WarnerMedia บริษัทลูกของ AT&T ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 อาการหนัก เตรียมปรับโครงสร้างปลดพนักงานนับพันคน เพื่อลดต้นทุนให้ได้อย่างน้อย 20%
การปรับโครงสร้าง โดยการปลดพนักงานนับพันคนเพื่อลดต้นทุนในครั้งนี้ จะเริ่มมีผลเร็วๆ นี้ ทั้งในส่วนของ Warner Bros Studios และช่องทีวีอย่าง HBO, TBS และ TNT ซึ่งที่ผ่านมา ช่องทีวี HBO, CNN, HBO Max ล้วนได้รับผลกระทบจากสถาการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้ทั้งอุตสาหกรรมทีวี และภาพยนตร์ ต้องประสบกับปัญหาไม่สามารถถ่ายทำได้
ด้านตัวแทนของ WarnerMedia เล่าว่า บริษัทไม่ได้มีภูมิคุ้มกันต่อสถานการณ์โควิด-19 ที่ดีพอ เพราะพฤติกรรมของผู้ชมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะวิธีที่ผู้บริโภคจะเสพสื่อ ซึ่งในขณะนี้ WarnerMedia ได้แจ้งให้พนักงานรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างขององค์กรแล้ว เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะเน้นไปที่การเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น (Direct to customer) โดยบริษัทจะต้องมีการเพิ่ม และลดการลงทุนเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในบางด้าน
อย่างไรก็ตาม WarnerMedia ไม่ได้แจ้งข้อมูลว่าปัจจุบัน WarnerMedia มีพนักงานอยู่กี่คน แต่หลังจากที่ AT&T ซื้อกิจการของ WarnerMedia เมื่อปี 2018 ในขณะนั้นมีพนักงานประมาณ 26,000 คน และหลังจากนั้นก็มีการปลดพนักงานมาเรื่อยๆ จึงไม่ทราบจำนวนพนักงานในปัจจุบัน
ส่วนก่อนหน้านี้ไม่นาน Warner Bros studio ก็เพิ่งจะปลดพนักไป 500 คน เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
HBO Max ก็ไม่ไหว สู้คู่แข่งลำบาก
ก่อนหน้านี้ AT&T บริษัทแม่ของ WarnerMedia เพิ่งจะประกาศรายได้ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ และพบว่ารายได้ส่วนที่มาจาก WarnerMedia ลดลงถึง 22.9% จากจำนวนโฆษณาที่ลดลง และบัตรชมภาพยนตร์ที่ขายไม่ได้ แม้ว่า WarnerMedia จะมีความพยายามที่จะกู้สถานการณ์ด้วยการลงทุนในบริการสตรีมมิง HBO Max เพื่อแข่งกับคู่แข่งสำคัญอย่าง Netflix, Amazon Prime Video และ Hulu
แต่ความพยายามของ WarnerMedia ก็ดูจะไม่ได้ผลนัก เพราะมีจำนวนผู้ใช้งาน HBO Max เพียง 4.1 ล้านคนเท่านั้น เพราะส่วนใหญ่แล้ว ผู้บริโภคต้องการใช้งานบริการสตรีมมิงที่มีราคาถูกกว่า เปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง Disney+ ที่มีผู้สมัครใช้งานกว่า 60 ล้านคน และ Netflix อีกกว่า 180 ล้านคนทั่วโลก
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา