Desmond Lee รัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาแห่งชาติ สิงคโปร์ ประกาศว่าคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติเตรียมปลูกต้นไม้กว่า 1.7 แสนต้นหรือเกือบ 3 เท่าจากจำนวนต้นไม้ที่มีอยู่เดิมในบริเวณนิคมอุตสาหกรรมภายใน 10 ปีข้างหน้า
คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ (NParks) และนิคมอุตสาหกรรม สิงคโปร์ (JTC) ระบุว่า จะเพิ่มจำนวนต้นไม้ให้มากขึ้นเป็น 2.6 แสนต้นภายในปี 2030 ทั้งนี้ ทางหน่วยงานระบุว่า การเตรียมปลูกต้นไม้เพิ่มนี้ เพื่อสร้างบรรยากาศภายในนิคมอุตสาหกรรมนี้ให้มีอากาศที่เย็นลง ขณะเดียวกันก็เพื่อพัฒนาคุณภาพอากาศในสิงคโปร์และสร้างบรรยากาศให้น่าอยู่มากขึ้น
Lee ระบุว่า ต้นไม้ที่เตรียมจะปลูกนี้ จะปลูกตามท้องถนนทั่วไปด้วย เพื่อให้มีความรู้สึกเหมือนเป็นป่าไม้ธรรมชาติจริงๆ สิงคโปร์จะเร่งปลูกพื้นที่สีเขียวให้เพิ่มมากขึ้น มีทางเดินที่มีร่มเงาสามารถหลบแดดจากความร้อนได้
One Million Trees movement ลดความร้อน สร้างบรรยากาศให้น่าอยู่
แนวคิดดังกล่าวข้างต้นถือว่าอยู่ในโครงการ One Million Trees movement ที่ได้เคยประกาศไว้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยอุทยานแห่งชาติระบุว่าตั้งเป้าจะปลูกต้นไม้ให้ได้ 1 ล้านต้นในสิงคโปร์ภายในปี 2030 ซึ่งก่อนหน้านั้นได้ประกาศว่าจะปลูกต้นไม้ในนิคมอุตสาหกรรมราว 1 แสนต้น แต่ตอนนี้เพิ่มเป็น 1.7 แสนต้นแล้ว
แผน One Million Trees movement ที่ประกาศไว้ตั้งแต่ต้นปี มีเป้าหมายเพื่อลดความร้อนในตัวเมือง ตอนนี้ปลูกต้นไม้ไปแล้ว 60,522 ต้น ภายในปี 2030 จะมีพื้นที่สีเขียวราว 100 เฮกตาร์ หรือประมาณ 625 ไร่ สำหรับเมษายนปีนี้ได้เพิ่มพื้นที่สีเขียวไปแล้วราว 20 ไร่
อย่างไรก็ดี แผนที่จะมีการปลูกต้นไม้ราว 1.7 แสนต้นนี้ บางส่วนก็จะนำมาปลูกบริเวณเกาะจูร่ง (Jurong Island) ภายในปี 2022 ด้วย ช่วงมีนาคม 2019 ถึง ตุลาคม 2020 ที่ผ่านมาได้มีการปลูกต้นไม้ไปแล้วเกือบ 1.3 หมื่นต้น ต้นไม้ที่นำมาเลือกปลูกในบริเวณเกาะจูร่งนี้ เป็นไม้ที่ทนแล้งและสามารถให้ร่มเงา เพิ่มชีวิตชีวาให้เกาะได้ด้วย
เอกชนหลายแห่งจับมือหลากองค์กร สร้างสิงคโปร์ที่น่าอยู่ให้คนรุ่นใหม่มีชีวิตที่ดีขึ้น
การร่วมแรงร่วมใจสร้างพื้นที่สีเขียวดังกล่าวผลักดันโดยบริษัทต่างๆ กว่า 70 แห่งและองค์กรที่มาจากชุมชนในเกาะจูร่งที่ช่วยกันบริจาคราว 7.4 แสนเหรียญสิงคโปร์หรือประมาณ 16.9 ล้านบาท สนับสนุนกว่า 2,400 ต้น
โครงการ One Million Trees นี้ตั้งใจจะปลูกต้นไม้ทั่วสิงคโปร์ให้ได้นับล้านๆ ต้นภายใน 10 ปีข้างหน้าจะมีต้นไม้เพิ่มขึ้นรวมกว่า 8 ล้านต้น โครงการดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เมษายน 2020 ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายเพื่อปลูกต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับสิงคโปร์ทั้งบริเวณท้องถนน ในสวน ในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ ในอุทยานแห่งชาติ และอีกหลายแห่ง
ปัจจุบัน NParks ปลูกต้นไม้ราว 50,000 ต้นต่อปี และกำลังจะพัฒนาให้บรรยากาศในเมืองของสิงคโปร์สามารถรับมือกับสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนให้สิงคโปร์กลายเป็นเมืองแห่งธรรมชาติได้ สาเหตุที่เลือกปลูกต้นไม้ก็เพราะต้นไม้มีส่วนสำคัญที่จะทำให้สภาพแวดล้อมในเมืองมีความน่าอยู่ มีชีวิตชีวามากขึ้น และยังลดมลภาวะ สร้างอากาศที่สะอาดให้แก่ประชาชนด้วย
การเคลื่อนไหวดังกล่าวของ One Million Trees movement นี้เป้าหมายหลักก็เพื่อทำให้คนรุ่นต่อไปได้อยู่ในประเทศที่มีสภาพแวดล้อมน่าอยู่ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ดีขึ้นกว่าเดิม
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา