Bloomberg ประกาศโค่น CNN ด้วยแพลตฟอร์มรายการข่าวรูปแบบใหม่ที่ร่วมกับ Twitter

ธุรกิจสื่อเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย และคนที่ไม่ปรับอะไรย่อมหายไปจากตลาด เมื่อเห็นอย่างนี้ Bloomberg จึงเดิมพันครั้งใหญ่ ด้วยการถ่ายทอดรายการข่าวตลอด 24 ชม. บนแพลตฟอร์ม Twitter หวังโค่นล้มช่องข่าวดั้งเดิม

TicToc = Social Media, Digital และ Streaming

หลังจากมีสำนักข่าวต่างๆ เริ่มใช้ช่องทาง Social Media ในการนำเสนอข่าวสารให้กับผู้บริโภคมากขึ้น แต่ไม่มีใครกล้าที่จะฉีกกรอบเดิมๆ จากแค่รายงาน Breaking News หรือกระแสโลก ในที่สุดอีกสำนักข่าวยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Bloomberg ก็กล้าที่จะทำอะไรใหม่ๆ ผ่านการจัดการรายถ่ายทอดข่าวตลอด 24 ชม. บนโลกโซเชียลเสียที

โดยเหตุการณ์นี้เริ่มขึ้นจากเป้าหมายของ Bloomberg ที่ต้องการตามหาช่องทางสำเสนอใหม่ๆ ที่จะมาแทนที่ หรือทำลายล้างช่องรายการข่าวทางโทรทัศน์เดิมๆ เช่น CNN ได้ ทำให้ทางบริษัทตัดสินใจเข้าไปคุยกับ Twitter อีกยักษ์ Social Media ที่กำลังหาพาร์ทเนอร์เนื้อหาด้าน Video Streaming เพื่อตามกระแสโลกเช่นกัน

Justin Smith ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Bloomberg เล่าให้ฟังว่า Twitter เป็นช่องทางที่สามารถตอบโจทย์เรื่องสื่อดิจิทัล, Social Media และการ Streaming ได้อย่างดี จึงไม่แปลกที่บริษัทตัดสินใจทำช่องทางนำเสนอใหม่ภายใต้ชื่อ TicToc โดยอาศัยทีมงานกว่า 50 คนในในนิวยอร์ค, ลอนดอน และฮ่องกงเพื่อช่วยกันจัดทำ

เน้นเรื่องทั่วไป ไม่เจาะตัวเลขเหมือนอดีต

“TicToc จะเน้นข่าวทั่วไป มากกว่าข่าวหนักๆ เช่นการเงิน หรือหุ้นเหมือนที่เราค่อนข้างเชี่ยวชาญ เพราะมองว่าการนำเสนอข่าวแบบนี้น่าจะเหมาะสมบนโลก Social Media มากกว่า ยิ่งเรามีผู้สื่อข่าวทั่วโลกกว่า 2,700 คน และมีพาร์ทเนอร์เป็น Twitter ที่มีผู้ใช้กว่า 330 ล้านคน/เดือน ทำให้การรายงานข่าวมันน่าจะทำได้หลากหลายกว่าเดิม”

สำหรับ TicToc สามารถรับชมได้บน Twitter ในชื่อ @tictoc แบ่งเป็นรายการ Breaking News ที่จะ Live Streaming ข่าวสารต่างๆ จากทั่วโลกผ่านรูปแบบวีดีโอที่เข้าใจง่าย กับรายการสกู๊ปข่าววีดีโอสั้นที่จะส่งเข้ามาใน Feed ของทางช่องตลอด 24 ชม. และทุกต้นชม. จะมีการ Roundup สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง

ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Twitter หาคนทำวีดีโอ

ส่วนเรื่องการหารายได้ ทาง TicToc มีการคุยกับพาร์ทเนอร์ทั้ง AT&T, CA Technologies, CME Group, Infiniti, SAS และ TD Ameritrade เพื่อขายโฆษณาตั้งแต่ 1.5-3 ล้านดอลลาร์สหรัฐในรูปแบบสปอนเซอร์รายการ คล้ายกับที่มีในช่อง Bloomberg

ทั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Twitter พยายามหาพาร์ทเนอร์ด้านวีดีโอ เพราะก่อนนี้ก็ล้มเหลวในการเจรจากับลีกกีฬายักษ์ใหญ่, BuzzFeed, Cheddar TV รวมถึงรายการวาไรตี้อื่นๆ มาแล้ว แสดงให้เห็นการให้ความสำคัญของช่องทางวีดีโอที่มากขึ้นอย่างชัดเจน

สรุป

หลังจากที่ทดลองรับชมดูพบว่า รูปแบบการจัดวางรายการค่อนข้างคล้ายรายการข่าวทั่วไปที่ดูได้จาก BBC, CNN หรือตัว Bloomberg เอง คือมีข่าวสารในแง่มุมต่างๆ รายงานโดยตลอด แต่ด้วยช่วงแรกตัว Content อาจไม่เยอะมาก ทำให้เกิดการฉายวน หรือเหมือนกับนำวีดีโอสั้นบน Facebook ที่หลายสื่อใช้อยู่ มาฉายวนไปเรื่อยๆ เท่านั้นเอง

อ้างอิง // WSJ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา