Beautrium ร้านสินค้าความงาม Multi-brand กางแผนลงทุน 2,000 ล้านบาท เร่งขยายสาขาครบทุกจังหวัดภายในปี 2027 และมีรายได้ 5,000 ล้านบาท ในปีเดียวกัน หลังปี 2023 คาดรายได้เติบโตกว่า 112% ทะลุ 2,000 ล้านบาท พร้อมวางแผนบุกต่างประเทศ ชี้ตลาดนี้แข่งกันดุ แต่ลูกค้าเริ่มเลือกเข้าร้าน Multi-brand มากขึ้น
Beautrium กับการทุ่ม 2,000 ล้านบาท
จิรวุฒิ โรจน์รัตนวลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวเทรี่ยม จำกัด เล่าให้ฟังว่า หลังจากนี้จนถึงปี 2027 บริษัทมีแผนลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาในพื้นที่ต่าง ๆ ที่ยังเข้าไม่ถึง เช่น กลุ่มภาคเหนือ เพื่อให้มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศไทย ผ่านจำนวนสาขาทั้งหมดเกิน 100 แห่ง
“เราอยากเป็นร้านสินค้าความงาม Multi-brand ที่สะดวก จับต้องง่าย และมีความหลากหลายของสินค้า ดังนั้นการเร่งขยายสาขาออกไปจากสิ้นปี 2023 ที่มี 37 สาขา เป็นเกิน 100 สาขา ในปี 2027 ซึ่งปี 2024 จะมีอย่างน้อย 10 สาขาที่จะเปิดเพิ่ม ขนาดตั้งแต่ 200-300 ตร.ม. จนไปถึง 700 ตร.ม.”
นอกจากการขยายสาขา Beautrium ได้วางแผนทำตลาดช่องทางออนไลน์ควบคู่ไปด้วย โดยปัจจุบันบริษัทมีคลังสินค้าอยู่ที่ จ. สมุทรปราการ และมีแผนขยายคลังสินค้าเพื่อรองรับการเติบโต ผ่านการจำหน่ายสินค้าแบรนด์เอกซ์คลูซีพ 10 แบรนด์ เช่น Buddha Beauty Skincare และสินค้าแบรนด์อื่น ๆ ที่จำหน่ายในร้านคู่แข่ง
อัดงบอีก 20 ล้านบาท กระตุ้นการรับรู้
ขณะเดียวกัน Beautrium ยังลงทุนอีกราว 20 ล้านบาท เพื่อจัดกิจกรรมทางการตลาดโดยเน้นการรับรู้ของแบรนด์ เนื่องจาก Beautrium มีอายุแบรนด์ครบ 12 ปี โดยรายละเอียดของการทำตลาดประกอบด้วย การนำสินค้ามาลดราคาพิเศษ, การจ้างอินฟลูเอนเซอร์มาช่วยสื่อสารแบรนด์ และการปิดถนนในสยามสแควร์เพื่อจัดงานกิจกรรม
“หลังจากนี้เรามีแผนเพิ่มงบการตลาดเท่าตัว และพยายามสื่อสารไปยังช่องทางต่าง ๆ มากขึ้น เพราะก่อนหน้านี้เราลงทุนในเรื่องการสร้างแคมเปญออนไลน์ และออฟไลน์ตลอดทั้งปี เพื่อพัฒนาตัวเองจากร้านสินค้าความงาม Multi-brand สู่ Beauty Community ที่ทุกคนเข้าถึงได้จริง”
เพิ่มเติมจากแบรนด์เอกซ์คลูซีฟ Beautrium มีแผนทำตลาดสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพ (Wellness) และสินค้าพรีเมียมมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่มีราคาสูง รองรับความต้องการด้านคุณภาพ และความเป็นสินค้าจากธรรมชาติที่ถือเป็นหนึ่งในความต้องการใหม่ของผู้บริโภค
ปิดปี 2023 รายได้โต 112% ทะลุ 2,000 ล้านบาท
สำหรับปี 2023 Beautrium คาดการณ์รายได้รวมเกินกว่า 2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 112% จากปี 2022 ถือเป็นอีกปีที่เติบโตเท่าตัว หลังช่วงโรคโควิด-19 ระบาดทำให้ไม่สามารถเติบโตเท่าตัวได้ โดยการเติบโตมาจากการขยายช่องทางการขาย, สินค้าที่หลากหลาย และโปรโมชันที่ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าความงามได้ง่ายขึ้น
“ตอนนี้เราแข่งตรง ๆ กับ 2-3 เจ้าที่เป็นร้านสินค้าความงาม Multi-brand เหมือนเรา และในต่างจังหวัดที่เป็นร้านท้องถิ่นด้วย แต่ถ้าวัดกันตามจำนวนสาขา Beautrium ถือเป็นร้านที่มีสาขามากที่สุด และจากความแข็งแกร่ง และการลงทุน ทำให้ปี 2027 เราตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่เกินกว่า 5,000 ล้านบาท”
- เซ็นทรัล รีเทลบุกตลาดความงาม ปั้น KIS BEAUTY STORE ท้าชน SEPHORA
- มัลติแบรนด์สโตร์เดือด! HEJ Street Beauty น้องใหม่ ขอท้าชน Eveandboy
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คู่แข่งของ Beautrium โดยตรงคือ Eve and Boy ร้านที่เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกตลาดนี้ ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 18 แห่งทั่วประเทศ และ KIS ร้านสินค้าความงาม Multi-brand ของกลุ่มเซ็นทรัลที่ปัจจุบันมีมากกว่า 15 แห่งทั่วไทย ไม่รวมกับ Boots, Watson และร้านสินค้าความงามอื่น ๆ ที่จำหน่ายยา และเวชภัณฑ์
พร้อมเข้าตลาด แต่ยังอยู่ระหว่างศึกษา
จิรวุฒิ ย้ำว่า Beautrium มีความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แต่ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างศึกษา และหาช่วงจังหวะที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างศึกษาการบุกตลาดต่างประเทศโดยเริ่มที่ประเทศใกล้เคียงก่อน เช่น เวียดนาม เนื่องจากมีไลฟ์สไตล์ใกล้เคียงกับไทย โดยการจะไปทำตลาดศึกษาทั้งการลงทุนเอง และตั้งแฟรนไชส์
ด้านภาพรวมอุตสาหกรรมความงามในประเทศไทย Beautrium มองว่ามีมูลค่าราว 10,000 ล้านบาท เติบโตราว 10% โดยเฉลี่ย และทิศทางของผู้บริโภคจะเข้ามาจับจ่ายในร้านสินค้าความงาม Multi-brand มากขึ้น เช่นเดียวกับในระดับเอเชียที่ร้านของแบรนด์ต่าง ๆ เริ่มทยอยปิดสาขา ที่นำสินค้ามาจำหน่ายในร้าน Multi-brand มากกว่า
ส่วนสถานการท่องเที่ยวในประเทศไทยที่อาจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ จิรวุฒิ เสริมว่า Beautrium มีสาขาไม่ถึง 5% ของทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่ท่องเที่ยว ประกอบกับลูกค้าหลักของร้านยังเป็นคนไทย จึงไม่ได้รับผลกระทบของการชะลอตัวของการท่องเที่ยวมากนัก
อ้างอิง // Beautrium
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา