Dyson เตรียมเปิดโรงงานผลิตแบตเตอรี่ขั้นสูงที่สิงคโปร์ ภายใต้แผนลงทุน 5 ปี มูลค่ากว่าแสนล้านบาท

ความคิดเห็นที่คนเข้าใจผิดๆ มักพูดกันอยู่เสมอว่า เวียดนามค่าแรงถูก ถึงทำให้หลายประเทศสนใจไปลงทุนมากกว่าจะมาไทย แต่บริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งก็เคยยืนยันก่อนหน้านี้แล้วว่า การไปเวียดนามไม่ใช่เพราะค่าแรงถูกแต่เป็นเพราะมีปัจจัยอื่นที่สำคัญกว่า

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการมีแรงงานที่อยู่ในวัยทำงานจำนวนมาก ประเทศกำลังโต ยังขยายศักยภาพได้อีกมาก และยังเป็นแหล่งซัพพลายเชนชั้นดีที่สามารถดึงดูดการลงทุนได้ แน่นอนว่านโยบายที่ดี ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ย่อมเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศเหล่านั้นน่าสนใจไปด้วย

Dyson

ล่าสุด Dyson ก็เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่า แม้ค่าแรงแพงก็ไม่ทำให้สิงคโปร์หลุดจากความสนใจได้

จากการเก็บข้อมูลค่าแรงขั้นต่ำของประเทศในกลุ่มอาเซียนพบว่า สองประเทศที่อยู่นอกข่ายการเก็บสถิติค่าแรงขั้นต่ำเสมอ มักจะเป็นบรูไนและสิงคโปร์เพราะทั้งสองแห่งนี้ไม่ได้มีการกำหนดเรตค่าแรงขั้นต่ำไว้ แต่ก็พอจะคาดการณ์ได้บ้างจากตัวอย่างอาชีพที่ใช้แรงงาน

เช่น งานทำความสะอาดคิดค่าแรงที่ 1,000 เหรียญสิงคโปร์หรือประมาณ 25,000 บาทต่อเดือน (มีผลบังคับใช้มกราคม 2014) หรืองานประเภทเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย อยู่ที่ 1,100 เหรียญสิงคโปร์หรือประมาณ 27,888 บาทต่อเดือน (มีผลบังคับใช้ กันยายน 2016)

นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังปรับค่าแรงถึง 4 ครั้งในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา เพิ่มจาก 1,000 เหรียญสิงคโปร์หรือประมาณ 25,000 บาทกลายเป็น 1,400 เหรียญสิงคโปร์หรือประมาณ 35,000 กว่าบาทต่อเดือน เป็นต้น

Dyson

โลกยุคใหม่จึงไม่ใช่การดึงดูดการลงทุนด้วยการกดค่าแรงสำหรับแรงงานอีกต่อไป แต่แข่งขันกันด้วยระดับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การคิดค้นนวัตกรรมเพื่อมารองรับพลวัตรของงานแและแรงงานที่เปลี่ยนแปลงไป บรรดาแรงงานที่อยู่ในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ ความสามารถระดับสูง ก็จะยิ่งมีค่าแรงสูงตามไปด้วย

Dyson บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนกำลังเตรียมสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่แห่งใหม่ในสิงคโปร์ โรงงานใหม่นี้มีขนาดเท่าๆ กับสนามบาสเกตบอลประมาณ 53 แห่งรวมกัน (สนามบาสเกตบอล 1 แห่งขนาดยาว 28 x กว้าง 15 เมตร)

โรงงานนี้คาดว่าจะเปิดใช้งานได้เต็มรูปแบบราวปี 2025 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการลงทุน 5 ปีของ Dyson นอกจากสร้างโรงงานแบตเตอรี่ใหม่ที่สิงคโปร์แล้ว ยังเตรียมสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาที่ฟิลิปปินส์และอังกฤษ มูลค่าการลงทุนทั้งหมดประมาณ 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1.17 แสนล้านบาท

การลงทุนทั้งหมดนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพในด้านวิศวกรรมและการผลิตให้กับบริษัทมากขึ้น แผนการลงทุนด้านการผลิตของ Dyson นี้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า นี่ถือเป็นการลงทุนครั้งประวัติศาสตร์ของบริษัท ซึ่ง Dyson ก็สร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่เองมานานกว่าสิบปีแล้ว โดยเมื่อเดือนมีนาคม ปีที่ผ่านมา Dyson ก็เพิ่งจะเปิดสำนักงานใหม่ในสิงคโปร์และได้ประกาศแผนเตรียมลงทุน 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐในการขยายศักยภาพบริษัททั้งด้านการวิจัยและวิศวกรรม

ทาง Roland Krueger ซึ่งเป็น CEO ของ Dyson ระบุว่า นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรที่มีทักษะสูงในสิงคโปร์ นโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนอุตสาหกรรม 4.0 ช่วยส่งเสริมให้เป็นพื้นที่สมบูรณ์แบบสำหรับบริษัท Dyson สำหรับส่วนอื่นๆ ที่อยู่ในแผนการลงทุนของ Dyson เช่น ฟิลิปปินส์จะมุ่งเป้าในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ทั้งด้านซอฟต์แวร์ ทั้ง AI ทั้งระบบอัตโนมัติ และฮาร์ดแวร์ต่างๆ เป็นต้น

Dyson

ที่มา – Bloomberg, Channel News Asia (1), (2), Minimum Wage

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา