มา – Digiday

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา