หลังไวรัสระบาดหนัก ญี่ปุ่นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมหาศาล นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ล้วนชอบไป ล่าสุดต้องลดราคาอย่างหนัก เพื่อที่อย่างน้อยก็จะได้มีรายได้เข้ามือบ้าง ล่าสุดเมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate) ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น และเคยเป็นเมืองยอดฮิตที่ใครๆ ก็อยากมา รวมทั้งซัปโปโรด้วย
ทั้งสองเมืองนี้อยู่ในฮอกไกโด เริ่มลดราคาเพื่อให้คนเข้าพักแล้ว แม้แต่ป้อมปาการโกเรียวคาคุ (Goryokaku Tower) ที่คนชอบไปชมวิว คนก็เริ่มไปน้อยลง ราคาห้องจากที่เคยขายให้คนเข้าพักได้ในราคา 100 กว่าเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,000 กว่าบาท ตอนนี้ดัมป์ราคาลงมามาก เหลือเพียง 20 ถึง 30 เหรียญสหรัฐเท่านั้น หรือประมาณ 600-900 กว่าบาทต่อคืน รีสอร์ต Toho ก็ระงับการให้บริการบ่อน้ำร้อน คาดว่าจะเปิดให้บริการอีกที 24 เมษายน
ปี 2018 เมืองฮาโกดาเตะนี้มีรายได้จากนักท่องเที่ยวมากถึง 5.26 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2011 อยู่ที่ 4.11 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากไวรัสระบาด ผู้ว่าฯ เมืองฮอกไกโดประกาศภาวะฉุกเฉิน ทางเจ้าหน้าที่โรงแรมในพื้นที่ให้ความเห็นว่า ถ้าไม่สามารถควบคุมไวรัสระบาดได้ เราจะเจอการยกเลิกแผนการจองเข้าพักโรงแรมมหาศาล เพราะช่วงพฤษภาคมเป็นช่วงที่คนชอบเดินทางมาท่องเที่ยวมาก
นอกจากนี้ ฮอกไกโดเคยตั้งเป้าจะให้มีคนมาเที่ยวเฉพาะช่วงพีคคือช่วงมกราคม-มิถุนายนมากถึง 5 ล้านราย และคาดว่าจะสร้างรายได้ให้มากถึง 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5.9 หมื่นล้านบาท
ปี 2019 นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนญี่ปุ่นมากถึง 31.88 ล้านราย ทำเงินให้ประเทศมหาศาลถึง 4.8 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 1.44 ล้านล้านบาท รายได้เติบโตกว่าปี 2010 ถึง 4 เท่า นับรายได้รวมกันจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนญี่ปุ่นยังมากกว่ารายได้จากการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รวมกันของญี่ปุ่นเสียอีก
รัฐบาลญี่ปุ่นเคยตั้งเป้าจะให้คนมาเที่ยวญี่ปุ่นในปี 2020 มากถึง 40 ล้านคน แต่ถ้าโควิด-19 ยังระบาดไม่เลิกอย่างนี้ ตัวเลขคงลดลงเหลือ 10 ล้านราย
ที่มา – Nikkei Asian Review, Goryokaku Tower
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา