เร่งยอดรถยนต์ไฟฟ้าเสียบปลั๊ก! BMW ไทยตั้งเป้ายอดขาย 20% ต้องมาจาก Plug-in Hybrid

แม้สถานีชาร์จไฟยังไม่ถูกติตดั้งเป็นการทั่วไป แต่ BMW ประเทศไทยเชื่อว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะได้รับความนิยมเป็นการทั่วไปแน่นอน ทำให้ค่ายผู้ผลิตรถยนต์จากเยอรมันรายนี้เร่งเครื่องสุดตัวเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งในตลาดนี้

BMW รุ่น 330e

เร่งเครื่องยอดขายกลุ่ม iPerformance

ด้วยต้นทุนทางเทคโนโลยีที่ถูกลง รวมถึงการนำชิ้นส่วนต่างๆ มาประกอบในประเทศไทย ทำให้รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน หรือกลุ่ม iPerformance ของ BMW นั้นเติบโตมาเรื่อยๆ และเกือบจะคิดเป็นยอดขาย 1 ใน 5 ของบริษัทแล้ว

อเล็กซานเดอร์ คอเทช หัวหน้าฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์ BMW iPermormance ของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เล่าให้ฟังว่า ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่นี่มีแนวโน้มเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มแบรนด์รถยนต์หรู (Luxury) ที่ต่างก็ส่งรุ่นต่างๆ เข้ามาทำตลาดจำนวนมาก ทำให้ผู้ซื้อในไทยมีข้อมูล และการตัดสินใจซื้อได้ดีขึ้น

อเล็กซานเดอร์ คอเทช หัวหน้าฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์ BMW iPermormance ของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย

จึงเป็นเหตุผลให้ BMW ประเทศไทยเร่งทำตลาดรถยนต์ประเภทนี้มาตลอด โดยปี 2560 นั้นยอดขายกลุ่ม iPerformance คิดเป็น 13% ของยอดจำหน่าย BMW ในไทยทั้งหมด 10,020 คัน ทำให้ปีนี้บริษัทตั้งเป้าเพิ่มเป็น 20% ของยอดขาย ซึ่งก็มีความเป็นไปได้สูง เพราะหลังผ่านไป 4 เดือนยอดขายรถยนต์กลุ่มนี้ก็เป็น 18% แล้ว

สื่อสารการตลาด เพิ่มรุ่นให้ตอบโจทย์ทุกระดับ

“ในปี 2560 ยอดขายกลุ่ม iPerformance หลักๆ มาจากรุ่น 330e ที่ราคาราว 2.22 ล้านบาท แต่ปีนี้จะมีรุ่น 530e ที่ราคา 3.59 ล้านบาทเข้ามาช่วยเพิ่มยอดขาย โดยทั้งคู่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบ Plug-in Hybrid (PHEV) นอกจากนี้ยังมีตระกูล X5 และ Series 7 ที่เข้ามาเติมเต็มในกลุ่มราคาระดับ 4.39 ล้านบาทขึ้นไป”

BMW Motorrad รุ่น C evolution

ขณะเดียวกันภายในปี 2568 ทาง BMW มีแผนที่จะทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดโลกทั้งหมด 25 รุ่น แบ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) 12 รุ่น จากปัจจุบันมีแค่รุ่น i3 และที่เหลือจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบ PHEV รวมถึงทางกลุ่มก็มีแผนที่จะทำตลาดรยนต์ไฟฟ้าในแบรนด์อื่นๆ เช่น MINI และ BMW Motorrad

ซึ่งในตลาดไทยนั้นแนวโน้มที่รถยนต์ไฟฟ้าแบบ PHEV ภายใต้แบรนด์ MINI ก็มีสูง แม้ปัจจุบันบริษัทจะเลิกผลิตรถยนต์แบรนด์ดังกล่าวในประเทศไทยแล้ว ส่วนกลุ่มมอเตอร์ไซค์นั้นยังไม่มีแผนทำตลาด แม้จะมีการพัฒนา และเริ่มทดสอบรุ่น C evolution แล้วก็ตาม เพราะอยู่ระหว่างศึกษาเรื่อง Infrastructure ต่างๆ ที่นี่

รูปแบบการใช้งานของ BMW ConnectedDrive

ชูนวัตกรรมช่วยดึงดูดผู้บริโภค

อย่างไรก็ตามเพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องสถานีชาร์จให้กับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าแบบ PHEV ทาง BMW ก็เตรียมร่วมมือกับพันธมิตรในโครงการ ChargeNow เพื่อขยายสถานีชาร์จจาก 14 แห่ง เป็น 50 แห่งภายในปีนี้ และเมื่อรวมสถานีชาร์จที่อยู่ในศูนย์บริการของ BMW ประเทศไทยก็จะมีทั้งหมด 100 แห่งทั่วประเทศ

และเพื่อยกระดับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าไปอีกขั้น BMW ที่ไทยก็เตรียมให้บริการ BMW ConnectedDrive หรือ Application ที่สามารถควบคุมรถยนต์ได้จากระยะไกล เช่นการ Start เครื่อง, ปลดล็อคประตู รวมถึงเปิดเครื่องปรับอากาศ นอกจากนี้ยังสามารถแสดงสถานะของแบตเตอรี่ และข้อมูลเกี่ยวกับการขับขี่ได้อีกด้วย

BMW รุ่น X2

ทั้งนี้เทคโนโลยีดังกล่าวจะทยอยติดตั้งในรถยนต์กลุ่ม iPerformance ก่อน หลังจากนั้นจะติดตั้งในรถยนต์เครื่องสันดาปภายในรุ่นอื่นๆ โดยรถยนต์ที่ประกอบในประเทศ และนำเข้าจากต่างประเทศก็จะได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันมีรถยนต์ตระกูล X2 รวมถึง 330e, 530e และ 740Le ใช้งานที่ประเทศไทยได้แล้ว

สรุป

นอกจากมีแผนเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว BMW ยังกางแผนระยะยาวที่จะขึ้นเป็นผู้นำในตลาด Connected Car ด้วย เพราะการทำให้รถยนต์สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อส่งข้อมูลต่างๆ ออกไปได้นั้นเป็นเทรนด์ที่ต้องเกิดขึ้นในอนาคต และหากไม่พัฒนาตอนนี้ก็เสี่ยงที่จะกลายเป้นผู้ตามของตลาดก็เป็นได้

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา