พรรคคอมมิวนิสต์จีนเตรียมประชุมวางแผนเศรษฐกิจ 5 ปีข้างหน้า หนึ่งในประเด็นสำคัญคือเศรษฐกิจหลังความขัดแย้งกับสหรัฐ รวมไปถึงการเติบโตของ GDP ที่ช้าลงเหลือ 5% ซึ่งแผนดังกล่าวจะเริ่มใช้ในปี 2021 เป็นต้นไป
ผู้นำระดับสูงในพรรคคอมมิวนิสต์จีน เตรียมที่จะประชุมวางแผนเศรษฐกิจจีนในช่วง 5 ปีข้างหน้าที่จะเริ่มต้นใช้ในปี 2021 เป็นต้นไป ในช่วงวันที่ 26-29 ตุลาคมที่จะถึงนี้ โดยให้ความสำคัญในเรื่องของเศรษฐกิจจีนหลังจากที่สหรัฐได้พยายามแยกโลกเศรษฐกิจออกมาเป็น 2 ขั้ว ขณะเดียวกันก็ยังมีการคาดการณ์ว่าอีกเรื่องที่จะมีการหารือในที่ประชุมคือเรื่องเศรษฐกิจที่กำลังจะเติบโตลดลงหลังจากนี้
สำหรับประเด็นหลักๆ ในการประชุมที่คาดว่าจะมีการเน้นย้ำคือเรื่องการพึ่งพาตัวเองของจีนมากขึ้น หลังจากที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนมีท่าทีแย่ลง ส่งผลต่อภาคการผลิตและต่อเนื่องไปยังเศรษฐกิจของจีนเอง ซึ่งคาดว่าจะมีการพูดคุยเรื่องตัวเลขทางเศรษฐกิจจีนที่จะเติบโตช้าลงหลังจากนี้ โดยคาดว่าหลังจากนี้ GDP ของจีนเองจะเติบโตอยู่ที่ราวๆ 5%
นอกจากนี้ยังคาดว่าจะมีการนำแผน Vision 2035 ของ สี จิ้นผิง ผู้นำจีน มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของแผนเศรษฐกิจหลังจากนี้ด้วย
ขณะเดียวกันเศรษฐกิจภายในประเทศจีนเองก็กำลังอาจประสบปัญหาติดกับดักรายได้ปานกลาง ซึ่งภายในพรรคคอมมิวนิสต์เองได้มีการถกเถียงถึงปัญหานี้มาเป็นเวลานานแล้วว่าจีนควรจะทิ้งเป้าหมายนี้หรือไม่ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการพัฒนาเศรษฐกิจ
ข้อมูลจาก World Bank ในปี 2019 ที่ผ่านมาจีนมีรายได้ประชากรต่อหัวอยู่ที่ 10,410 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่จะก้าวผ่านตัวเลขกับดักรายได้ปานกลางนั้น จีนจะต้องเพิ่มรายได้ประชากรต่อหัวให้เกินกว่าเกณฑ์ของ World Bank ซึ่งอยู่ที่ 12,535 ดอลลาร์สหรัฐ
การประชุมวางแผนนโยบายเศรษฐกิจของจีนนั้นเริ่มมาตั้งแต่ปี 1953 โดยใช้ไอเดียการประชุมจากพรรคคอมมิวนิสต์ในสมัยยุคโซเวียตมาใช้เป็นแบบแผน โดยการประชุมในประเทศจีนนั้นจะมีการหารือในหลายๆ เรื่องไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ความมั่นคง การศึกษา ฯลฯ ก่อนที่จะนำแผนต่างๆ ไปปฏิบัติจริงๆ
ที่มา – South China Morning Post, Al Arabiya
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา