ส่งอาหารโตเร็ว! Minor Food เร่งเชื่อมทุกร้านให้ส่งถึงบ้าน-ให้พาร์ทเนอร์นอกกลุ่มใช้บริการ

เมื่อปี 2562 ภาพรวมตลาดเดลิเวอรี่มีมูลค่า 61,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ราว 7.9% และในปี 2567 คาดว่าจะมีมูลค่าถึง 99,000 ล้านบาท Minor Food จึงเร่งเครื่องธุรกิจส่งอาหารด้วยแอปฯ 1112 ที่ดีกว่าเดิม

1112

เชื่อมต่อทุกร้านให้ส่งอาหารได้

Minor Food คือหนึ่งในกลุ่มธุรกิจร้านอาหารยักษ์ใหญ่ของไทย มีร้านอาหารหลากหลายประเภท เช่น The Pizza Company, Sizzler และ Swensen’s เป็นต้น ซึ่งก่อนหน้านี้การทำตลาดส่งอาหารถึงบ้าน หรือเดลิเวอรี่อาจมีให้บริการแค่บาง แต่หลังจากนี้มันจะไม่เป็นอย่างนั้นแล้ว

ประพัฒน์ เสียงจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บมจ.เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป เล่าให้ฟังว่า หลังจากนี้เดลิเวอรี่จะมีความสำคัญมากขึ้น สังเกตจากยอดขายของบริษัทตั้งแต่ต้นปี 2563 ถึงปัจจุบันอยู่ 30% ของทั้งหมด แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปใช้บริการส่งอาหารเพื่อรับประทานอาหารที่บ้านมากกว่าเดิม

1112
ประพัฒน์ เสียงจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บมจ.เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป

“COVID-19 เป็นตัวเร่งสำคัญ เพราะมันทำให้ยอดขายเดลิเวอรี่ในปีก่อนของกลุ่มไมเนอร์จากปีก่อนอยู่ที่ 14% กลายเป็น 30% และยังคาดเดาไม่ได้ว่าสัดส่วนจะเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ในปีนี้ ดังนั้นการพยายามเชื่อมต่อทุกร้านอาหารในเครือของกลุ่มไมเนอร์เพื่อให้บริการเดลิเวอรี่ได้จึงมีความจำเป็น”

ลงทุนต่อเนื่องเพื่อสร้าง Fleet ของตัวเอง

ขณะเดียวกันกลุ่มไมเนอร์ยังเตรียมพัฒนา Fleet หรือสายส่งอาหารของตัวเองเพิ่มเติม แม้ปัจจุบันจะมีการร่วมมือกับผู้ให้บริการเดลิเวอรี่รายอื่นแล้วก็ตาม เพราะต้องการควบคุมคุณภาพในการให้บริการ และนอกจากนี้ยังช่วยขับเคลื่อนกลยุทธ์การขยายบริการเดลิเวอรี่ได้ในอนาคต

“ตอนนี้เรามี Rider ที่เป็นพนักงานประจำของบริษัท 3,000 คน พวกเขาจะส่งสินค้าของ The Pizza Company เพียงอย่างเดียว แต่การจะแบ่งพวกเขามาส่งสินค้าของร้านอื่นๆ คงไม่เหมาะ เพราะจะสูญเสียประสิทธิภาพเรื่องเวลาจัดส่ง ดังนั้นการเพิ่ม Fleet ใหม่ขึ้นมาน่าจะดีกว่า โดยเราคาดว่า Fleet ใหม่นี้จะมีกว่า 3,000 คนเช่นกัน”

ทั้งนี้ Fleet ใหม่จะทำงานร่วมกับแอปพลิเคชั่น 1112 เพื่อให้ลูกค้าสามารถสั่งอาหารแบรนด์ต่างๆ ในกลุ่มไมเนอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถึงอย่างไรกลุ่มไมเนอร์ยังร่วมงานกับผู้ให้บริการเดลิเวอรี่รายอื่น โดยจะคุมสัดส่วนภาพรวมไว้ไม่เกิน 25% ของยอดสั่งซื้อเดลิเวอรี่ทั้งหมด

1112

พร้อมจับมือกับร้านนอกเครือมากขึ้น

ในทางกลับกันด้วยกลุ่มไมเนอร์ยังมีร้านอาหารที่ไม่ครอบคลุมทุกประเภท แต่บริษัทต้องการตอบโจทย์ลูกค้าที่ใช้งานแอปฯ 1112 ให้สั่งอาหารได้ทุกประเภท จึงมีการร่วมมือกับร้านอาหารนอกเครือ เช่นกลุ่มอาหารไทยของ S&P และเบเกอรี่ของ Bread Talk ทั้งช่วงนี้ยังหาพาร์ทเนอร์รายอื่นเพื่อเพิ่มอาหารประเภทอื่นๆ เช่นกัน

“ตอนนี้กลุ่มไมเนอร์อยู่ระหว่างเจรจากับแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่น, อาหารเม็กซิกัน และอาหารอื่นๆ ที่ไม่ใช่ Direct Competitor ของเรา ซึ่งจากกลยุทธ์ทั้งหมดนี้จะทำให้กลุ่มไมเนอร์สามารถเติบโตในบริการเดลิเวอรี่ที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

เดลิเวอรี่

สำหรับตลาดรวมบริการส่งอาหาร 61,000 ล้านบาท (อ้างอิงข้อมูล Euromonitor) ในปี 2562 กลุ่มไมเนอร์มีส่วนแบ่งในตลาดนี้ 8% คิดเป็น 3 อันดับแรกของตลาด โดยกลุ่มผู้นำของตลาดนี้คือเหล่าเชนร้านอาหาร Fast Food ยักษ์ใหญ่จากต่างชาติที่ให้บริการในประเทศไทย

สรุป

การบุกตลาดเดลิเวอรี่ของกลุ่มไมเนอร์แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจ และการต้องการเป็นส่วนหนึ่งของตลาดเดลิเวอรี่ที่กำลังเติบโตอยู่ทุกวันนี้ แต่ที่น่าจับตาคือ กลุ่มไมเนอร์ไม่ได้มีแค่ธุรกิจอาหาร เพราะยังมีธุรกิจไลฟ์สไตล์ และโรงแรม ดังนั้นกลยุทธ์เดลิเวอรี่อาจเอาไปปรับใช้กับธุรกิจอื่นๆ ด้วยในอนาคต

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา