ห้างฯ​ ปรับตัวหนี “COVID-19” จัดโปรช้อปออนไลน์ คาดธุรกิจค้าปลีกกระทบ 2 แสนล้านบาทปีนี้

COVID-19 ยังมีความไม่แน่นอนสูง มาตรการจากภาครัฐก็ยังไม่ชัดเจน หน้ากากอนามัยก็ขาดตลาด มีการกักตุนและขึ้นราคา แอลกอฮอล์ก็ดูจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน หนึ่งในภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ ก่อนเลยคือ ค้าปลีก และมีโอกาสได้รับผลกระทบมากที่สุดด้วย

จับกลุ่มกลางล่างลำบาก จับกลุ่มกลางบนก็เหนื่อย

การที่นักท่องเที่ยวมาไทยน้อยลง และน่าจะเงียบเหงายาวตลอดทั้งปี การบริโภคภายในประเทศก็หดตัวจากการเลิกจ้างงาน หรือถูกพักงาน ลดการจ้างทำให้รายได้คนไทยลดลง กำลังซื้อก็น้อยลง ดังนั้น ธุรกิจค้าปลีกจึงรับไปเต็มๆ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าสะดวกซื้อ ห้างไฮเปอร์มาร์เก็ต และธุรกิจค้าปลีกที่จับกลุ่มลูกค้าคนไทยระดับกลางถึงล่าง อาจได้รับผลกระทบมาก เนื่องจากกำลังซื้อลดลง ขณะที่ธุรกิจค้าปลีกที่จับกลุ่มระดับกลางบน และ e-Commerce อาจได้รับผลกระทบน้อยกว่า

ดังนั้น ไม่น่าแปลกใจ ถ้าไปเดินห้างฯ ช่วงนี้ จะโล่งเป็นพิเศษ ไม่มีนักท่องเที่ยวจีน หรือแม้แต่คนไทยเองก็ไม่ค่อยเดิน เพราะวิตกกังวลเกี่ยวกับ COVID-19 ทำให้ธุรกิจค้าปลีกหลายราย ต้องปรับกลยุทธ์เน้นช้อปปิ้งออนไลน์ และ e-Commerce มากขึ้น หรือไม่ก็ต้องอัดโปรโมชั่นหนักๆ เพื่อดึงให้คนยอมออกจากบ้านมาเดินห้างอีกครั้ง

เซ็นทรัล จัด Hot Price Hot Deal

ห้างเซ็นทรัล ระบุว่า การทำธุรกิจค้าปลีกได้พัฒนาไปสู่การเป็น Omnichannel ผสมผสานออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันแล้ว ดังนั้นสามารถมาช้อปที่ห้างฯ​ ช้อปผ่านออนไลน์หรือ ช้อปผ่านการ Chat ได้หมด มีส่วนช่วยกระตุ้นยอดขายแม้จำนวนผู้มาเดินห้างฯ​ ลดลง

เซ็นทรัล ได้จัดโปรโมชั่น Central Hot Price Hot Deal ระหว่างวันที่ 11 มี.ค.​ – 2 มิ.ย. 63 ที่ห้างเซ็นทรัลทุกสาขา มีทั้งลดราคาพิเศษ, ซื้อ 1 แถม 1 แลกรับส่วนลดเพิ่ม 12.5% เมื่อใช้คะแนน เดอะวัน โดยช้อปได้ที่ห้างฯ​ หรือเว็บไซต์ www.central.co.th หรือผ่านช่องทางไลน์ Central Chat and Shop

อย่างไรก็ตาม ร้านค้าที่อยู่โซนพลาซ่า ซึ่งจ่ายค่าเช่าพื้นที่ห้างฯ ที่ไม่มีช่องทางออนไลน์อื่น หรือร้านอาหารในห้างฯ อาจได้รับผลกระทบจากจำนวนคนที่มาห้างฯ​ ลดลงเช่นเดียวกัน

ขณะที่ Central Online ก็พยายามจัดโปรโมชั่น SHOP SHOP ลด แลก แจก แถม อย่างต่อเนื่องเช่นกัน

เดอะ มอลล์ Shopping ช้อป ช่วย ไทย ไทยสู้สู้!

ด้าน เดอะ มอลล์ ก็จัดโปรโมชั่น ช้อป ช่วย ไทย ไทยสู้สู้! 6 มี.ค. – 15 เม.ย.​63 โดยเน้นจับลูกค้าที่มี M Card และเน้นช่วงวันเสาร์-อาทิตย์เป็นหลัก เพื่อกระตุ้นให้คนไทยออกมาช้อปปิ้ง เพื่อช่วยไทยด้วยกัน พร้อมมีมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันเชิงรุกขั้นสูงสุดเพื่อความปลอดภัยของลูกค้า

โอกาสเปิดสำหรับออนไลน์, O2O และ Delivery

ขณะที่สถานการณ์โดยรวมยังไม่ดีขึ้น ช่องทางซื้อสินค้าออนไลน์กลายเป็นทางออกสำหรับการซื้อสินค้าทั้งของจำเป็นในชีวิตประจำวัน อาหาร หรือการช้อปปิ้งตามปกติ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสให้กับ Shopee-Lazada ซึ่งเป็นผู้นำ e-Commerce ในไทย รวมถึงช่องทางออนไลน์อื่นๆ ดังนั้นช่วงนี้บริการขนส่ง อย่าง ไปรษณีย์ไทย, Kerry Express หรือ Flash Express น่าจะวิ่งกันวุ่น

นอกจากนี้ บริการ O2O อื่นๆ โดยเฉพาะ Delivery ที่สามารถสั่งให้มาส่งที่บ้านได้ จึงเป็นโอกาสสำหรับ LINE Man, Grab และ GET ด้วย

คาดกระทบธุรกิจค้าปลีก 2 แสนล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า หากการแพร่ระบาดสามารถคุมได้ในครึ่งปีแรก และมีมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อจากทางภาครัฐ ตลอดจนมีกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการ ควบคู่ไปกับการมีมาตรการดูแลและป้องกันทางด้านสุขภาพให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการภายในร้านค้าปลีก ก็น่าจะช่วยประคับประคอง และทำให้บรรยากาศการใช้จ่ายในช่วงครึ่งหลังของปีค่อยๆ ทยอยฟื้นตัวได้

คาดว่าภาพรวมธุรกิจค้าปลีกทั้งปี 2563 จะหดตัวราว 0.8% หรือเป็นเม็ดเงินประมาณ 150,000 ล้านบาท แต่หากสถานการณ์ลากยาวออกไปหรือรุนแรงขึ้น อาจทำให้มูลค่าตลาดค้าปลีกหดตัวถึง 2.2% หรือคิดเป็นเงินค้าปลีกจากนักท่องเที่ยวและคนไทยที่หายไปราว 200,000 ล้านบาท

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา