กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ 0.5% ต่อปี โดยมองว่าเพื่อที่จะรักษาขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงินที่มีจำกัดเพื่อใช้ในจังหวะที่เหมาะสมและเกิดประสิทธิผลสูงสุด ขณะเดียวกันก็จับตามองค่าเงินบาทที่แข็งค่าไวเกินไป
คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ 0.5% ต่อปี โดยมองว่าเพื่อที่จะรักษาขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงินที่มีจำกัดเพื่อใช้ในจังหวะที่เหมาะสมและเกิดประสิทธิผลสูงสุด นอกจากนี้ กนง. ยังมองว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 ปี 2563 นั้นปรับตัวดีขึ้นกว่าที่คาด อย่างไรก็ดี กนง. ยังมองว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวช้าและแตกต่างกันมากระหว่างภาคธุรกิจประเภทต่าง ๆ
ขณะเดียวกัน กนง. คาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 2 ปีก่อนที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมจะกลับสู่ระดับก่อนการระบาดของ COVID-19 ทางด้านของตลาดแรงงานยังคงเปราะบาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายได้ของแรงงานที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งจะกดดันการบริโภคภาคเอกชนโดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยเมื่อปัจจัยสนับสนุนชั่วคราวเริ่มหมดลง ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐมีแนวโน้มต่ำกว่าที่ประเมินไว้
ในผลการประชุมของ กนง. ยังมีความกังวลต่อค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเร็ว ซึ่งมีผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ยังเปราะบางอยู่ในขณะนี้ ทำให้ทาง กนง. จำเป็นต้องติดตามตลาดอัตราแลกเปลี่ยนและเงินทุนเคลื่อนย้ายอย่างใกล้ชิด รวมทั้งพิจารณาความจำเป็นของการดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพิ่มเติม
กนง. ยังเห็นว่านโยบายด้านการคลังจากรัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการพยุงเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง จึงควรเร่งเบิกจ่ายและให้ความช่วยเหลือกลุ่มที่เปราะบางอย่างตรงจุด ควบคู่กับการเร่งดำเนินนโยบายด้านอุปทานเพื่อปรับรูปแบบธุรกิจและยกระดับทักษะแรงงาน ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างยั่งยืนในระยะยาว
นอกจากนี้ในรายงานยังกล่าวว่า กนง. พร้อมใช้เครื่องมือนโยบายการเงินที่เหมาะสมเพิ่มเติมหากจำเป็น
ที่มา – ธนาคารแห่งประเทศไทย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา