Dairy Queen เติบโตแข็งแกร่ง: ปีนี้จะเปิด EV Truck เน้นขยายสาขาและเปิดเลาจน์ให้ลูกค้าพักผ่อน

Dairy Queen เติบโตแข็งแกร่ง พัฒนาสินค้าใหม่ๆ ตอบสนองลูกค้าทุกปี

ธนกฤต กิตติพนาชนม์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไมเนอร์ ดีคิว จำกัด บริษัทในเครือไมเนอร์ กรุ๊ป ผู้ดำเนินธุรกิจร้านไอศกรีม “เดลี่ควีน” เผยผลการดำเนินงานของแดรี่ควีนในปี 2023 ที่ผ่านมา พร้อมกลยุทธ์ของปี 2024

ธนกฤต กิตติพนาชนม์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไมเนอร์ ดีคิว จำกัด บริษัทในเครือ ไมเนอ

กลยุทธ์สำคัญสำหรับปี 2024 ดังนี้

1) ขยายสาขาเพิ่มในพื้นที่ใหม่ๆ รีโนเวทสาขาเดิมให้ดีขึ้น
2) ชูคอนเซ็ปต์ “The playground for a sweet pause” แดรี่ควีน จะเปิดตัวเลาจน์ให้นั่งแล้ว!
3) เน้นการสื่อสารกับลูกค้ามากขึ้น
4) เปิดตัว EV Truck รักษ์โลก ไม่จำกัดตัวเองไว้ที่ห้างสรรพสินค้าเท่านั้น

แดรี่ควีน อยู่ในจุดที่สูงสุดแล้ว นับตั้งแต่ก่อตั้งในไทย

สำหรับภาพรวมการเติบโต ปี 2023 ที่ผ่านมา มีการเติบโต 70% ยอดขายตั้งแต่ปี 2021-2023 โต 30% ซึ่งก็ถือว่าเป็นไปตามยอดเฉลี่ยการเติบโต 30% ทุกปีหลังโควิดระบาด ปีนี้ตั้งเป้าโต 30% ที่แน่ๆ คือ double digit มีการออกสินค้าใหม่ทุกปี 7 แคมเปญ แต่ละแคมเปญ อยู่ 1 เดือนครึ่ง หรือ 1 เดือน 45 วัน ลูกค้าต้องการสินค้าใหม่ๆ ตลอดเวลา ค่อยๆ ออกสินค้าใหม่ไม่ได้ มีอะไรก็รีบปล่อย

ณ วันนี้ แดรี่ควีนถือว่าอยู่ในจุดที่สูงที่สุดของยอดขาย นับตั้งแต่ก่อตั้งในไทยมายาวนาน 28 ปี ซึ่งเจ้าของของแดรี่ควีนก็คือ Warren Buffett มหาเศรษฐีแห่ง Berkshire Hathaway ก็เป็นผู้ที่เน้นทำการลงทุนเพื่อให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน

ปีที่แล้ว มีการออกสินค้าได้ฮิตและเกินเป้าหลายอย่าง สินค้า 1 ชิ้นใช้เวลาในการปั้นประมาณ 1 ปี แบ่งเป็นครึ่งปีแรกพัฒนา ครึ่งปีหลังเริ่มออกขาย เริ่มที่บลิซซาร์ดข้าวเหนียวมะม่วงน้ำกระทิ ตามด้วยข้าวเหนียวทุเรียนน้ำกระทิ ขณะที่บลิซซาร์ดปังกรอบชาไทย ก็ขายได้ดีมาก เกินเป้า 200% จนขาดตลาดไป 3-4 วัน และยังมีซอฟต์เสิร์ฟข้าวหลามจักรพรรดิซึ่งก็มีแต่ในไทยเท่านั้น ประเทศอื่นไม่มี ตามด้วยโอวัลตินภูเขาไฟ ขายดี ลูกค้าที่มีอายุวัยกลางคนขึ้นไปที่เคยทานในวัยเด็กก็ระลึกถึงและชอบ เด็กก็ชอบทาน ตามด้วยบราวนีกรอบ 

ปัจจุบัน กระแสชาไทยยังขายดีอยู่ วันนี้โต Double-Digit หรือโตแบบเลขสองหลัก Dairy Queen มีจุดแข็งเรื่องบลิซซาร์ด คว่ำไม่หก เพราะนุ่มเหนียว มีความเหนียว ในส่วนของ ราเชื่อว่าเครื่องดื่มเป็นช่องทางหนึ่งที่ยังไม่ได้เน้นเท่าบลิซซาร์ด ซึ่งเครื่องดื่มก็จะเป็นกลยุทธ์ที่โฟกัสปี 2024

เน้นการสื่อสารมากขึ้น

ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือโซเชียลมีเดีย การสื่อสารเพื่อเข้าถึงลูกค้า Engagement ตามมาเพราะสินค้าดี ลูกค้าพูดต่อ พนักงานเน้นโชว์สินค้า เน้นให้น้องๆ ทำเค้ก ทำสินค้า ถ่ายวิดีโอ ให้ลูกค้าเข้าใจว่าสินค้าเกิดขึ้นอย่างไร ปัจจุบัน แดรี่ควีนไทยมีพนักงาน 3,000 คน ปัจจุบัน เฉพาะในเอเชียมีสาขาในไทยทั้งหมด 520 สาขา ในจีน 1,500 สาขา

Dairy Queen Lounge

ชูแนวคิดเป็นจุดแวะพักให้ผู้คนเข้ามาเติมพลังชีวิตได้ที่แดรี่ควีน

สำหรับปีนี้ Dairy Queen จะชูคอนเซ็ปต์ The playground for a sweet pause สถานที่ให้มานั่งเล่นและพักผ่อน และ enjoy สิ่งที่เขาต้องการคือ Modern, fun-loving และ enegetic แดรี่ควีนจะรีเฟรชแบรนด์ให้สดใสขึ้น มีการสื่อสารมากขึ้น เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้ทุกระดับและสามารถ enjoy กับสินค้าได้

เลาจน์ของแดรี่ควีน

เน้นให้ลูกค้านั่งพักหย่อนใจ ไม่เร่งรีบแบบ grab and go แต่เป็นใช้เวลาอยู่กับตัวเองเพื่อผ่อนคลาย มันพิเศษอย่างไร ? ในเชิงสินค้า จะมีเบเกอรี่ บราวนี่
บริยอช พาร์เฟ่ต์ สินค้าตัวนี้เพิ่มยอดขาย 10% การรีโนเวทเพิ่มยอดขาย 15% รวมกันทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 25%

Dairy Queen EV Truck
ส่งต่อแนวคิดรักษ์โลก เดินหน้าพัฒนาแพคเกจ เปิดตัว EV Truck

ที่ผ่านมา Dairy Queen ได้ลดการใช้พลาสติกไปแล้วมากกว่า 50% และเตรียมพัฒนาแพคเกจที่เก็บอุณหภูมิได้ รักษาสภาพสินค้าได้ดีและลูกค้าสามารถเก็บแพคเกจนั้นไว้เป็นของที่ระลึกได้ด้วย ทางแดรี่ควีนยังเตรียมเปิดตัว EV Truck เดินหน้าเป็นผู้นำในการรักษ์โลก จะเป็น EV Truck คันแรกของเดลี่ควีนในไทย ความพิเศษ คือสามารถเสิร์ฟซอฟต์เสิร์ฟได้ด้วย โดยข้อดีของการมี EV Truck ดังนี้

หนึ่ง มีโอกาสในการไปอยู่ในงานคอนเสิร์ตและงานอีเวนต์

สอง ที่สำคัญจะให้ทางแฟรนไชส์ไปเปิดรถคันนี้ในสถานที่ที่สามารถสำรวจได้ว่าจะสามารถเปิดร้านได้หรือไม่ ต้องเปิดแล้วทำกำไรได้

ปีนี้ คาดว่าจะเปิด EV Truck 5 คัน ถ้าเป็นแฟรนไชส์เปิด จะขับไปไหนก็ได้เฉพาะในเขตที่ตัวเองดูแล คือให้เป็นจังหวัด เพื่อให้เขาขยายสาขาเองเมื่อได้กำไร

แดรี่ควีนโฟกัสและให้ความสำคัญกับแฟรนไชส์มีประมาณ
290 ร้าน แฟรนไชส์ต้องมีกำไร ต้องมีกระแสเงินสด ถ้าเขาไม่มีกำไร จะไม่ให้เปิดสาขาเพิ่ม ต้องทำกำไรได้เพื่อจะได้อยู่กับแดรี่ควีนไปนานๆ ทุกวันนี้แฟรนไชส์อยู่กันมา 20 ปีแล้ว สำหรับปีที่ผ่านมามีการขยายธุรกิจไปที่ใหม่ๆ แดรี่ควีนมักอยู่ในห้างสรรพสินค้า ไฮเปอร์มาร์เก็ต คอมมูนิตี้มอลล์ เพื่อคอนเฟิร์มว่าจะไ้ด้ cash return แน่นอน

ตอนนี้เริ่มเปิดในมหาวิทยาลัยและชุมชนที่คนอยู่กันหนาแน่น เริ่มเปิดสาขาแรกที่รามคำแหงและบอกกับแฟรนไชส์ว่าเป็นโอกาสที่จะอยู่ลำพังได้ ตอนนี้แดรี่ควีนเริ่มขยายในมหาวิทยาลัย ในโรงพยาบาล อันใหม่คือ Warehouse Store หรือธุรกิจห้างค้าส่งที่มีลักษณะแบบคลังสินค้า เช่น makro หรือ Go

ปี 2024 นี้เน้นขยายการเติบโตไม่ต่ำกว่า 40 สาขา การที่ไม่ได้ขยายสาขาเยอะในปีก่อนแต่มียอดขายเยอะ เพราะแบรนด์แข็งแกร่ง ปีนี้เน้นรีโนเวทร้าน 80 สาขา ของแดรี่ควีน 40 สาขา ของแฟรนไชส์ 40 สาขา แบรนด์มีจุดแข็งที่บลิซซาร์ด เพราะใช้นม ซึ่งมีความเหนียว มีความมัน เน้นคุณภาพ ส่วนเลาจน์ก็อยากให้มี 1 สาขา ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ในกรุงเทพ อยากเปิดทุกห้างที่ถือเป็นพรีเมียม ในส่วนของเบเกอรี่ คาดว่าเปิดไม่เกิน 50 สาขาหรือ 10

ค่าแฟรนไชส์แดรี่ควีน ค่าสร้างร้าน ค่าเครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งก็แล้วแต่เนื้อที่ ประมาณ 5 แสนถึง 1 ล้านบาท แดรี่ควีนต้องการเปิดเลาจน์เอง 70% และให้แฟรนไชส์เปิด 30% จะเปิด 7 สาขา แฟรนไชส์ 3 สาขา ใน กทม. และปริมณฑล ปัจจุบันแดรี่ควีนในไทยเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย ตั้งเป้าว่าจะโตให้ได้
1,000 สาขา ภายใน 5 ปี นับจากปีนี้

Dairy Queen

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา