ลูกบ้าน Ashton Asoke วอน บมจ.อนันดาฯ หน่วยงานรัฐ ให้ความชัดเจนเรื่องมาตรการช่วยเหลือ

กรณีคอนโดมิเนียม Ashton Asoke ถูกเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างไม่จบง่าย ๆ ล่าสุดลูกบ้านของโครงการรวมตัวเรียกร้อง บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ และหน่วยงานรัฐ ให้ความชัดเจนเรื่องมาตรการช่วยเหลือหลังจากนี้

ashton asoke

ลูกบ้าน Ashton Asoke รวมตัวเรียกร้อง

รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (10 ส.ค. 2564) ตัวแทนลูกบ้านคอนโดมิเนียมโครงการ Ashton Asoke ถ่ายทอดสดบนเฟสบุ๊ก ลูกบ้านแอชตันอโศกที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งศาลปกครองกลาง โดยมีตัวแทนลูกบ้านสองคนชี้แจงปัญหา และความต้องการของลูกบ้านหลังคอนโดมิเนียมนี้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้าง

สำหรับปัญหาที่ตัวแทนลูกบ้าน Ashton Asoke ชี้แจงประกอบด้วย ลูกบ้านคอนโดมิเนียมแห่งนี้ได้รับผลกระทบทางจิตใจ, การอยู่อาศัย และสถานะการเงินในอนาคต เพราะช่วงนี้ลูกบ้านหลายคนถึงช่วงเวลา Refinance แต่ถูกสถาบันการเงินปฏิเสธด้วยเหตุผลเรื่องการถูกเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้าง

นอกจากนี้ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย ทำให้ลูกบ้านหลายคนต้องการขายคอนโดมิเนียมแห่งนี้ แต่สุดท้ายแล้วไม่มีผู้ใดต้องการทำนิติกรรมด้วย เพราะเหมือนเป็นคอนโดมิเนียมเถื่อน ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ลูกบ้านกังวลว่าหากคอนโดมิเนียมแห่งนี้ถูกทุบ ลูกบ้านต้องผ่อนฟรีไป 30 ปี หรือไม่

“เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในไทย เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกบ้านชาวต่างชาติที่เสียความเชื่อมั่นในการซื้อคอนโดมิเนียมในไทยไปแล้ว พวกเราก็ไม่รู้ว่า อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย ตั้งสำรองหนี้เกี่ยวกับเรื่องนี้ หรือรัฐจะช่วยเหลืออย่างไร” ตัวแทนลูกบ้าน Ashton Asoke กล่าว

ทั้งนี้ กลุ่มลูกบ้าน Ashton Asoke เตรียมจ้างที่ปรึกษาทางกฎหมายเพื่อช่วยเหลือลูกบ้านกว่า 1,000 ชีวิต โดยใช้เงินส่วนกลางของคอนโดมิเนียมเป็นทุน และต้องการความชัดเจนเรื่องการสร้างความเชื่อมั่นในการอยู่อาศัย, การ Refinance และการดำเนินคดีหลังจากนี้

สุดท้าย กลุ่มลูกบ้าน Ashton Asoke ยืนยันว่า ยอมรับผลการตัดสินใจสุดท้าย เช่นการทุบคอนโดมิเนียมนี้ทิ้งเป็นต้น ซึ่งปัจจุบัน บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ อยู่ระหว่างเดินเรื่องทางกฎหมาย และมีการเจรจากับสถาบันการเงินในการให้ดอกเบี้ยอัตราพิเศษหากลูกบ้านทำการ Retention

อ้างอิง // เฟสบุ๊ก ลูกบ้านแอชตันอโศกที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งศาลปกครองกลาง

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา