ขึ้นชื่อว่าซูชิที่มีสัญชาติญี่ปุ่น ใครๆ ก็เชื่อรสมือเพราะมาจากญี่ปุ่นแท้ๆ ล่าสุด ซูชิ แบรนด์ Sushiro Global Holdings เตรียมมาขายในไทยและจีนปีหน้า ปี 2021 นี้
แบรนด์ Sushiro นี้ ไม่ได้เตรียมมาขายในไทยและจีนอย่างเดียว แต่ยังเปลี่ยนชื่อและปรัชญาร้านอาหารด้วย จากเดิมที่ชื่อ Sushiro Global Holdings ก็เปลี่ยนเป็น Food & Life Companies Ltd. ในเดือนเมษายน ปี 2021 และเตรียมเปิดขายในกรุงเทพฯ เมืองไทยช่วงฤดูร้อนปีหน้าเช่นกัน
กลยุทธ์ในการเปิดสาขาในต่างประเทศของซูชินี้ คาดว่าต้องการเพิ่มยอดขายให้ได้ 10% ในเดือนกันยายนปีงบประมาณ 2021 จากที่ก่อนหน้านั้นในปีงบประมาณ 2018 ยอดขายเติบโตอยู่ที่ 0.1%
Sushiro เตรียมเปิดร้านอาหารในต่างประเทศมากราว 24-28 แห่งในปีงบประมาณ 2021 เพิ่มขึ้นจากเดิม 20 แห่งในปี 2020 ขณะที่ร้านอาหารในญี่ปุ่นก็ลดจำนวนลงราว 3 – 5 แห่ง สำหรับในไทยนั้นเปิดตามหลังจีน ในจีนจะเปิดช่วงเดือนธันวาคมนี้และเตรียมเปิดเพิ่มอีกในเดือนกันยายนปีหน้า
อย่างไรก็ตาม ร้านซูชิสายพานอีกแบรนด์ของญี่ปุ่น เช่น Kura Sushi ก็เตรียมบุกตลาดจีนเช่นกัน (แต่ยังไม่ระบุว่าจะมาไทยหรือไม่ แต่สนใจตลาดเอเชีย) แม้ว่าช่วงที่เกิดโควิดระบาดจะยกเลิกแผนเตรียมบุกจีนไปแล้วก็ตาม แต่ก็ยังยืนยันตามเป้าหมายเดิมว่าจะเข้าสู่ตลาดจีนภายใน 3 ปี สำหรับ Kura นั้นเตรียมบุกตลาดต่างประเทศ โดยหวังว่ายอดขายจะโตขึ้นสองเท่าในปี 2030 หรือราว 3 แสนล้านเยนหรือประมาณ 2.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตลาดต่างประเทศที่ Kura มุ่งไปก็เน้นที่แถบเอเชียเป็นหลัก
ทั้งนี้โฆษกของบริษัท Kura กล่าวว่า จะผลักดันให้แบรนด์ Kura กลายเป็นแบรนด์ระดับโลกเทียบได้กับ McDonald ทั้งนี้ อัตราประชากรที่เพิ่มมากขึ้นก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ต้องการขยายสาขาด้วย ตอนนี้ Kura เปิดในญี่ปุ่นไปแล้ว 450 สาขา
อย่างไรก็ดี ร้านซูชิญี่ปุ่นนี้ขยายตัวอย่างรวดเร็วตั้งแต่ก่อนโควิด-19 ระบาดแล้ว ภายใต้แรงกดดันที่มาจากอัตราประชากรคนสูงวัยที่เพิ่มมากขึ้น วิกฤตดังกล่าวทำให้อัตราการขยายสาขาเติบโตอย่างรวดเร็ว กล่าวคือ เมื่อคนสูงวัยอยู่ติดบ้านเพิ่มมากขึ้น ยอดขายในประเทศก็ลดลง ทำให้แบรนด์ต่างๆ หันมาขยายสาขาในต่างประเทศเพิ่มขึ้นเพื่ออาศัยประชากรที่ยังไม่สูงวัยในประเทศอื่นให้หันมาบริโภคซูชิมากขึ้น
ทั้งนี้ Akihiko Koga ซีอีโอ Japan Food Culture ประจำสิงคโปร์และโตเกียว ที่ปรึกษาของร้านอาหารแฟรนไชส์ญี่ปุ่นให้ความเห็นว่า หลังจากโควิดระบาด ร้านอาหารญี่ปุ่นพยายามขยายสาขาไปต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งก่อนหน้าที่จะเกิดโควิด มีการขยายสาขาในญี่ปุ่นและพยายามเสนอตัวเลือกประเภทให้ทานในร้าน ให้นำกลับบ้านได้ แต่ปัจจุบัน พวกเขาถูกบีบให้ต้องพิจารณา 3 ตัวเลือกคือ เป็นแบบให้ทานอาหารภายในร้าน ทำธุรกิจ takeout คือให้นำกลับบ้านได้ และตลาดต่างประเทศ ซึ่งตลาดต่างประเทศที่นิยมกันมากก็คือตลาดในเอเชีย
ที่มา – Nikkei Asia
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา