ไบเดน ชูนโยบาย Made in all of America และ Buy American สานประโยชน์ทุกกลุ่ม ทุกสีผิว

โจ ไบเดน (Joe Biden) ผู้นำคนใหม่ของมหาอำนาจโลก ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาชูนโยบาย “made in all of America” by All for America’s workers โดยไบเดนชูวิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจที่มีลักษณะประชานิยมมากขึ้น ด้วยการฟื้นคืนเศรษฐกิจและให้สหรัฐฯ กลับมาลงทุนกับภาคการผลิตมากขึ้นภายใต้กฎใหม่ “Buy American”

Joe Biden โจ ไบเดน
ภาพจาก Shutterstock

ไบเดน ชู “Buy American” เหมือนทรัมป์ แต่สานประโยชน์ให้ทุกคน ไม่ใช่เลือกปฏิบัติแบบทรัมป์

นโยบาย “Buy American” ไม่ใช่เรื่องใหม่ สมัยโดนัลด์ ทรัมป์ก็ชูนโยบายนี้เช่นกันคือ “Buy American and Hire American” โดยรัฐบาลทรัมป์ใช้วิธีเลือกปฏิบัติกับคนทำงานบางพวก บางกลุ่ม ด้วยการลดจำนวนแรงงานข้ามชาติด้วยการออกกฎหมายเข้มงวดมากขึ้น ไปจนถึงการระงับวีซ่าที่ทำให้วงการไอทีระส่ำระสายกัน ทั้งที่เหล่าคนข้ามชาติทั้งหลาย หลากอุตสาหกรรมก็ช่วยกันผลักดัน ก่อร่างสร้างประเทศให้เจริญยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนวงการไอที

ทั้งนี้ นโยบาย Buy American and Hire American ของทรัมป์นั้นส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การตั้งข้อจำกัดวีซ่า H-1B ตลอดจนวีซ่าที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็คือผู้ที่ชำนาญการ ทักษะสูง มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ตลอดจนถึงผู้สมรสด้วย

ขณะที่ฝั่ง โจ ไบเดนระบุแผนที่จะให้ความสำคัญกับนโยบายการลงทุน ภาษี และการค้า เพื่อเร่งพัฒนานวัตกรรมภายในประเทศมากขึ้น และจะลดการพึ่งพาการผลิตจากต่างประเทศ รวมถึงสร้างงานให้ชาวอเมริกันราว 5 ล้านตำแหน่ง 

WILMINGTON, DELAWARE – NOVEMBER 07: President-elect Joe Biden addresses the nation from the Chase Center November 07, 2020 in Wilmington, Delaware. After four days of counting the high volume of mail-in ballots in key battleground states due to the coronavirus pandemic, the race was called for Biden after a contentious election battle against incumbent Republican President Donald Trump. (Photo by Tasos Katopodis/Getty Images)

ไบเดนทำแคมเปญที่จะลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี เช่น รถยนต์ไฟฟ้า, เทคโนโลยี 5G และ AI งบประมาณราว 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ​ 9.17 ล้านล้านบาท ทำแผนการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อให้มีการผลิตในสหรัฐอเมริกาด้วยงบประมาณราว 4 แสนล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 12.22 ล้านล้านบาท เพื่อที่จะให้เกิดการสร้างงานใหม่ราว 5 ล้านตำแหน่ง

บเดนระบุว่าการลงทุนระดับนี้ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นการลงทุนที่ให้ความสำคัญกับการขยายความมั่งคั่งให้ผู้คนทั่วทั้งประเทศ ทุกสีผิว ทั่วทั้งภูมิรัฐศาสตร์ ไบเดนเตรียมแผนเพิ่มภาษีราว 4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 122 ล้านบาทแก่ผู้ที่ร่ำรวย มีรายได้สูง ตรงข้ามกับทรัมป์ที่ตัดลดภาษี ซึ่งเป็นไปได้ว่าปีหน้าอาจทำให้ไบเดนต้องใช้งบประมาณขาดดุล เพื่อทำให้ฟื้นฟูเศรษฐกิจที่เข้าสู่ภาวะถดถอยอันเนื่องมาจากการระบาดอย่างหนักหน่วงของโควิด-19

ทั้งนี้ นโยบายที่ทรัมป์เคยทำ คือการจำกัดวีซ่าเข้มข้น แต่ไบเดนจะหันมาเพิ่มการจ้างงานวีซ่า H-1B มากขึ้น เบื้องต้น ไบเดนจะปฏิรูปนโยบายวีซ่าและสนับสนุนให้มีการจ้างงานคนทักษะสูงมากขึ้น

ที่มา – The New York Times, The White House, U.S. Citizenship and Immigration Services, The Washington Post, Joe Biden, The Economic Times

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
สนใจความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การทูต การเมือง ประชาธิปไตย เสรีภาพ ความยุติธรรมและความเท่าเทียม ชอบอ่าน ชอบเขียน ชอบสืบค้นข้อมูล ชอบทำคอนเทนต์