Discord คืออะไร? พร้อมวิธีใช้และฟีเจอร์พื้นฐาน

discord

ในช่วงที่มีการเริ่มต้น Work From Home คงมีหลายคนได้ลองใช้ Discord โปรแกรมสำหรับสื่อสารบนคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ตโฟน สำหรับใช้ทำงานแทนที่การไป office ยุคโควิดได้ บางสำนักงานที่ปรับมาเป็นแบบ Hybrid ในปัจจุบันก็ยังใช้งาน Discord อยู่อย่างต่อเนื่อง เหตุผลอะไรที่ทำให้ Discord เป็นที่ถูกใจของผู้ใช้ ไปหาคำตอบกัน 

จริงๆ แล้วไม่เพียงแต่เฉพาะเหล่าพนักงาน office เท่านั้นที่ใช้ Discord แต่จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้วงการเกมก็มีการใช้ Discord กันมานานมากแล้ว มีการสร้างเป็น Community ขนาดใหญ่ก็มี หรืออย่าง YouTuber มาช่องก็มีการนำ Discord มาใช้เป็นช่องทางติดต่อสื่อสารกับแฟนคลับอย่างเช่น Rubsarb Production ที่มีห้อง Discord ของตัวเอง และด้วยความที่ Discord สามารถใช้งานได้ทุก Device ทุกระบบปฏิบัติการ ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้อย่างไร้รอยต่อเมื่อจำเป็นต้องเปลี่ยน Device

เริ่มต้นใช้ Discord

เริ่มต้นจากการ Download ตัวโปรแกรมลงมาติดตั้งก่อน บนคอมพิวเตอร์ก็เข้าไปที่ https://discord.com แล้วเลือกดาวน์โหลดตัวตัวตั้งตามระบบปฏิบัติการที่ใช้อยู่ ถ้าหากใช้งาน iOS สามารถดาวน์โหลดได้จาก App Store ส่วน Android ดาวน์โหลดได้ที่ Play Store เมื่อติดตั้งเรียบร้อยและสมัครเข้าใช้งานสำเร็จ Discord จะพาคุณมาหน้าเริ่มต้น

แถบเมนูทางซ้ายจะแสดง Server หรือเปรียบเสมือนห้องที่เราเอาไว้ใช้สื่อสารกับเพื่อนๆ ซึ่ง Server จะมีอยู่ 2 รูปแบบคือแบบสาธารณะเป็น Server ที่มีคนได้ทำไว้เพื่อทำเป็น Community ใครๆ ก็เข้าถึงได้ โดยอาศัยการกดเข้าร่วมผ่าน Link หรือการ Invite เข้ามา อีกหนึ่งรูปแบบคือ Server ส่วนตัวส่วนใหญ่ใช้กันเพื่อนคุยกับเพื่อนๆ กลุ่มทำงาน หรือกลุ่มเพื่อนที่ใช้เล่นเกมกัน หากคุณใช้งาน Discord เป็นครั้งแรกจะยังไม่มี Server ขึ้นในเมนูทางซ้าย สามารถกด Add Server ได้เลยเพื่อเริ่มต้นการใช้งาน Discord ร่วมกับผู้อื่น

หลังจากที่คุณมี Server แล้วสามารถเชิญเพื่อนๆ เข้ามาร่วม Server ของคุณได้ โดยคุณสามารถสื่อสารกับเพื่อนใน Server ได้สองแบบคือการพูดคุยรูปแบบเสียงหรือ Voice Channel โดยที่สามารถเปิดไมค์คุยกับเพื่อนๆ ได้ หากต้องการ Voice Channel เพิ่มสามารถ Create เพิ่มได้ตามใจชอบ เช่นคุณสร้าง Server ขึ้นมาเพื่อคุยงานกับเพื่อนๆ ในทีมแต่ว่าทีมเรารับผิดชอบหลายโปรเจค อาจจะสร้าง Voice Channel อีกห้องขึ้นมาเพื่อพูดคุยกัน หากไม่ต้องการรบกวนคนอื่นๆ ที่ทำอีกโปรเจคหนึ่ง นอกจากการสื่อสารผ่าน Voice Channel ยังสามารถใช้ Text Channel เพื่อส่งข้อความหาเพื่อนๆ รวมทั้งส่งไฟล์ได้สูงสุด 8 MB และ มากที่สุด 100MB ในรูปแบบไฟล์ Zip/RAR แถมไฟล์ไม่หาย หมดกังวลเรื่องไฟล์หมดอายุได้เลย

บางครั้งเราอาจจะต้องการเปิดกล้องคุยงานกันก็สามารถทำได้บน Discord โดยเมื่อเราอยู่ใน Voice Channel แล้ว จะมีปุ่ม Video ให้เลือกเพื่อทำการเปิดกล้องพูดคุยกับเพื่อนๆ ในห้อง หากต้องการ Share Screen เพื่อดูเพื่อนๆ เล่นเกมกันหรือโชว์งานที่ทำมาให้เพื่อนๆ ดูสามารถกดปุ่ม Share และเลือก Screen / Program เพื่อเริ่มแชร์หน้าจอได้เลย ซึ่งความละเอียดจะอยู่ที่ 720p 30 FPS 

Discord ถือเป็นโปรแกรมฟรีที่ใช้งานได้อย่างหลากหลายและมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก แต่ทาง Discord ก็มีเวอร์ชั่นเสียเงินเหมือนกัน เพื่อปลดล็อกประสิทธิภาพขั้นสูงสุดของ Discord ให้ใช้งานได้อย่างเต็มที่มากขึ่น เช่น แชร์ไฟล์ได้สูงสุด 500MB โดยไม่ต้อง Zip/RAR ไฟล์ หรือสามารถ Share Screen ด้วยความละเอียดเพิ่มขึ้นเป็น 60 FPS รวมทั้งใช้ avatar แบบเคลื่อนไหวและทำอีโมจิของตัวเองได้ ซึ่งผู้ใช้ Discord Nitro นั้นจะได้ Badge Nitro ติดบนโปรไฟล์อีกด้วย 

จะเห็นได้ว่า Discord นั้นใช้งานแทนที่หลายโปรแกรมที่คุณใช้อยู่ตอนนี้ได้เลยเพราะมีทั้งฟีเจอร์ที่ช่วยในเรื่องของภาพและเสียงอย่างเต็มที่ รวมทั้งมีเวอร์ชั่นเสียเงินที่ Unlock ทุกข้อจำกัดให้สามารถใช้ได้อยู่เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ถือเป็นโปรแกรมที่ควรมีติดเครื่องไว้แบบไม่ต้องสงสัยเลย

Source : https://support.discord.com/hc/en-us https://discord.com/nitro 

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา