แถลงผลเจรจา จัดตั้งรัฐบาลจาก 8 พรรค 313 ที่นั่ง จัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตย รัฐบาลของประชาชน
พรรคก้าวไกล 152 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทย 141 ที่นั่ง พรรคประชาชาติ 9 ที่นั่ง พรรคไทยสร้างไทย 6 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทยรวมพลัง 2 ที่นั่ง พรรคเสรีรวมไทย 1 ที่นั่ง พรรคเป็นธรรม 1 ที่นั่ง พรรคพลังสังคมใหม่ 1 ที่นั่ง
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์แถลง กราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้องประชาชนและเพื่อนๆ สื่อมวลชนที่เคารพรัก สำหรับวันนี้เป็นการแถลงจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชน วันนี้ พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อไทยรวมพลัง พรรคเป็นธรรม และพรรคสังคมใหม่
จากผลการเลือกตั้งที่ไม่เป็นทางการ มีจำนวนผู้แทนราษฎรรวมกันทั้งสิ้น 313 คน พวกเราทุกพรรคขอขอบคุณเทุกสียงของประชาชน คือเสียงแห่งความหวัง เสียงแห่งความเปลี่ยนแปลง รัฐบาลชุดใหม่จะทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ต่ออำนาจของประชาชน และเราจะเป็นรัฐบาลของคนไทยทุกคน
ทุกพรรคประกาศจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชนร่วมกัน ดังต่อไปนี้
หนึ่ง ทุกพรรคเห็นชอบสนับสนุนหัวหน้าพรรคก้าวไกล พิธา ลิ้มเจริญรัตน์เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ตามเสียงข้างมากจากผลการเลือกตั้งของประชาชน
สอง ทุกพรรคจะร่วมกันจัดทำข้อตกลงร่วม (MoU) ในการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อทำงานร่วมกัน จะแถลงต่อสาธารณชน วันที่ 22 พฤษภาคม เพื่อแก้ไขวิกฤตทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม
สาม ทุกพรรคจะจัดตั้งทีมงานเพื่อเปลี่ยนผ่านรัฐบาลเพื่อเตรียมความพร้อมให้สามารถบริหารราชการแผ่นดินต่อจากรัฐบาลชุดเดิมได้อย่างไร้รอยต่อ ด้วยความเคารพในเสียงข้างมากของประชาชน
ช่วงถามตอบ
จุดยืนมาตรา 112?
พิธาระบุว่า จุดยืนมาตรา 112 มีการพูดคุยตั้งแต่ดีเบตเยอะแล้ว แต่ละพรรคมีความชัดเจนในเรื่องนี้ พื้นที่นี้ยังไม่เหมาะที่จะแถลงเรื่องนี้ ส่วนเรื่องจุดยืนพรรคภูมิใจเป็นเรื่องของพรรคภูมิใจไทย ทางพรรคก้าวไกลและพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 8 พรรคมีจุดยืนในการจัดตั้งรัฐบาล มีความชัดเจน มีเอกภาพ มีความคืบหน้าเป็นที่หน้าพอใจ สำหรับตอนนี้กำลังจัดทำคณะทำงานและทีมเปลี่ยนผ่านอำนาจ ตอนนี้ยังมีเวลา ส่วนเนื้อหา MoU จะแถลงรายละเอียดวันที่ 22 พฤษภาคม
ถ้าจัดตั้งรัฐบาล โหวตและไม่ได้ จะทำอย่างไร?
ทั้งคณะเจรจาและคณะเปลี่ยนผ่าน วางแผนหลายรูปแบบเพื่อรับมือหลายฉากทัศน์เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล ไม่ได้กังวลอะไร ปล่อยให้คณะทำงานที่จัดตั้งเพื่อบริหารทั้งจำนวนเสียงที่เหมาะสมและการสานต่อนโยบายตามที่สัญญากับประชาชน ยืนยันว่าโหวตผ่านแน่นอน ตอนนี้ไม่มีความกังวล มีโรดแมป มีคณะกรรมการ และมีเป้าหมายที่ชัดเจน
วิธีการชี้แจง ผมคิดว่า 313 เสียง ณ วันนี้เป็นความปกติของระบบประชาธิปไตยที่เพียงพอ ถ้าเรามานั่งคิดให้ได้ 376 เสียงโดยการตามหาเพิ่มเติมยังไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญในตอนนี้ อย่างที่เรียนไปแล้ว อาจมีหลายฉากทัศน์ที่อาจจะคาดไม่ถึง ก็กำลังหากรอบเจรจาหาจุดตัวเลขที่สมดุล ส่วนเรื่องการแบ่งกระทรวงนั้น ขอยืนยันว่าใช้ปัญหาประชาชนเป็นตัวตั้ง มากกว่าจะแบ่งกระทรวงว่าพรรคใดจะนำ หลายปัญหาต้องใช้หลายกระทรวงร่วมกันแก้ไข
ไม่กังวลเรื่องการตรวจสอบ ถ้ามีมูลเหตุจูงใจทางการเมืองก็พร้อมที่จะรับผลกระทบที่เกิดขึ้น สำหรับเสียงตอบรับจาก ส.ว. เป็นเรื่องที่น่ายินดีกับระบบประชาธิปไตยถือเป็นอาณัติหมายที่ดี เข้าสู่ระบบประชาธิปไตยที่ประชาชนมีอำนาจสูงสุด
นพ. ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย
นพ. ชลน่านระบุว่า ในนามเพื่อไทย เรามี 141 เสียง ขออนุญาตยืนยัน พรรคเพื่อไทยยืนยันจะสนับสนุนคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ขอยืนยันครั้งที่ร้อย ห้าร้อย หกร้อยก็ยอม เพราะกระแสปั่นเยอะ ขอกราบเรียนพื่น้องสื่อมวลชนในประเด็นนี้ก่อน จะได้ไม่มีข้อสงสัย เรื่องที่สองคือการประกาศเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล เราไม่ได้เป็นผู้เสนอเงื่อนไข เรายกให้เป็นหน้าที่ของพรรคแกนนำ ซึ่งข้อเท็จจริงก็ผ่านกระบวนการจัดทำร่าง MoU มาให้ทุกพรรคช่วยกันดู เพื่อดูว่าอะไรรับได้ อะไรสมควรปรับแก้ อะไรที่ไปไม่ได้ด้วยกันก็พูดคุยและเสนอกัน เนื้อหา MoU ก็จะถูกพิจารณา
สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พรรคไทยสร้างไทย
ทุกคนมีจุดยืนเรื่อง 112 อย่างแรกเลยหน้าที่ของพรรคการเมือง หน้าที่รักษาชาติ ศาสน์ กษัตริย์ไว้ การจะทำอะไรที่จะกระทบให้สถาบันฯ เกิดความเสื่อมเสีย หน้าที่ของพรรคการเมืองทุกพรรคต้องปกป้อง การที่ผู้มีอำนาจใช้มาตรา 112 ในการกลั่นแกล้ง ทำร้ายประชาชน ต้องพิจารณาและตามดู และการใช้มาตรา 112 ต้องไม่เป็นเครื่องมือให้ใครมาทำร้ายกัน นี่เป็นหลักการ เรายืนยันปกป้องสถาบันฯ และไม่ใช้มาตรา 112 มาทำร้ายกัน ต้องคุยกันในมาตรานี้และทุกนโยบาย ปัญหาประเทศมีมากมายหลายเรื่องที่ต้องคุยกัน
เสรีพิศุทธ์ พรรคเสรีรวมไทย
เวลาผมไปหาเสียง ให้คนเลือกตั้งคนทั้งพรรค ผลการเลือกตั้งออกมาแล้ว พี่น้องประชาชนสนับสนุนพรรคก้าวไกลให้บริหารประเทศเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ยืนยันตามเจตนารมของผมและพี่น้องประชาชนให้พรรคที่มีเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลและหัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรี ผมยืนยันให้พรรคก้าวไกลและคุณพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี เรามาประกาศรวมกันเพื่อยืนยันให้คุณพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ประเด็นอื่นยังไม่ถึงเวลาที่จะพูดตอนนี้ ถ้ามีประเด็นใดก็พร้อมสนับสนุนเต็มที่ ถ้ามีปัญหาก็ทบทวนอีกครั้ง
วันนอร์ พรรคประชาชาติ
เรียนท่านสื่อมวลชนที่เคารพรักทุกท่านรวมทั้งพี่น้องคนไทยที่เคารพทุกท่าน พรรคประชาชาติเคารพในระบอบประชาธิปไตยขอพี่น้องทุกคน 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา พี่น้องประชาชนมอบความไว้วางใจให้พรรคก้าวไกลมากที่สุด แสดงให้เห็นว่าพี่น้องประชาชนต้องการผู้นำรัฐบาลที่มาจากพรรคก้าวไกล
ด้วยความเคารพในเสียงของพี่น้องประชาชน พรรคประชาชาติขอสนับสนุนคุณพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาลของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชนครั้งนี้ให้สำเร็จ และอยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายรวมทั้งสื่อมวลชนโปรดให้ความเคารพ การตัดสินใจของประชาชนในประเทศนี้ ถ้าเราไม่เคารพเสียงประชาชนเราจะพบกับปัญหาเดิมๆ ที่ไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างสง่างาม
ขอให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงพี่น้องประชาชนให้มากที่สุดว่า พี่น้องประชาชนตัดสินใจอย่างไร ต้องการอะไร เพื่อจะเดินไปข้างหน้าด้วยกัน ปัญหาวิกฤตของประเทศมากมายพอสมควรแล้ว ปัญหาทั้งในระดับภูมิภาค ระดับโลก เราจะชอบ จะรักใครไม่ว่า แต่เราต้องรักประชาชนก่อน ถ้าเราไม่รักประชาชน ปัญหาเดิมๆ จะกลับมา ผมยืนยันสิ่งที่หัวหน้าพิธาพูดเป็นการตัดสินใจร่วมกัน วันที่ 22 พฤษภาคม ท่านจะเห็นแสงของความก้าวไปข้างหน้าจะมาถึง เราตั้งใจ ขอขอบคุณ ขอฝากความหวังให้ทุกคนด้วยความจริงใจ
ปิติพงษ์ พรรคเป็นธรรม
พรรคเป็นธรรมเป็นพรรคใหม่ นำเสนออุดมการณ์หาเสียง พรรคใหม่ คนใหม่ การเมืองใหม่ เราเน้นทำการเมืองสร้างสรรค์ ขอขอบคุณทุกเสียงที่มอบให้เป็น 1 เสียงที่มีค่าของท่าน จะแสดงให้เห็นการเมืองใหม่ผ่านตัวแทนของพรรคในสภาจะทำอย่างไร พรรคสนับสนุนมติมหาชนมอบให้พรรคก้าวไกล นำเสนอคุณพิธาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จะไม่เปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ ไม่มีข้อต่อรองทางการเมือง เรายึดมั่นในอุดมการณ์ที่พี่น้องประชาชนมอบให้ มีหลายเรื่องที่ต้องคุยในคณะทำงาน เช่น เรื่อง 112 ซึ่งเคยประกาศจุดยืนไปแล้ว ทุกอย่างก็จะตกผลึกเป็น MoU ถกแถลงร่วมกัน
เรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติว่าที่นายกฯ ผมเชื่อว่าคุณพิธาสามารถผ่านวิกฤตได้ ถ้ามีความเป็นธรรมให้เขา ให้ กกต. พิจารณาตามหลักเกณฑ์สากลที่คนเขายอมรับกัน ให้มีความเป็นธรรม ส.ว. ทุกท่านเป็นผู้มีคุณวุฒิและมีวุฒิภาวะ ท่านรู้ว่าใช้เสียงของท่านไปทางใด ให้ช่วยตระหนักลงลึก คำถามสังคมคือเปลี่ยนผ่านจากรัฐบาลเดิมเป็นรัฐบาลใหม่ รัฐบาลแห่งความหวัง รัฐบาลประชาชน ส่วนความขัดแย้งขอให้ไปว่ากันในสภา ผม คุณพิธา และพรรคร่วมพร้อมที่จะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปด้วยกัน
เชาวลิต พรรคพลังสังคมใหม่
ระบบประชาธิปไตย ผมได้เข้ามา 1 เสียงก็ไม่สามารถนำนโยบายพรรคให้นำไปใช้กับพี่น้องประชาชนได้ ผมมองเห็นความศรัทธาและประชามติที่พี่น้องประชาชนเลือกพรรคก้าวไกล 14 ล้านเสียง แสดงให้เห็นว่าอยากให้คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์เป็นนายกรัฐมนตรี ผมในนามพรรคเล็ก พรรคใหม่ ผมอยากให้การเมืองเดินด้วยระบอบประชาธิปไตย พรรคที่ได้เสียงข้างมากสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ พรรคเสียงข้างมากสองพรรคคึอพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล สังคมมีความเหลื่อมล้ำมาก เรามาสร้างสังคมใหม่กันไหม ลดความขัดแย้ง จากทุกคนที่มีอคติ สร้างประเทศไทยและสังคมใหม่ด้วยกัน ให้คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30
วสวรรธน์ พวงพรศรี พรรคเพื่อไทยรวมพลัง
เรามีอุดมการณ์ทางการเมืองประชาธิปไตยตั้งแต่ก่อตั้งพรรค รณรงค์หาเสียงสอดคล้องกัน เป็นพรรคอุบลราชธานีที่ได้มา 2 เขต 2 เสียง สนับสนุนคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ตั้งรัฐบาลได้
สุดท้ายหมอชลน่าน ระบุว่า วันนี้เรามาแถลงเจตนารมเพื่อจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน กลไกสำคัญที่สุดคือข้อตกลงร่วม MoU หลายเรื่องอยู่ในนี้ วันที่ 22 จะเป็นวันที่เราจะบอกว่าเราจะร่วมมือกันอย่างไร อะไรเป็นเงื่อนไข เป็นข้อจำกัด ต้องให้จบใน MoU ถ้าไม่จบต้องมีทางออก เราจะแถลงว่าทำเรื่องนั้นได้อย่างไร เช่น มาตรา 112 อะไรที่เห็นร่วมกันไปได้เร็ว อะไรที่เห็นต่างก็ตกลงใน MoU เราจะหาทางออกที่จะร่วมมือกันในฐานะที่เป็นรัฐบาลของประชาชน เพื่อไทยก็จะมีคำตอบในวันนั้นเช่นกัน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา