คำแนะนำ 5 ข้อ ถ้าอยากมี Work-Life Balance ที่ดี จากอดีตบอสวัย 24 ปี

ใครๆ ก็อยากมี Work-Life Balance ที่ดี และนี่คือคำแนะนำจากอดีตบอสวัย 24 ปีที่ดรอปเรียนและเปิดบริษัทบอร์ดเกมเป็นของตัวเอง

Stacy Tornio นักเขียนจาก Business Insider เธอเป็นคุณแม่ที่ทำงานไปด้วยและเธอก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังประสบปัญหากับการจัดการเวลา แต่ Dave หรืออดีตบอสวัย 24 ปีทำให้เธอได้เรียนรู้การใช้ชีวิตที่นอกเหนือจากการทำงาน

work

Tornio เล่าว่า เธอพยายามหาทางออกที่จะมี Work-Life Balance ที่สมบูรณ์แบบมานาน เธอบอกว่ามันเป็นสิ่งสำคัญเสมอสำหรับ Working mom อย่างเธอ แต่มันยังมีกิจกรรมของลูกและครอบครัวรออยู่ด้วย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทำให้การบริหารเวลาเป็นเรื่องยาก แม้ว่าอยู่ในช่วงที่ไม่มีลูก เธอก็ปล่อยให้งานกินเวลาชีวิตเธอไปทั้งวัน และนี่คือคำแนะนำจาก Dave อดีตบอสของเธอที่เธอคิดว่านี่คือบทเรียนที่ดีที่สุด ที่นำไปใช้ได้ ดังนี้

หนึ่ง คุณจะต้องไม่ใช่คนแรกที่เริ่มทำงานและไม่จำเป็นต้องเป็นคนสุดท้ายที่เลิกงานด้วย

Tornio บอกว่า ด้วยไลฟ์สไตล์ที่ต้องดูแลลูกไปด้วย ทำให้เธอต้องเริ่มงานแต่เช้า งานบางอย่างไม่จำเป็นต้องทำในช่วงเช้าขนาดนั้น โดยเฉพาะพฤติกรรมที่เกิดในช่วงที่ต้องทำงานแบบ Remote work หรือทำงานระยะไกล ไม่ว่าจะ Work from home หรือจากที่ใดก็ตาม พฤติกรรมที่ว่าก็เช่น การคอยตรวจสอบการพูดคุยในแชทกลุ่มก่อนที่เธอจะเริ่มดื่มกาแฟหรืออาบน้ำก่อนจะเริ่มงานด้วยซ้ำ

เธอได้เรียนรู้จาก Dave ว่า ควรจะใช้เวลากับตัวเองในช่วงเช้า ก่อนที่จะหมดเวลาทังวันไปกับความวุ่นวายจากการทำงาน แทนที่จะต้องใช้เวลาในการคอยส่องแชทกลุ่ม เธอก็หันมาใช้เวลาเพื่อพัฒนาตัวเอง เช่น การอ่านหนังสือ การออกกำลังกาย และทำธุระของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะเริ่มต้นทำงาน นอกจากนี้ ช่วงหลังเลิกงานเธอก็เรียนรู้ว่าควรจะหยุดบทสนทนาต่างๆ ในช่วงหลังเลิกงาน นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอรู้จักบริหารเวลาเพื่อตัวเองมากกว่าจะหมดเวลาไปกับงานทั้งวันแบบในอดีต

สอง คุณไม่จำเป็นต้องจับเวลาทำงานเพื่อให้ครบ 8 ชั่วโมงต่อวันเสมอไป

Tornio พบว่าการทำงานระยะไกลทำให้เรารู้สึกลำบากใจมากขึ้น เราจึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าช่วงเวลางานเธอก็ยังทุ่มเททำงานอยู่ ซึ่งแน่นอนว่ามันจะต้องมีการหยุดพักขณะทำงานอยู่บ้าง และเธอก็รู้ว่าตัวเองก็ทำงานวันละ 10 หรือ 11 ชั่วโมงต่อวันด้วยซ้ำเพราะว่ามีโปรเจกต์หรือเดดไลน์ที่ทำให้งานต้องยืดเวลาออกไปเช่นนั้น แต่เธอก็เรียนรู้ที่จะยืดหยุ่นขึ้นได้ เมื่อต้องมีกิจกรรมของลูกเธอ ที่ทำให้เธอต้องไปส่งลูกหรือไปร่วมกิจกรรมด้วย การทำงานของเธอก็จะลดระยะเวลาลงเป็น 7 ชั่วโมง

สาม การให้เวลาตัวเองเพื่อทำงานอดิเรกหรือทำเรื่องที่น่าสนใจส่วนตัว เป็นเรื่องสำคัญ

Tornio เล่าว่า Dave ทำให้เธอเห็นความสำคัญเรื่องนี้ เขาให้ความสำคัญกับชีวิตนอกเหนือเวลางานด้วย เขาจะเลิกงานตรงเวลาเสมอ เพื่อจะใช้ชีวิตหลังเลิกงานอย่างมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นการตกปลา การทำสวน หรือการทำไวน์ก็ตาม เมื่อเห็นตัวอย่างเช่นนี้ เธอก็เรียนรู้ที่จะเลิกทำงานเกินเวลาในยามค่ำคืน และหันไปทำงานอดิเรกที่ตัวเองมีความสนใจส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือหรือการเขียนหนังสือก็ตาม

สี่ เมื่อคุณลาพักร้อน คุณก็ควรจะทำให้ตัวให้โลกรู้ว่าคุณกำลังลาพักร้อนอยู่จริงๆ 

Dave สอนเธอให้รู้จักพัก เมื่อต้องพักจริงๆ ก่อนหน้านี้ เมื่อเธอลาพักร้อน เธอก็พร้อมจะตอบข้อความทันที แม้ว่าช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่เธอลาพักผ่อนอยู่ก็ตาม Dave บอกว่าเธอต้องเรียนรู้วิธี Unplug หรือเว้นระยะ หันหลังให้กับการทำงานไปเลย เพราะเธอกำลังลาพักผ่อนอยู่ เขาบอกว่า ถ้ามันเป็นเรื่องจำเป็นมากจริงๆ เขาจะหาทางติดต่อเธอให้ได้เอง จากนั้นเธอก็เอา Slack ที่เป็นแอพพลิเคชันสำหรับพูดคุยในการทำงานออกจากโทรศัพท์ของตัวเอง และไม่เคยมีใครตั้งคำถามด้วยว่าทำไมเธอไม่ออนไลน์ .. ก็เธอลาพักร้อนแล้วนั่นเอง

ห้า เรียนรู้ที่จะให้เวลาตัวเองบ้าง แม้อยู่ในช่วงทำงานก็ตาม

Dave อดีตบอสสอนให้เธอเรียนรู้ว่าเธอสามารถพักระหว่างวันได้ แม้ว่าจะเป็นวันทำงานก็ตาม หลังจากที่เธอเหน็ดเหนื่อยกับการพยายามพิสูจน์ตัวเองอยู่นานว่าเธอกำลังทำงานอยู่ และออกไปทานอาหารกลางวันกับเพื่อนน้อยมาก เพื่อไม่ให้รู้สึกว่าเธอใช้เวลาพักกลางวันนานเกินไป แต่ Dave สนับสนุนให้เธอออกไปพักผ่อนระหว่างวันด้วยกิจกรรมที่เธอชอบ เช่น โยคะ หรือทำอะไรก็ตามที่เธอสนใจ

การออกไปข้างนอก ออกไปใช้เวลาอยู่กับตัวเองของเธอ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่องานที่เธอทำ แถมยังทำให้เธอทำงานได้ดีขึ้น และในที่สุดเธอก็ได้เรียนรู้ตัวเองว่า ตัวเธอเองนั่นแหละที่เป็นศัตรูในการทำงานของตัวเองจนทำให้ตัวเองเหนื่อยมากเกินไป เพราะยืดเวลาในการทำงานยาวนานเกินไปนั่นเอง

ที่มา – Business Insider

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
สนใจความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การทูต การเมือง ประชาธิปไตย เสรีภาพ ความยุติธรรมและความเท่าเทียม ชอบอ่าน ชอบเขียน ชอบสืบค้นข้อมูล ชอบทำคอนเทนต์