พฤติกรรมการจ่ายเงินของผู้บริโภคเปลี่ยนไป จากโควิด-19 ทำให้คนคุ้นเคยกับการจ่ายเงินผ่านเทคโนโลยีมากขึ้น ความนิยมการใช้จ่ายเงินสดยังมากที่สุดแต่ก็ลดลง เพราะใช้เทคโนโลยีสบายกว่า สะดวกกว่า และรวดเร็วกว่า
พาคามาร่า คอฟฟี่ โรสเตอร์ (Pacamara Coffee Roasters) แบรนด์กาแฟ Specialty สัญชาติไทย จึงเปิดตัว พาคามาร่า โมบายล์ แอปพลิเคชัน Specialty Coffee Application ลูกค้าสามารถสั่งซื้อเมนูกาแฟผ่านแอปฯ และสามารถเลือกเปลี่ยนเมล็ดกาแฟได้เหมือนกับไปสั่งที่ร้าน
ชาตรี ตรีเลิศกุล กรรมการ บริษัท พีเบอร์รี่ ไทย จำกัด และผู้ก่อตั้งแบรนด์ พาคามาร่า คอฟฟี่ โรสเตอร์ บอกว่า ผู้บริโภคให้ความสำคัญในเรื่องของเวลา และมักไม่ชอบรออะไรนานๆ เพราะต้องการความสะดวกสบาย ส่งผลให้ตลาด Lazy Marketing เติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับหลังสถานการณ์โควิด-19 นั้นทำให้สังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสดอย่างเต็มรูปแบบ
การพัฒนาแอปฯ Mobile Ordering ให้ลูกค้าสั่งกาแฟ และจ่ายเงินได้ทันที ผ่าน Pacamara Wallet เท่านั้น จึงเป็นสิ่งที่สามารถแก้ Pain point ของลูกค้าได้เป็นอย่างดี และสิ่งสำคัญของร้านกาแฟ Specialty ที่มีเมล็ดกาแฟให้ลูกค้าเลือกหลากหลาย เราก็ได้พัฒนาฟีเจอร์นี้เข้าไปในแอปฯ ด้วย เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้บริการได้เหมือนมาสั่งที่หน้าร้านโดยตรง โดยในอนาคตเราจะมีพัฒนารูปแบบของเดลิเวอรีเข้าไปด้วย
ฟังก์ชันการทำงานหลักของ พาคามาร่า โมบายล์ แอปพลิเคชัน นั้นประกอบด้วย
- Online Ordering การเลือกสั่งเมนูเครื่องดื่ม, เมล็ดกาแฟ, เบเกอรี่ และสินค้าอื่นๆ ล่วงหน้าโดยไม่ต้องรอคิว และสามารถระบุเวลารับสินค้าได้
- Customize ลูกค้าสามารถ Customize เครื่องดื่มตามความต้องการเหมือนมาสั่งเองที่ร้าน สามารถเลือกเปลี่ยนเมล็ดกาแฟได้ตามต้องการ หรือเปลี่ยนชนิดของนม รวมไปถึงการเลือกระดับความหวาน
- Pick-up สามารถเลือกสาขา และเวลาที่ต้องการรับสินค้าได้ เมื่อถึงเวลานัดหมายสามารถรับสินค้าได้ที่เคาน์เตอร์บริการของสาขานั้นๆ ได้ทันที
- Pacamara Wallet ฟีเจอร์เติมเงิน และชำระเงินค่าสินค้าผ่านแอปฯ ได้ทุกที่ ทุกเวลา
- Pacamara Rewards สำหรับสมาชิกสามารถสะสมคะแนนจากทุกการใช้จ่าย เพื่อรับสิทธิประโยชน์มากมาย
- Location Information ฟีเจอร์ที่จะช่วยค้นหาร้านพาคามาร่าใกล้ตัวเพื่อความสะดวกสบาย และรวดเร็ว
- Push Notifications ระบบการแจ้งเตือนเมื่อมีข่าวสารใหม่ ให้ลูกค้าไม่พลาดทุกสิทธิประโยชน์ของสมาชิก
พาคามาร่า โมบายล์ แอปพลิเคชัน พร้อมทำงานระบบ iOS และภายใน 15 ธันวาคมกับระบบ Android จากการพัฒนาแอปฯ ขึ้นครั้งนี้ทางแบรนด์ได้ตั้งเป้ายอดขายให้เติบโตขึ้น 20% และตั้งเป้า 50,000 ดาวน์โหลด ภายในปี พ.ศ.2564 พร้อมหนุนด้วยโปรเจ็คการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปีนี้ และตลอดปี 2564
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา