ถอดรหัส CEO ของ AirAsia เน้นลงทุนเทคโนโลยีมากขึ้น ไม่ซื้อสายการบิน Malaysia Airlines แน่นอน

รวมแง่มุมความคิดของ CEO ของ AirAsia ในด้านอุตสาหกรรมการบิน รวมไปถึงแง่มุมในการบริหารคนซึ่งสายการบินแห่งนี้เป็นหนึ่งในบริษัทที่คนอยากทำงานมากแห่งหนึ่งของมาเลเซีย

“โทนี่ เฟอร์นานเดส” นายใหญ่ของสายการบินราคาประหยัด “แอร์เอเชีย” – ภาพจาก Shutterstock

Tony Fernandes ซึ่งเป็น CEO ของสายการบินราคาประหยัดอย่าง AirAsia ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อทั้งต่างประเทศและสื่อในประเทศมาเลเซียเกี่ยวกับมุมมองของเขาที่มองเรื่องของอุตสาหกรรมการบิน เตรียมเปิดฐานบินใหม่ๆ และรวมไปถึงการลงทุนในเทคโนโลยีซึ่งเขาเองได้กล่าวว่าเป็นก้าวสำคัญของ AirAsia เป็นอย่างมาก

Brand Inside รวมแง่ความคิดและแผนของเขาในช่วงนี้มาฝาก

ไม่ซื้อ Malaysia Airlines แน่นอน เชื่อว่ากลับมามีกำไรได้

นายใหญ่ของ AirAsia ได้ให้สัมภาษณ์กับ Nikkei Asian Review เรื่องของสายการบินแห่งชาติของมาเลเซีย อย่าง Malaysia Airlines ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงการพิจารณาของรัฐบาลมาเลเซียว่าจะดำเนินการสายการบินต่อไป หาผู้สนใจมาร่วมลงทุน ขายกิจการ หรือแม้แต่ยกเลิกกิจการ โดยเขาได้ตอบว่า “AirAsia ซึ่งเป็นสายการบินราคาประหยัดแล้วซื้อสายการบินที่ให้บริการเต็มรูปแบบอย่าง Malaysia Airlines อาจเป็นความผิดพลาด”

เขายังได้เสริมถึงเรื่องนี้โดยให้สัมภาษณ์กับ The Edge Markets สื่อธุรกิจในประเทศมาเลเซียว่า “ใน Malaysia Airlines มีคนเก่งๆ ในองค์กรมากมาย แบรนด์ของสายการบินก็ถือว่าดี” ซึ่งเขาเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วสายการบินแห่งชาติมาเลเซียรายนี้จะสามารถกลับมามีกำไรได้อีกครั้ง นอกจากนี้เขายังได้กล่าวว่า “การที่ปิดสายการบินไปเลยอาจไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่นัก”

ในช่วงที่ผ่านมายังมีข่าวลือที่ว่ารัฐบาลมาเลเซียเคยยื่นข้อเสนอกับเขาที่จะแลกหุ้นของ AirAsia กับหุ้นของ Malaysia Airlines ในการควบรวมกิจการอีกครั้ง หลังจากที่เคยเสนอแนวทางนี้ในช่วงปี 2010

นายใหญ่ของแอร์เอเชียเชื่อว่า Malaysia Airlines จะกลับมามีกำไรได้ – ภาพจาก Shutterstock

มุ่งหน้าสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบ

สิ่งที่ CEO ของ AirAsia กำลังโฟกัสอยู่ตอนนี้คือเรื่องของการลงทุนในเทคโนโลยี เขามองว่าการลงทุนครั้งนี้จะทำให้ AirAsia เติบโตก้าวกระโดดอีกครั้ง โดยตอนนี้ AirAsia ได้ปล่อยแพลตฟอร์มการจ่ายเงินอย่าง BigPay ซึ่งมีอายุครบ 1 ปีถ้วนพอดี และเป็นแพลตฟอร์มที่ชาวมาเลเซียใช้ 1 ใน 5 แพลตฟอร์มการจ่ายเงิน นอกจากนี้เขาเองยังตั้งเป้าที่จะขยายธุรกิจส่วนนี้ไปทั่วเอเชียรวมไปถึงประเทศไทยด้วย

เขาเองได้กล่าวในงาน Money20/20 Asia เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาที่ประเทศสิงคโปร์ว่า เขาตั้งเป้าที่จะเป็น Super Application ทางการเงิน โดยเขาได้ถามผู้เข้าร่วมงานว่า “มีใครต้องการที่จะลง Application ในโทรศัพท์มือถือหลายร้อย Application บ้าง” โดย Super Application ของแอร์เอเชียที่กำลังพัฒนานั้นจะคล้ายๆ กับแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่กำลังทำไม่ว่าจะเป็น Grab หรือแม้แต่ Go-Jek ที่กำลังแข่งขันในด้านนี้ด้วย

เขายังได้เปิดเผยอีกว่า 90% ของคนที่ใช้ BigPay นั้นไม่ได้เอามาจ่ายค่าโดยสารเครื่องบิน นอกจากนี้เขาเองยังตั้งเป้าที่จะทำให้คนที่ไม่เข้าถึงทางการเงินสามารถใช้บริการของ BigPay ได้

ภาพจาก Pixabay

เตรียมดันมาเก๊าเตรียมเป็นฮับการบินของจีน

CEO ของ AirAsia มีแผนเตรียมใช้สนามบินมาเก๊าในการเป็นฮับการบินอีกแห่งในการบินในประเทศจีน โดยเขามองว่ามาเก๊าก็เป็นเหมือนเมืองใหญ่ๆ ในแผ่นดินจีน และมาเก๊ายังเป็นส่วนหนึ่งในแผนการพัฒนา Greater Bay Area ของประธานาธิบดีของจีนอีกด้วย ไม่เพียงแค่มาเก๊าแค่นั้น AirAsia ยังมีไฟลท์บินไปยังสนามบินอื่นๆ ในละแวกนี้ เช่น ฮ่องกง เซิ่นเจิ้น หรือแม้แต่กวางโจว

เขาเองได้กล่าวเสริมถึงเรื่องนี้ว่า แอร์เอเชียกำลังขอใบอนุญาตเพื่อที่จะบินเข้าประเทศจีนโดยใช้มาเก๊าเป็นฮับ ก่อนหน้านี้ AirAsia เคยมีแผนที่จะร่วมกับกลุ่มทุนในประเทศจีนเพื่อเปิดสายการบิน แต่ดีลดังกล่าวก็ได้ล่มไปเสียก่อน โดยเขามองว่าถ้าหากโอกาสยังไม่มีในเรื่องนี้เขาก็รอได้ และไม่รีบร้อนในการเข้าไปทำตลาดในจีนด้วย

นอกจากนี้เขายังได้พูดถึงมาเก๊าว่า “สนามบินมาเก๊าเชื่อมั่นในตัวผม ในวันที่ผมยังไม่มีอะไร” (ในช่วงก่อตั้งสายการบิน) ปัจจุบันตารางการบินของ AirAsia ในสนามบินมาเก๊านั้นเป็นอันดับ 2 รองจาก Air Macau โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 15% ของตารางการบินทั้งหมด

ภาพจาก Shutterstock

เตรียมเปิดตัว Red Cargo

สิ่งหนึ่งที่ Tony Fernandes เตรียมตัวที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้คือโปรเจค Red Cargo Logistics โดยลูกค้าสามารถติดต่อสายการบินเพื่อที่จะขนส่งสินค้าได้โดยตรง นอกจากนี้แผนการของเขาคือจะรวมขั้นตอนของการทำงานของแผนก Cargo ให้รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน บริการนี้จะเริ่มต้นในมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สำหรับไทยแอร์เอเชียจะอยู่ในแผนนี้ในช่วงไตรมาส 2

เขานั้นมองว่าเรื่องของ Cargo ไม่ได้ใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์เท่าไหร่นัก โดยมีพื้นที่ว่างๆ ในแต่ละเที่ยวสูงถึง 26%  ซึ่งเขามองว่าส่วนนี้จะเป็นรายได้ใหม่ๆ ของสายการบิน นอกจากนี้เขาเองก็ได้เตรียมหาพาร์ตเนอร์มาร่วมทำธุรกิจนี้ด้วย

ในอดีตนั้นลูกค้าจะต้องติดต่อคนกลางถึง 2-3 รอบกว่าจะได้ส่งของผ่านเครื่องบิน และใช้เวลานานถึง 138 ชั่วโมง ถึงจะส่งของได้ แต่ Red Cargo จะทำให้ลูกค้าเสียเวลาเพียงแค่ 12 ชั่วโมงก็สามารถส่งของผ่านแอร์เอเชียได้แล้วไม่เพียงแค่นั้น เขายังมองว่า Red Cargo จะช่วยให้การค้าขายในเรื่องของ E-commerce นั้นสะดวกมากขึ้นยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย

เขาได้คาดว่า Red Cargo จะทำให้ AirAsia มีรายได้มากถึง 3,000 ล้านบาทในงบปี 2019 โดยเพิ่มเป็นสองเท่าจากรายได้ส่วนนี้ในปี 2018 ที่ผ่านมา

เรื่องของการบริหารคน

เรื่องที่น่าสนใจอีกเรื่องคือการบริหารคนของสายการบินราคาประหยัดแห่งนี้บริหารคนยังไง โดยเริ่มต้นของสายการบินนั้นมีพนักงานเพียงแค่ 200 คนเท่านั้น ขณะที่ปัจจุบันมีพนักงานของ AirAsia มากถึง 20,000 คน นอกจากนี้ยังเป็นสายการบินที่บริหารไม่เหมือนสายการบินใดๆ และไม่มีสหภาพแรงงานด้วย!

เขาได้กล่าวว่าในการบริหารพนักงานนั้นคือ “ต้องมีความโปร่งใส และทำให้พนักงานสามารถสื่อสารกับใคร เวลาไหนก็ได้” นอกจากนี้เขายังได้เสริมอีกว่า “พนักงานทุกคนสามารถคุยกับผมได้” และสายการบินแห่งนี้ยังมีความหลากหลายในกลุ่มผู้บริหารที่สูงมากด้วย เช่น มีผู้บริหารที่ออกจากโรงเรียนตั้งแต่อายุ 13 ปี

เขาได้ทิ้งท้ายว่าที่สุดแล้วเขาเชื่อว่าพนักงานทุกคนสามารถที่จะทำได้ตามเป้าหมายที่เขาต้องการพิสูจน์ตัวเองในสายการบินแห่งนี้ ซึ่ง AirAsia เป็นสายการบินที่คนอยากสมัครงานมากที่สุดองค์กรหนึ่งในมาเลเซีย เนื่องจากวัฒนธรรมขององค์กรที่ส่งต่อออกไปยังสังคม

ที่มาSCMP, Business Insider, Channel News Asia, The Edge Markets, Nikkei Asian Review

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
Content Writer ที่สนใจในเรื่องของตลาดทุนทั้งในและต่างประเทศ กลุ่ม TMT (Technology, Media, Telecom) การควบรวมกิจการ (M&A) นโยบายทางเศรษฐกิจของไทยและต่างประเทศ รวมถึงสิ่งละอันพันละน้อยทางธุรกิจที่น่าสนใจ