อมตะกรุ๊ป พร้อมแล้ว ปีหน้าตั้งนิคมใหม่ในเวียดนามเหนือ-เมียนมาร์ เล็งลาวเพิ่มอีกราย

เมื่อเทียบกันแล้วค่าแรงเพื่อนบ้านถูกกว่าไทย 3 เท่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจก็ดีกว่า แถมไทยยังเผชิญกับสังคมผู้สูงอายุอีก อมตะกรุ๊ปจึงพร้อมเดินหน้าเต็มสูบตั้งนิคมอุตสาหกรรมในประเทศเพื่อนบ้าน เริ่มปีหน้า

เป็นแผนธุรกิจของ อมตะกรุ๊ป ที่ได้วางเอาไว้สักพักแล้ว สำหรับการจะเข้าลงทุนเป็นนิคมอุตสาหกรรมในเวียดนามเหนือและเมียนมาร์ โดยขณะนี้พร้อมแล้ว ในปีหน้า 2018 จะเข้าไปเริ่มต้นก่อสร้าง

ไปเวียดนามเหนือเพื่อเชื่อมจีน | ไปเมียนมาร์เพื่อเสริมเขี้ยวเล็บ | เล็งลาว

ในต้นปีหน้า อมตะกรุ๊ป จะเข้าไปทำการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมขนาดประมาณ 58 ตารางกิโลเมตร ในฮาลอง ภาคเหนือของเวียดนามเพื่อเชื่อมต่อกับจีน เพราะห่างจากชายแดนจีนเพียง 180 กิโลเมตรเท่านั้น โดยนิคมแห่งนี้วางแผนไว้ว่าจะเน้นไปที่โรงงานของบริษัทญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เพื่อหวังขายผลิตภัณฑ์ให้กับจีนโดยตรง

ในเมียนมาร์ โซนภาคเหนือของย่างกุ้ง อมตะกรุ๊ปได้ไปทำดีลเช่าพื้นที่ 50 ตารางกิโลเมตร โดยที่นี่จะมีขนาดใหญ่กว่าที่ตั้งในเขตเศรษฐกิจติละวาถึง 10 เท่า ด้วยขนาดอันมหึมาของนิคมแห่งนี้ จะเน้นไปที่การลงทุนพัฒนาพื้นฐานโครงสร้างเพื่อผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ให้ทัดเทียมพร้อมต่อการแข่งขัน

นอกจากนั้น อมตะกรุ๊ปก็เล็งดูลาวไว้ด้วย เพราะเห็นอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วในเมืองหลวง แต่ยังไม่มีนิคมอุตสาหกรรมไปลงมากนัก ทำให้เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่น่าสนใจ

เทียบค่าแรงกับไทยแล้วถูกกว่า ต่างกับเกือบ 3 เท่า

  • ค่าแรงของโรงงานญี่ปุ่นในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนครที่ไทย เฉลี่ยแล้วตกเดือนละ 11,185 บาท
  • ในเวียดนามเฉลี่ยอยู่ที่ 4,633 บาท
  • ในเมียนมาร์อยู่ที่ 4,103 บาท

การเติบโตเศรษฐกิจของเพื่อนบ้านขยายตัวดีกว่าไทย

  • ข้อมูลจาก Japan External Trade Organization เปิดเผยว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยอยู่ที่ประมาณ 3% ส่วนเพื่อนบ้านอีก 4 ประเทศคือ เวียดนาม เมียนมาร์ ลาว และกัมพูชาเติบโตที่อัตรา 6 – 7%
  • ส่วนอีกหนึ่งปัจจัยคือ สังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ การไปวางฐานในต่างประเทศของบริษัทจึงสำคัญและจำเป็น เพราะรู้ได้ว่าถ้าอยู่ในบ้านเฉยๆ คงไม่มีทางที่จะเติบโตในอนาคตอย่างแน่นอน

สรุป

แม้ว่า อมตะกรุ๊ป จะวางแผนไว้ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งธุรกิจแล้วว่าจะต้องทำธุรกิจที่ขยายออกไปนอกประเทศไทยอย่างแน่นอน แต่ด้วยบริบททางสังคมและเศรษฐกิจในปัจจุบัน (และอนาคต) ก็ค่อนข้างชัดเจนว่า ไทยไม่ใช่อนาคตของกลุ่มอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะมองจากแง่มุมด้านค่าจ้างแรงงาน อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือการก้าวไปเป็นสังคมสูงอายุของไทย ทำให้เป็นไปได้อย่างมากว่า อนาคตและกำไรของอมตะกรุ๊ปในอนาคตน่าจะอยู่นอกประเทศไทย

ที่มา – Nikkei Asian Review

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา