Colgate-Palmolive กำลังพิจารณาอนาคตแบรนด์ยาสีฟัน “Darlie” หลังมีประเด็นเรื่องเหยียดสีผิว

คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ กำลังพิจารณาอนาคตแบรนด์ยาสีฟัน “ดาร์ลี่” หลังจากจุดเริ่มต้นของแบรนด์ยาสีฟันดังกล่าวนี้ก็มาจากเรื่องการเหยียดสีผิว แม้ว่าจะมีการรีแบรนด์ไปแล้วหลายสิบปีก็ตาม

ยาสีฟันดาร์ลี่ Darlie
ภาพจาก Shutterstock

Colgate-Palmolive กำลังพิจารณาอนาคตของแบรนด์ยาสีฟัน Darlie ซึ่งยาสีฟันยี่ห้อดังกล่าวมีส่วนแบ่งตลาดสูงในทวีปเอเชียหลายประเทศ หลังจากการประท้วงเรื่องสีผิวได้ลุกลามไปทั่วโลก ขณะเดียวกันตัวแบรนด์ยาสีฟันนี้ก็มีต้นกำเนิดมาจากเรื่องสีผิวเช่นเดียวกัน แม้ว่าจะมีการรีแบรนด์ไปแล้วตั้งแต่ปี 1989 แล้วก็ตาม

ในอดีต Hawley & Hazel ผู้ผลิตยาสีฟันยี่ห้อดังกล่าวนี้ได้ตั้งชื่อว่า “Darkie” ซึ่งแปลว่าคนดำ และเริ่มขายยาสีฟันดังกล่าวในประเทศจีนช่วงยุค 1930 ก่อนที่จะขยายธุรกิจไปในไต้หวัน และฮ่องกง และแบรนด์ยาสีฟันดังกล่าวนี้เคยมีสโลแกนสำหรับการจำหน่ายในประเทศจีนว่า “ยาสีฟันของคนดำ” ยาวนานถึงทศวรรษ

ขณะที่ปี 1989 ทาง Colgate ได้ซื้อกิจการ Hawley & Hazel ด้วยมูลค่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ดีเนื่องจากแบรนด์ Darkie โดนผู้ถือหุ้น นักการเมืองในสหรัฐ รวมไปถึงกลุ่มเรียกร้องด้านสีผิว กดดันให้ Colgate เปลี่ยนชื่อยาสีฟันดังกล่าว และถ้าหากไม่เปลี่ยนชื่ออาจแบนสินค้าของ Colgate จนท้ายที่สุดก่อนบริษัทได้รีแบรนด์ใช้ชื่อยาสีฟัน Darlie จนถึงปัจจุบัน

โฆษกของ Colgate-Palmolive ได้กล่าวกับ Hong Kong Free Press ถึงการพิจารณาอนาคตของแบรนด์ยาสีฟันว่า “บริษัทใช้เวลา 35 ปีในการทำงานร่วมกับหลายๆ ฝ่าย เพื่อที่จะพัฒนาชื่อแบรนด์ โลโก้ แพ็คเกจ และตอนนี้เรากำลังพิจารณาเรื่องนี้กับพาร์ตเนอร์ของเราในอนาคตของแบรนด์ดังกล่าวนี้”

ปัจจุบันยาสีฟันแบรนด์ดังกล่าวนี้มีส่วนแบ่งทางการตลาดในจีนมากถึง 17% ขณะที่ประเทศอื่นๆ เช่น สิงคโปร์ มีส่วนแบ่งทางการตลาดถึง 21% มาเลเซีย 28% ไต้หวัน 25%

ที่มา – BBC, HKFP

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
Content Writer ที่สนใจในเรื่องของตลาดทุนทั้งในและต่างประเทศ กลุ่ม TMT (Technology, Media, Telecom) การควบรวมกิจการ (M&A) นโยบายทางเศรษฐกิจของไทยและต่างประเทศ รวมถึงสิ่งละอันพันละน้อยทางธุรกิจที่น่าสนใจ