เทศกาลช็อปปิ้งในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving) และ Black Friday ทำลายสถิติ ด้วยยอดขายกว่า 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4.23 แสนล้านบาท
ตามธรรมเนียมของคนไทย และคนเอเชีย มักเคยชินกับเทศกาลลดราคาของแอปพลิเคชัน e-Commerce ทั้ง Lazada และ Shopee ในวันที่ 11 พฤศจิกายน ของทุกปี (11.11) ซึงมีที่มาจากวันคนโสดของจีน แต่ความจริงแล้วในประเทศสหรัฐอเมริกาก็มีเทศกาลช็อปปิ้งเช่นเดียวกัน โดยจะจัดขึ้นในช่วงวันขอบคุณพระเจ้า ยาวไปจนถึง Black Friday ในช่วงสุดสัปดาห์
ในปีนี้ Adobe Analytics เปิดเผยข้อมูลสถิติในเทศกาลช็อปปิ้งวันขอบคุณพระเจ้า และ Black Friday พบว่ามีการใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4.23 แสนล้านบาท โดยเก็บข้อมูลจากร้านค้า e-Commerce จำนวน 80 ราย ทั่วสหรัฐอเมริกา
เกม ของเล่นเด็ก แก็ดเจ็ตยังคงขายดี
โดยการใช้จ่ายรวม 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ นี้ แบ่งออกเป็นวัน Black Friday 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.72 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนในวันขอบคุณพระเจ้า มีการใช้จ่าย 5.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.54 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.5% โดยมีสินค้าขายดีคือ เครื่องเกมคอนโซล วิดีโอเกม ตัวต่อเลโก้ ตุ๊กตาบาร์บี้ และอุปกรณ์เทคโนโลยี เช่น Airpods, Apple Watch, Amazon Echo, ทีวี Samsung และคอมพิวเตอร์ HP
อย่างไรก็ตามในปีนี้พบว่าสินค้าประเภท ของสด เสื้อผ้า และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มียอดขายที่เพิ่มขึ้นในช่วง Black Friday เช่นกัน เนื่องจากคนเปลี่ยนพฤติกรรม เปลี่ยนการซื้อของประเภทนี้จากหน้าร้าน เป็นออนไลน์มากขึ้นในช่วงที่โควิด-19 ระบาด
ส่วนสถิติอื่นๆ ที่น่าสนใจของเทศกาลช็อปปิ้งวันขอบคุณพระเจ้า และ Black Friday มีดังนี้
-
- 70% ของคำสั่งซื้อในช่วงวันขอบคุณพระเจ้า และ Black Friday เป็นการส่งฟรี
- การซื้อของออนไลน์ และเลือกไปรับของที่หน้าร้าน เพิ่มขึ้น 52% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
- 38% ของผู้ซื้อ ตั้งใจที่จะซื้อสินค้าจากร้านค้าขนาดเล็ก ทำให้ร้านค้าขนาดเล็กมียอดขายเพิ่ม 545% เทียบกับในช่วงเวลาทั่วไป
- ยอดขายที่เกิดขึ้นเป็นคำสั่งซื้อจากโทรศัพท์มือถือ 40% และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อีก 60%
ที่มา – Forbes
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา