aCommerce มาแรง ระดุมทุน Series B 2.14 พันล้านบาท เสนอแนวคิดธุรกิจ B2A ลุยตลาดอีคอมเมิร์ซ

ตลาด e-Commerce ในไทยและอาเซียนมาแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกอย่าง Central จับมือ JD.com รวมถึง Alibaba ก็พยายามรุกตลาดอย่างหนัก และล่าสุด aCommerce ผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซและจัดจำหน่ายสินค้าทางออนไลน์ (e-Distributor) ได้ประกาศระดมทุน Series B มูลค่า 65 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.14 พันล้านบาท

Emerald Media นำทีมลงทุน

aCommerce ได้ให้บริการด้านอีคอมเมิร์ซใน 4 ประเทศหลักของอาเซียน คือ ไทย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ และเตรียมเปิดให้บริการในมาเลเซีย และเวียดนาม (ตามข้อมูลในเว็บไซต์) โดยมีแบรนด์ที่ดูแลหลัก เช่น ซัมซุง, ยูนิลีเวอร์, เนสท์เล่, ลอรีอัล, ฟิลิปส์ และ มาร์ส เป็นต้น

การระดมทุน Series B 2.14 พันล้านครั้งนี้ นำโดย Emerald Media แพลตฟอร์มในภูมิภาคเอเชียตะวันออกที่ก่อตั้งโดยการลงทุนของบริษัทนายทุน KKR เพื่อสนับสนุนโอกาสทางการลงทุนทั่วภูมิภาคเอเชีย และยังประกอบด้วย บริษัท Blue Sky บริษัท MDI และผู้ลงทุนดั้งเดิมอย่าง DKSH พร้อมที่ปรึกษา North Ridge Parnters

การระดมทุนครั้งนี้จะใช้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งเพื่อให้บริการกับแบรนด์ต่างๆ ทาง B2C เช่น ร้านค้าออนไลน์, มาร์เก็ตเพลส อย่าง Lazada, Shopee และทางออฟไลน์ รวมถึงช่องทาง B2B

นอกจากนี้ยังเน้นขยายพันธมิตรด้านค้าปลีกของประเทศสิงคโปร์ อินโดนีเซีย ไทยและฟิลิปปินส์ และช่วยลูกค้าขยายธุรกิจในประเทศใหม่ อย่างประเทศมาเลเซียและเวียดนาม

พอล ศรีวรกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม ของ aCommerce

เสนอโมเดลธุรกิจแบบ B2A หรือ Business-to-All

พอล ศรีวรกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม ของ aCommerce บอกว่า โมเดลธุรกิจแบบ B2C เติบโตอย่างรวดเร็วในกลุ่มประเทศอาเซียน ทำให้แบรนด์ต่างๆ มองหาวิธีการทำธุรกิจแบบหลากหลายช่องทาง เพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ เช่น กลุ่มธุรกิจ (B2B) เช่น ร้านขายค้าเฉพาะอย่าง ร้านค้าที่ขายของต่อรัฐบาล (B2G) และลูกจ้างบริษัท (B2E)

แบรนด์ที่ทำธุรกิจแบบ B2B และ B2E ได้ดีในอาเซียน เช่น ซัมซุง และ ลอรีอัล

การมีเว็บไซต์ในช่วงที่ธุรกิจกำลังก้าวเข้าสู่โลกออนไลน์ไม่เพียงพอ ต้องสามารถให้บริการเชื่อมต่อจากหลากหลายช่องทางและความสำคัญของข้อมูลเพื่อที่จะอยู่รอดในอุตสาหกรรมการค้าปลีก ลูกค้าต้องเข้าถึงแบรนด์ได้ตลอดเวลา ผ่านทุกแพลตฟอร์ม ดังนั้น e-Commerce, ข้อมูล และความเชี่ยวชาญในตลาดท้องถิ่น จึงเป็นส่วนสำคัญในการก้าวสู่การเป็นธุรกิจแบบ B2A

ข้อมูลของ Google และ Temasek เปิดเผยว่า ภูมิภาคนี้จะมีอัตราการเติบโตของการช้อปปิ้งออนไลน์ 32% ปีต่อปี ในอีก 10 ปีข้างหน้า อัตราดังกล่าวจะทำให้ผู้เล่นรายยักษ์อย่าง JD.com, Amazon และ Alibaba เข้ามาขยายตลาดค้าปลีกในภูมิภาคนี้

นอกเหนือจากการค้าปลีกบนช่องทางปกติแล้ว ภายในปี พ.ศ. 2560 เพียงปีเดียว แบรนด์ชื่อดังอย่าง มาร์ส เนสท์เล่ และยูนิลีเวอร์ก็ได้จัดตั้งการบริการทางอีคอมเมิร์ซที่แข็งแกร่งในภูมิภาคนี้กับบริษัท aCommerce

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา