เปิดดูผลประกอบการปี 2017 แล้ว ต้องยอมรับว่ารายได้ของ Apple ยังสูงจริง ติดอันดับต้นๆ ของ Fortune 500 บริษัทที่มีรายได้สูง แต่เมื่อดูโผ Future 50 บริษัทที่มีอนาคต Apple กลับไม่อยู่ในลิสต์
แค่รายได้รวมธุรกิจ iPhone ของ Apple ก็แซง Amazon แล้ว
Apple เพิ่งประกาศผลประกอบการไตรมาส 4 ว่ามีรายได้รวม 5.25 หมื่นล้านเหรียญ และเมื่อไปดูการจัดอันดับ Apple ก็ติดอันดับ 3 ใน Fortune 500 ที่เป็นการสำรวจบริษัทที่มีรายได้สูงสุดของสหรัฐอเมริกา
แต่ถ้าดูรายได้รวมของทั้งปีงบประมาณ 2017 แล้วดูเพียงแค่หมวดธุรกิจ iPhone เท่านั้น พบว่า มีรายได้รวมสูงถึง 1.41 แสนล้านเหรียญ สูงกว่ารายได้รวมของ Amazon ทั้งหมดที่อยู่ที่ 1.35 แสนล้านเหรียญ
พูดง่ายๆ คือ จากการจัดอันดับของ Fortune 500 บริษัท Apple อยู่อันดับ 3 ส่วนบริษัท Amazon อยู่อันดับที่ 12
อาจไม่ใช่เรื่องน่าตกใจเพราะ Apple ทำรายได้จากหลายแหล่ง หนึ่งในนั้นคือ ธุรกิจให้บริการ (Apple’s Services business) ในหมวดนี้นับรวมแอพพลิเคชั่น, เกม, AppleCare และยังมีบริการสมาชิกอย่างเช่น iCloud และ Apple Music ทั้งหมดนี้ทำรายได้สูงถึง 2.99 หมื่นล้านในปีงบประมาณ 2017 เทียบดูรายได้ในหมวดนี้แล้วจะพอๆ กับบริษัทด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมอย่าง 3M Science ที่มีรายได้ประมาณ 3 หมื่นล้าน หรือบริษัทด้านสื่ออย่าง Time Warner ที่มีรายได้ 2.93 หมื่นล้าน
Apple รายได้ยังสูง แต่ไม่ติดโผบริษัทที่จะอยู่รอดในอนาคต : Future 50
ถ้าดูเฉพาะรายได้ ก็แน่นอนว่า Apple ติดอันดับ Fortune 500 ที่จัดอันดับในหมวดบริษัทที่มีรายได้สูง แต่ถ้าไปดูการจัดอันดับ Future 50 ที่เป็นการจัดอันดับบริษัทที่มีศักยภาพจะอยู่รอดในอนาคต Apple ไม่มีชื่อติดอยู่ในโผ 50 อันดับเลย ในขณะที่ยักษ์ใหญ่ไอทีใกล้กันๆ ติดอันดับเกือบหมด เช่น Amazon, Tesla และ Netflix
แม้รายได้จะยังสูงอยู่ แต่ในอนาคตอันใกล้ก็น่าคิดว่า Apple จะทำอะไรต่อ เพราะเงินสดที่มีอยู่ในมือของ Apple ตอนนี้ก็มีมากถึง 2.69 แสนล้านเหรียญ เพราะแผนที่จะดำเนินธุรกิจที่สะท้อนให้เห็นอนาคตนั้นยังไม่ชัด แต่ก็ดูเหมือนว่า Apple น่าจะสร้างรถยนต์ไร้คนขับออกมาเล่นในตลาด
การปรับตัวสำคัญแน่ เพราะอีกเรื่องหนึ่งคือ ความเป็นแบรนด์ไอทีขวัญใจของแบรนด์ Apple ในสหรัฐอเมริกาช่วงหลังมานี้ก็เสื่อมความนิยมลงไปมาก
อ้างอิง – QUARTZ 1, QUARTZ 2, Apple
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา