คุยกับ พชร อารยะการกุล CEO ของ Bluebik ทำไมองค์กรต้องจ้าง Consulting Firm

Consulting Firm หรือ บริษัทที่ปรึกษาถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงเวลานี้ เพราะนี่คือยุคของการเปลี่ยนแปลง หรือ Transformation ถ้าไม่เปลี่ยนองค์กรก็อาจไม่เติบโต หรือไม่รอดในอนาคต แต่ถ้าเปลี่ยนอย่างถูกต้อง โอกาสสร้างการเติบโต 2-3 เท่าหรือมากกว่านั้น ก็เกิดขึ้นได้

แต่คำถามจากหลายองค์กร คือ แล้วองค์กรไหนที่ต้องใช้ที่ปรึกษา ทำไมต้องใช้ เปลี่ยนแปลงเองได้หรือไม่ ราคาสูงมั้ย brand inside จะพามาหาคำตอบแบบชัดๆ กับ พชร อารยะการกุล ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Bluebik บริษัทที่ปรึกษาสัญชาติไทย ที่พร้อมท้าชนบริษัทคู่แข่งระดับโลก

อ่านประกอบ: Bluebik ธุรกิจคอนซัลต์สัญชาติไทย พร้อมท้าชนคอนซัลต์ระดับโลก

คำถามแรก ทำไมองค์กรต้องใช้บริการ Consulting Firm

พชร เริ่มต้นจากหน้าที่ของ Consulting Firm คือเข้าไปช่วยผู้บริหารในการตัดสินใจ สร้างการเติบโต เพิ่มผลกำไร วางแผนด้านกลยุทธ์ การตลาด การเงิน เทคโนโลยี รวมไปถึงลงไปช่วยทำงานด้วย ฟังดูแล้วเหมือนบริษัทที่ปรึกษาจะทำทุกอย่าง ใช่หรือไม่

นั่นเพราะบริษัทที่ปรึกษา จะมีมุมมองที่แตกต่าง ไอเดียที่แปลกใหม่ หลายครั้งองค์กรต่างๆ อาจจะ “หมดมุข” เพราะอยู่ในบรรยากาศเดิมๆ มานาน แต่ Consulting Firm มีประสบการณ์ที่แตกต่างจากหลากหลายอุตสาหกรรม สามารถช่วยในจุดนี้ได้ดี

หรือบางองค์กรอาจจะมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ แต่ก็มีข้อจำกัดเรื่อง “เวลา” หรือ “บุคลากร” เพราะงาน Transformation ไม่ได้สร้างรายได้ให้บริษัท ดังนั้น ผู้บริหารและทีมงานสามารถโฟกัสที่ธุรกิจและการแข่งขันได้เต็มที่ และให้ที่ปรึกษาทำงานส่วนนี้ให้ โดยมีเงื่อนไขว่า ต้องมีประสิทธิภาพ ต้องรวดเร็ว และเมื่อภารกิจเสร็จสิ้น บริษัทที่ปรึกษาก็ไม่เป็นภาระกับองค์กร ไม่ต้องจ้างต่อ ซึ่งแตกต่างกับการจ้างพนักงานประจำ

bluebik

ทำความเข้าใจ Consulting Firm ระดับโลก

ก่อนอื่นต้องรู้จักภาพรวมของ Consulting Firm ระดับโลกที่โด่งดังเป็นที่รู้จักอย่างดี เช่น Mckinsey, BCG เป็นที่รวมคนเก่งระดับสุดยอด ถือว่าเป็น Tier สูงสุดของ Consulting Firm เน้นงานด้านวางกลยุทธ์ แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงมากเช่นกัน ระดับรองลงมา เช่น Accenture หรือกลุ่ม Big 4 Audit Firm ก็ถือเป็นบริษัทที่ปรึกษาระดับโลกเช่นกัน แต่ค่าใช้จ่ายไม่สูงเท่ากลุ่มแรก

แต่มั่นใจได้ว่า บริษัทในลิสต์ Fortune 500 ทุกบริษัทจ้าง Consulting Firm แน่นอน เช่นเดียวกับบริษัทใน SET 50 ของไทย น่าจะจ้าง Consulting Firm เช่นเดียวกัน โดยอาจจะจ้างเพื่อดูแลบางส่วนหรือทั้งหมดก็ได้ เป้าหมายคือ สร้างการเปลี่ยนแปลง สร้าง Impact และรับมือการแข่งขัน

Consulting Firm ในประเทศไทยก็มีอยู่ไม่น้อย แต่ไม่สามารถแข่งขันกับบริษัทที่ปรึกษาระดับโลกได้ เพราะผลงานยังน้อย และส่วนใหญ่จะทำเฉพาะด้านบางส่วน หรือที่หลายคนรู้จักในนาม SI, Agency แต่ Consulting Firm ที่ทำได้แบบครบวงจร โดยเฉพาะ Transformation Program นี่คือส่วนที่ Bluebik เข้ามาเติมเต็ม

bluebik

Bluebik กับพลังระดับเดียวกับ Global

พชร บอกว่า ที่ผ่านมาไม่มี Consulting Firm ของไทยที่ใช้เวลา 1 ปีสร้างการเติบโตได้ 2-3 เท่าท่ามกลางการแข่งขันที่หนักหน่วงได้ เพราะขาดทั้ง Idea, Speed และ Scale แต่ทั้งหมดมีอยู่ใน Bluebik และทำให้ Bluebik กล้าท้าชนกับ Consulting Firm ระดับโลก

ด้วยประสบการณ์ของทีมผู้ก่อตั้ง Bluebik และทีมงาน ทำให้ Bluebik สามารถทำงานแบบ Tailor Made นั่นคือ คิด วิเคราะห์ วางกลยุทธ์ ให้กับองค์กรลูกค้าแบบพิเศษ ไม่สามารถ Copy ไปใช้กับที่อื่นได้ ลักษณะเดียวกับ Consulting Firm ระดับ Tier 1

แต่ขณะเดียวกัน Bluebik ก็มีความเป็น Startup สามารถทำงานแบบ End to End คือ ลงลุยงานจริง ปฏิบัติงานกับองค์กรลูกค้าอย่างเต็มที่ และอย่างรวดเร็ว และที่สำคัญคือ ค่าใช้จ่ายสมเหตุสมผล ทำให้ ลูกค้า 100% ที่ใช้บริการของ Bluebik แล้ว เลือกใช้ซ้ำอีกเรื่อยๆ หรือตัวอย่างที่เห็นล่าสุด คือ การร่วมทุนกับ OR ตั้งบริษัท Orbit Digital ขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วและพร้อมทำงานทันที

bluebik

แล้วองค์กรแบบไหนที่ต้องการ Consulting Firm

ดังที่กล่าวไปข้างต้นว่า บริษัทใน SET 50 ใช้ Consulting Firm ทุกราย บริษัทในระดับ SET 100 ส่วนใหญ่ใช้บริการ Consulting Firm องค์ประกอบหลัก คือ การเป็นบริษัทใหญ่ การแข่งขันสูง และต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลง เพื่อนำไปสู่การเติบโตหลายเท่า ดังนั้น 4 อุตสาหกรรมที่ต้องใช้ Consulting Firm แน่นอน ได้แก่

Banking กลุ่มการเงินการธนาคาร องค์กรใหญ่ สาขาเยอะ พนักงานจำนวนมาก บริการแต่ละธนาคารก็ไม่แตกต่างกัน มีลักษณะเป็น Commodity การแข่งขันจึงอยู่ที่ ลดต้นทุนด้วยเทคโนโลยี ธนาคารไหนทำก่อนได้เปรียบ เพราะลูกค้าไม่เปลี่ยนธนาคารง่ายๆ ขณะเดียวกัน ธนาคาร ต้องสร้างบริการใหม่ๆ จาก asset สำคัญคือ ฐานลูกค้าที่มีอยู่ เช่น Robinhood ของ SCB ที่ทำได้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาสั้น มาถูกจังหวะ

Insurance ธุรกิจประกัน มีลักษณะใกล้เคียงกับธนาคาร แต่สิ่งที่พิเศษคือ คนไทยยังมีจำนวนคนทำประกันไม่มาก มีโอกาสอีกมาก แต่สินค้ามีลักษณะเป็น Commodity หาความแตกต่างได้ยาก ดังนั้น สิ่งสำคัญคือ ต้องประเมินความเสี่ยงให้ถูกต้อง เช่น TQM ที่พัฒนาสู่ Digtial Insurance Broker รายใหญ่

Telecom เป็นอุตสาหกรรมที่ท้าทาย กับการแข่งขันของ 3 เจ้าใหญ่ในตลาด สินค้าเป็น Commodity อีกแล้ว มีการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงจาก Voice มา Data และกำลังไป IoT ใครเร็ว ใครทำก่อน ได้เปรียบ และยังต้องสร้าง New S Curve ใหม่ๆ ให้กับธุรกิจด้วย

Retail ค้าปลีกกำลังเจอความท้าทายจากโควิดอย่างรุนแรง พฤติกรรมผู้บริโภคกำลังเปลี่ยน คนสั่ง Delivery จนคุ้นเคย คำถามคือต่อจากนี้ค้าปลีกจะเป็นอย่างไร หน้าร้านกับออนไลน์จะทำอย่างไร การทำงาน การบริการลูกค้า การสร้างรายได้ เป็นสิ่งที่ต้องเตรียมพร้อม

bluebik

สรุป

ถ้าองค์กรไหนที่รู้ตัวว่าต้อง “เปลี่ยนแปลง” หรือใช้คำว่า Transform ในยุคที่อะไรๆ ก็ไม่เหมือนเดิม การจ้าง Consulting Firm หรือ บริษัทที่ปรึกษา ที่ทำงานสร้างการเปลี่ยนแปลงทุกวัน เชี่ยวชาญและเข้าใจเรื่องนี้ดี น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

Bluebik มี DNA ของ Global Consulting Firm และ Startup อยู่ในตัว มีพลังระดับ Global แต่มีความเข้าใจใน Local เป็นอย่างดี สามารถ Tailor Made กลยุทธ์ให้องค์กร ทำงานแบบ End to End ด้วย Speed ที่รวดเร็ว และมีค่าใช้จ่ายสมเหตุสมผล หรือเรียกง่ายๆ ว่าถูกกว่าบริษัท Global

ล่าสุด 31 ส.ค. 64 Bluebik แถลงข่าวเตรียม IPO ตลาดหลักทรัพย์ เพื่อระดมทุนขยายธุรกิจ กับเป้าหมายอันใกล้ คือบุกตลาดต่างประเทศแบบเต็มตัว

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา