1 ปีกับบทบาท CMO ที่ dtac “สิทธิโชค นพชินบุตร” ขอเวลาปรับทัพการตลาดใหม่ ครึ่งปีหลังมีเซอร์ไพรส์แน่นอน

ทำงานมาครบ 1 ปีพอดี สำหรับ สิทธิโชค นพชินบุตร CMO ฝีมือคนไทยฝีมือดี ที่หลายคนกำลังจับตามองว่า จะมาพลิกสถานการณ์ทางการตลาดให้กับ dtac ที่ต้องยอมรับว่าก่อนหน้านี้ใช้ CMO จากต่างประเทศ เลยทำให้ยังเข้าใจผู้บริโภคคนไทยไม่ถึงแก่นมากนัก

ครั้งนี้ Brand Inside ได้โอกาสเข้ามานั่งพูดคุยถึง 1 ปีที่ผ่านมาและอีก 1 ปีจากนี้ สิทธิโชค มองสถานการณ์ต่างๆ และเตรียมขยับการตลาดของ dtac อย่างไร

1 ปี ปรับทัพการตลาดใหม่… ยังไม่จบ

สิทธิโชค บอกว่า ช่วงเวลา 1 ปีที่ทำงานกับ dtac ต้องบอกว่ายังใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการปรับการตลาดใหม่ ด้วยองค์กรขนาดใหญ่ที่มีพนักงานกว่า 5,000 คน มีฝ่ายการตลาดกว่า 1,500 คน การกำหนดแนวทางและกลยุทธ์เป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นต้องยอมรับว่า อาจต้องใช้เวลาอีกสักระยะกว่าการปรับแนวทางการตลาดจะเสร็จเรียบร้อย

“แม้ส่วนตัวจะอยากทำให้เร็วกว่านี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าในเวลา 1 ปียังเร็วเกินไปที่จะปรับแนวทางการตลาดของขนาดใหญ่ให้เสร็จ ทุกคนในองค์กรต้องการเวลาในการปรับตัว”

ในยุค Digital Transformation องค์กรต้องปรับตัวให้เร็ว แต่ส่วนตัวมองว่ายังมีเวลาที่จะทบทวนและปรับตัวอย่างระมัดระวัง เพื่อทิศทางขององค์กรที่ถูกต้อง อาจใช้เวลาอีกประมาณ 1 ปีจากนี้ เชื่อว่า Core Business ของ dtac ยังสามารถสร้างรายได้และทำกำไรได้ ในระยะสั้นอาจมีผลกระทบบ้าง

แต่เชื่อว่าในระยะยาว dtac จะเติบโตขึ้นอย่างมั่นคง

6 เดือนแรกยังไม่ชัด ธุรกิจต้องดูกันยาวๆ

สำหรับ 6 เดือนแรกของปีนี้ สิทธิโชค บอกว่ามีทั้งเรื่องที่ดีและเรื่องที่ต้องปรับปรุง จะเห็นว่า ไตรมาสแรกแม้จำนวนลูกค้าจะลดลงแต่รายได้เพิ่มขึ้น ถือเป็นสัญญาณที่ดี เรียกว่าระยะสั้นอาจจะสะดุดบ้างจากการทุ่มตลาดของคู่แข่ง แต่เรื่องนี้ต้องดูกันยาวๆ

ผลบวกเกิดขึ้นในไตรมาสแรก เริ่มจาก dtac เลือกใช้ อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ เซเลบซูเปอร์สตาร์มาเป็น พรีเซ็นเตอร์ในเรื่องความกว้างของคลื่นความถี่ และความลื่นของบริการ ซึ่งกลายเป็น Talk of the Town ตามมาติดๆ ด้วยแพ็คเกจ Go No Limit ที่มี นาย ณภัทร เสียงสมบูรณ์ มาเรียกเสียงฮือฮา และเป็นแพ็คเกจแรกของตลาด ที่ตรงกับพฤติกรรมผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปเน้นเรื่อง data มากกว่า

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าไตรมาส 2 ควรมีแคมเปญออกมาต่อยอดทันที แต่ dtac ก็หายไป ขาดความต่อเนื่อง นี่คือสิ่งที่ต้องปรับปรุง ดังนั้นในครึ่งปีหลังนี้ การตลาดของ dtac จะมีความต่อเนื่องมากขึ้น และมีเซอร์ไพรส์ออกมาแน่นอน

dtac Reward บริการ CRM ที่เห็นผลชัดเจน

ในด้าน CRM ต้องบอกว่าผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดคือ Serenade จาก AIS รวมถึง True Privilege ก็มีบริการที่หลากหลาย ขณะที่ dtac เริ่มต้นทีหลังสุด แต่หลังจากที่วางแผนและดำเนินการอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา dtac Reward ก็ได้รับการตอบรับที่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ

มีการทำโพลอย่างไม่เป็นทางการในเว็บไซต์ pantip.com เปรียบเทียบบริการ CRM จาก 3 ค่าย คลิกทีนี่ ผลปรากฎว่า dtac ชนะ!

สิทธิโชค บอกว่า dtac Reward ยังต้องพัฒนาไปอีกมากเพื่อให้บริการกับผู้ใช้ และเพื่อแข่งขันกับผู้ให้บริการรายอื่น ซึ่งผลสำรวจครั้งนี้อาจไม่สามารถใช้อ้างอิงอะไรได้ แต่ก็แสดงให้เห็นว่า การทำงานอย่างเต็มที่ด้าน CRM ของ dtac ผู้บริโภคสามารถรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยแปลงที่เกิดขึ้น และจะเป็นแรงผลักดันให้ dtac ทำให้ดีขึ้นต่อไป

อะไรจะเกิดขึ้นภายใน 6 เดือนข้างหน้า

อย่างที่บอกไปแล้วว่าบทเรียนจากไตรมาส 2 ที่เงียบเกินไป ทำให้ครึ่งปีหลังแคมเปญการตลาดต้องต่อเนื่อง และจะมีเซอร์ไพรส์ออกมาสู่ตลาดแน่นอน รวมถึงเรื่องคลื่นความถี่ 2300MHz ที่ยังอยู่ระหว่างการเจรจารายละเอียดสัญญากับทีโอที ทำให้ไม่สามารถเปิดเผยอะไรได้มากนัก

แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่นอนคือ การปลดล็อคความกังวลใจของผู้ใช้ว่า dtac จะไม่มีคลื่นสำหรับให้บริการ ซึ่งการมีคลื่นความถี่กว้าง 60MHz ทำให้สามารถสร้างสรรค์บริการใหม่ๆ ได้ ถือเป็นจิ๊กซอว์ของ story ที่ dtac จะเล่าถึงในอนาคต

และจะส่งผลดีในระยะยาวต่อธุรกิจของ dtac อย่างแน่นอน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา