ดัชนีฮั่งเส็ง ที่เป็นหนึ่งดัชนีหุ้นสำคัญในเอเชีย มีอายุยาวนานมากถึง 51 ปี ล่าสุดเตรียมที่ปรับคำนวณดัชนีใหม่ โดยเพิ่มน้ำหนักหุ้นที่เกี่ยวข้องกับไอที สินค้าฟุ่มเฟือย อสังหาริมทรัพย์ เพื่อที่จะสะท้อนภาพของเศรษฐกิจจีนมากขึ้น
ดัชนีฮั่งเส็ง ที่เป็นหนึ่งดัชนีหุ้นสำคัญในเอเชีย ที่มีอายุนานมากถึง 51 ปี เตรียมที่ปรับคำนวณดัชนีใหม่ คาดว่าจะเพิ่มหุ้นจากหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมไอทีที่จะมีน้ำหนักต่อดัชนีมากขึ้น นอกจากนี้บริษัทจีนที่ประกอบธุรกิจต่างๆ ที่เข้ามาจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงยังเพิ่มมากขึ้น แสดงให้เห็นบทบาทของบริษัทเอกชนในแผ่นจีนดินใหญ่มากขึ้น ทดแทนบริษัทที่อยู่ในฮ่องกง
ประเด็นสำคัญการปรับคำนวณดัชนีใหม่
- น้ำหนักหุ้นที่มีต่อดัชนีมากสุดแค่ 8% เมื่อเทียบกับดัชนีเดิมที่ 10%
- เพิ่มน้ำหนักหุ้นกลุ่มไอที กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย กลุ่มอสังหาริมทรัพย์
- ลดน้ำหนักกลุ่มธนาคารและสถาบันการเงินลง
- เพิ่มน้ำหนักหุ้นที่เป็นบริษัทในจีนแผ่นดินใหญ่ ลดน้ำหนักบริษัทในฮ่องกงลง
- ในดัชนีหลังคำนวณใหม่แล้วจะมีหุ้นทั้งสิ้น 80 บริษัท แตกต่างจากเดิมที่อยู่ราวๆ 50 บริษัท
การปรับคำนวณดัชนีฮั่งเส็งใหม่ จะทำให้ดัชนีครอบคลุมหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพยฮ่องกงมากกว่า 75% จากปัจจุบันอยู่ที่ 57.6% เท่านั้น ซึ่งจะทำให้เห็นสภาพโดยรวมของตลาดหุ้นของฮ่องกงมากขึ้น
การปรับคำนวณดัชนีใหม่นี้นั้นจะช่วยทำให้ดัชนีสะท้อนภาพยิ่งขึ้น จะเห็นได้จากกรณีของ Tencent ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีของจีนที่เข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และ Alibaba รวมถึงบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น Xiaomi ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน Meituan Dianping ที่เป็นผู้บริการส่งอาหารรายใหญ่
ขณะนี้บริษัทที่จัดทำดัชนีฮั่งเส็งได้อยู่ในช่วงการเปิดแสดงความคิดเห็นจนถึงช่วงปลายเดือนมกราคม 2021 ซึ่งถ้าหากการปรับคำนวณดัชนีได้รับไฟเขียวจากนักลงทุนแล้ว จะทำให้มีเม็ดเงินระดับหลายหมื่นล้านบาทไหลเข้าหุ้นที่ติดการคำนวณดัชนีใหม่นี้
ขณะที่ผลกระทบดังกล่าวจะยังส่งผลต่อนักลงทุนไทยที่ได้ซื้อกองทุนหุ้นฮ่องกง โดยกองทุนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการปรับดัชนีในอนาคต เช่น ASP-HSI จาก บลจ. แอสเซทพลัส เป็นต้น
ที่มา – Yahoo Finance, S&P Global, Apple Daily
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา