กรณีศึกษา ตลาดเนื้อหมาที่กำลังมาแรงในเอเชีย จีน-เวียดนาม-เกาหลีใต้ครองแชมป์กินดุ

ตลาดค้าเนื้อสุนัขในเอเชียกำลังบูม หลายประเทศที่นิยมบริโภคมีความต้องการสูง แต่ปัญหาคือเกิดการลักลอบสุนัขระหว่างประเทศ ดูท่าแล้วปัญหานี้จะต้องได้รับการแก้ไขโดยความร่วมมือของหลายประเทศ

สังเวยเนื้อสุนัข 30 ล้านตัวต่อปี เป็นอาหารให้คนเอเชีย

ในแต่ละปีจะมีสุนัขจำนวน 30 ล้านตัวถูกฆ่าและวางยาเพื่อมาเป็นอาหารให้กับคนเอเชีย โดยประเทศที่มีการนำเข้าเนื้อสุนัขเป็นอันดับต้นๆ ของเอเชียคือ จีน เวียดนาม เกาหลีใต้ และฮ่องกง เพื่อนำไปบริโภคเป็นอาหารตามความนิยมชมชอบและในบางประเทศก็บริโภคตามหลักความเชื่อ

ประมาณ 20% ของคนจีนบริโภคเนื้อสุนัข

ในประเทศจีน การบริโภคเนื้อสุนัขได้รับความนิยมสูง เพราะมีคนจีนกว่า 20% ของประเทศที่กินเนื้อสุนัขตามความเชื่อและถือว่าเป็นยาดี ที่สำคัญในจีนมีเทศกาลกินเนื้อสุนัข โดยจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 21-30 มิถุนายนของทุกปี นับเป็นเวลารวม 10 วันที่จะมีเทศกาลและมีการบริโภคเนื้อสุนัขกว่า 100,000 ตัวเป็นประจำทุกปี

ตลาดค้าเนื้อสุนัขในจีน
ตลาดค้าเนื้อสุนัขในจีน

กว่า 80% ของคนเวียดนามบริโภคเนื้อสุนัข

ประเทศเวียดนามมีชื่อเสียงเรื่องการบริโภคเนื้อสุนัขอยู่แล้ว ถ้าเทียบกับธุรกิจค้าเนื้อสุนัขกับประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ถือได้ว่า เวียดนามเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด เพราะคนในประเทศบริโภคเนื้อสุนัขกว่า 80% ส่วนผู้ค้าขายเนื้อสุนัขในเวียดนามก็ทำกิจการอย่างเป็นล่ำเป็นสัน

  • มีข้อมูลเปิดเผยว่า ในจำนวนสุนัข 30 ล้านตัวต่อปีที่ถูกนำไปเป็นอาหาร เวียดนามครองส่วนแบ่งนี้ถึง 1 ใน 3 หรือ 10 ล้านตัว

การกินเนื้อสุนัขของคนเวียดนามมีเรื่องของความเชื่อเข้ามาเกี่ยวข้อง คนเวียดนามเชื่อว่าการกินเนื้อสุนัขจะช่วยเสริมความเป็นชาย แถมยังเสริมเรื่องโชคชะตาอีกด้วย

60% ของคนเกาหลีใต้บริโภคเนื้อสุนัข

ในประเทศเกาหลีใต้มีประมาณ 60% ที่บริโภคเนื้อสุนัข ในแต่ละปีจะมีสุนัขถูกฆ่าประมาณ 5 ล้านตัว แต่ความต้องการเนื้อสุนัขในเกาหลีใต้ไม่จบแค่เรื่องการกินเหมือนประเทศอื่นๆ เพราะในเกาหลีใต้มีการนำเอาเนื้อสุนัขมาทำเป็นครีมโลชั่นทาผิวด้วย

อย่างไรก็ตาม ศาลในเกาหลีใต้เพิ่งประกาศให้การฆ่าสุนัขเพื่อบริโภคผิดกฎหมาย ซึ่งหมายความว่าต่อไปการค้าเนื้อสุนัขในประเทศก็น่าจะผิดกฎหมายตามไปด้วย

ปัญหาที่ยังแก้ไม่ตก คือการลักลอบค้าเนื้อหมาแบบผิดกฎหมาย

ความต้องการเนื้อสุนัขของตลาดในเอเชียยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะไม่ได้มีแค่คนจีน คนเวียดนาม และคนเกาหลีใต้เท่านั้นที่บริโภคเนื้อสุนัข เพราะในปัจจุบันการอพยพเข้าไปทำงานของคนที่บริโภคเนื้อสุนัขในประเทศอื่น อย่างเช่นในญี่ปุ่นและฮ่องกง ก็ทำให้ตลาดมีความต้องการเนื้อสุนัขมากขึ้นเรื่อยๆ บางแห่งถึงกับสั่งซื้อเนื้อสุนัขผ่านทางออนไลน์ และส่งแบบเดลิเวอรี่ได้ด้วย

แต่ปัญหาใหญ่จริงๆ ของการค้าเนื้อสุนัขไม่ใช่เรื่องนั้น หากแต่คือการลักลอบค้าแบบผิดกฎหมาย

ยกตัวอย่างเช่น ในเวียดนามที่มีความต้องการเนื้อสุนัขในปริมาณที่สูงมาก การเลี้ยงเพื่อเป็นอาหารในฟาร์มจึงไม่ตอบโจทย์ กลุ่มผู้ค้าในเวียดนามหลายรายจึงลักลอบนำเนื้อสุนัขจากประเทศข้างเคียง เช่น จีน กัมพูชา และรวมถึงไทยด้วย

  • มีการเปิดเผยตัวเลขว่า เนื้อสุนัขในเวียดนามมีราคาที่สูงมาก โดยเนื้อสุนัข 10 กิโลกรัมจะมีมูลค่าสูงถึง 3,300 บาท แต่การลักลอบนำเข้าจากประเทศไทยมีมูลค่าเพียง 160-230 บาทเท่านั้น

แน่นอนว่า กลุ่มผู้ค้าเนื้อสุนัขจากเวียดนามส่วนใหญ่ร่ำรวยมาจากการลักลอบนำเข้าแบบผิดกฎหมายเข้ามาภายในประเทศนั่นเอง

ข้อมูล – South China Morning Post

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา