การเดินทางอันแสนยาวไกล สิ้นสุดลงแล้ว อังกฤษและสหภาพยุโรปสรุปดีลการค้าระหว่างประเทศกันได้แล้ว ทั้งในมิติทางเศรษฐกิจ ความมั่นคง และสิทธิในการตกปลา การทำประมง ฯลฯ
The deal is done. pic.twitter.com/zzhvxOSeWz
— Boris Johnson (@BorisJohnson) December 24, 2020
นายกรัฐมนตรี Boris Johnson แห่งอังกฤษ และ Ursula von der Leyen ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปเห็นพ้องทำความตกลงหลังจากที่เจรจามหากาพย์ยาวนาน 9 เดือน โดย Boris Johnson ทวีตข้อความว่าความตกลงสำเร็จแล้วผ่านทวิตเตอร์ มันสามารถทำให้อังกฤษกลับมาควบคุมอะไรได้มากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง พรมแดน กฎหมาย การค้า น่านน้ำสำหรับตกปลา
ด้าน von der Leyn ระบุว่า นี่เป็นความตกลงระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรปนี้ก็เป็นดีลที่เป็นธรรมและสมดุลเช่นกัน มันช่วยปกป้องผลประโยชน์ของ EU ให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรมและเรื่องการประมง เธอกล่าวว่า เป็นช่วงเวลาสิ้นสุดหนทางยาวไกลสำหรับการเจรจาแล้ว ความตกลงนี้จะให้ความสัมพันธ์รูปแบบใหม่ที่เป็นปึกแผ่นมากยิ่งขึ้น เราสามารถหันหลังให้กับ Brexit ได้ ยุโรปต้องก้าวต่อไป
It was worth fighting for this deal.
We now have a fair & balanced agreement with the UK. It will protect our EU interests, ensure fair competition & provide predictability for our fishing communities.
Europe is now moving on. https://t.co/77jrNknlu3
— Ursula von der Leyen (@vonderleyen) December 24, 2020
โดยความตกลงทางการค้าดังกล่าวมีขนาดหนาราว 2,000 หน้า มีความร่วมมือที่หลากหลายทั้งด้านนิวเคลียร์ พลังงาน การประมง การบิน โดยความตกลงการค้าฉบับแรกที่ลงนามร่วมกันจะมีทั้งปลอดภาษี (zero tariff) มีโควตาภาษี (zero quota) ว่าด้วยเรื่องการค้ามูลค่า 6.68 แสนล้านปอนด์ในปี 2019 มันจะมีนัยสำคัญต่อต้นทุนทางธุรกิจของผู้ส่งออกและจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2564 นี้
นอกจากนี้ จะมีการสร้างแพลตฟอร์มเพื่อร่วมมือกันในอนาคตมากขึ้นในประเด็นการต่อสู้กับอาชญากรรม ด้านพลังงาน และการแชร์ข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน
ความตกลงดังกล่าวจะส่งผลต่อมิติทางการเมืองและเศรษฐกิจ อาทิ ระบบตรวจคนเข้าเมืองจะมีการตรวจเช็คผู้ที่เข้าประเทศอังกฤษ จากที่เคยเข้าได้อย่างเสรีเป็นอันยุติ นายกรัฐมนตรี Boris Johnson ระบุว่า ความตกลงดังกล่าวจะมีการเคารพอำนาจอธิปไตยในพรมแดนระหว่างกันมากยิ่งขึ้น
WATCH LIVE: My update on our future partnership with the European Union. https://t.co/cTd8qWRbrn
— Boris Johnson (@BorisJohnson) December 24, 2020
ด้าน Pascal Lamy อดีตผู้อำนวยการองค์การค้าโลก (WTO) เคยกล่าวไว้ว่า นี่จะเป็นการเจรจาทางการค้าครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่เริ่มด้วยการค้าเสรีแต่จะมุ่งเป้าไปที่ข้อจำกัดด้วย
ที่มา – Financial Times, The Guardian
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา