มีการคาดการณ์ว่า กลุ่มสินค้าแบรนด์หรูจะมียอดขายหดตัว 35% ในปีนี้ เพราะ COVID-19 ทำให้ทุกอย่างหยุดนิ่ง แต่ไม่ใช่กับตลาดจีน เพราะล่าสุด Prada ออกมาบอกว่า ครึ่งแรกของปีนี้ในจีนมียอดขายดีกว่าปี 2562 แล้ว
ยอดขายที่ฟื้นเร็วเกิดความคาดหมาย
Patrizio Bertelli ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Prada เล่าให้ฟังว่า ความต้องการสินค้าแบรนด์หรูของผู้บริโภคในประเทศจีนกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่ง หลังหดตัวอย่างหนักในช่วงการระบาดของ COVID-19 ช่วงปลายปี 2562 โดยการกลับมานั้นเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนมี.ค. 2563
“ทุกอย่างกลับมาดีขึ้น โดยเฉพาะหลังจากเดือนมี.ค. มียอดขายเพิ่มขึ้น 60% ทุกเดือน และ Prada เชื่อว่ามันจะเป็นแบบนี้ไปอีกระยะหนึ่ง ที่สำคัญในเดือนส.ค. ที่มีเทศกาลเจ็ดนางฟ้า หรือวันวาเลนไทน์ของจีน ยอดขายของ Prada เติบโตมากที่สุดเป็นประวัติการด้วย”
ทั้งนี้ยอดขายของ Prada ในช่วงครึ่งปีแรกมาจากพื้นที่เอเชียแปซิฟิคถึง 44% แสดงให้เห็นถึงการกลับมาของตลาดประเทศจีนอย่างแท้จริง แต่ถึงอย่างไรเมื่อลองดูในภาพรวมของ Prada จะพบว่า ยอดขายทั่วโลกในครึ่งปีแรกลดลงถึง 40% เพราะหลายประเทศยังแก้ปัญหา COVID-19 ไม่ได้
ไม่ว่าะจะเป็นการต้องปิดหน้าร้านชั่วคราว, การหยุดไลน์ผลิตสินค้า หรือผู้บริโภคไม่มีอารมณ์ออกมาจับจ่าย ดังนั้นการเร่งทำตลาดในประเทศจีนจึงเป็นกลยุทธ์หลักในการสร้างการเติบโตของ Prada ยิ่งมีการสำรวจพบว่าชาวจีนในปี 2562 เป็นผู้ซื้อแบรนด์หรูต่างๆ ถึง 37% การให้ความสำคัญกับผู้บริโภคกลุ่มนี้ก็ต้องมีมากขึ้น
สรุป
การฟื้นกลับมาของตลาดแบรนด์หรูในประเทศจีนแสดงให้เห็นถึงกำลังซื้อของสินค้าที่ยังมีอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะกลุ่มเศรษฐีที่พร้อมจับจ่ายสินค้าต่างๆ หากพวกเขาต้องการ ส่วนตัวจึงเชื่อว่ากลุ่มสินค้าแบรนด์หรูในประเทศต่างๆ จะฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน
อ้างอิง // CNBC
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา