GMM Grammy เป็นหนึ่งในบริษัทมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเม้น ที่มีสื่อครบที่สุดแห่งหนึ่ง ดังนั้นแนวคิดการเปลี่ยนผู้ดู-ผู้ชม มาเป็นผู้ซื้อจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ในเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา GMM Music สามารถสร้างธุรกิจเพลงให้กลับมาเติบโตขึ้นได้ ครั้งนี้จึงเห็นการเปิดตัวบริษัทใหม่ GMM GOODS เพื่อบุกธุรกิจขายตรงแบบ SLM (Single-Level Marketing) พร้อมกับผลิตภัณฑ์แรก ออร่า-ทัย (AURA-THAI)
ภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) บอกว่า GMM Grammy เตรียม Artist Product หรือ สินค้าศิลปิน มานานมาก เป็นการสร้างธุรกิจและหาแหล่งรายได้ใหม่ ซึ่งกลายมาเป็น GMM GOODS ทำธุรกิจขายตรง เพื่อส่งผลิตภัณฑ์จากศิลปินไปให้แฟนคลับซึ่งมีจุดแข็ง 8 ด้าน
เจาะลึก 8 จุดแข็งของบริษัท GMM GOODS
- GMM GOODS เป็นบริษัทขายตรงในเครือ GMM Grammy ผู้ผลิตคอนเทนต์ และ Media Marketing Solution แบบครบวงจร
- GMM GOODS มีแผนธุรกิจทั้งระยะสั้น และ ระยะยาวในการส่งเสริมการสร้างสินค้าให้กับศิลปินเป็นจำนวนมาก และ หลากหลาย โดยทุกศิลปินจะเป็น “เจ้าของแบรนด์สินค้า” ทำการดำเนินธุรกิจ วางแผนยุทธศาสตร์ และ ควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน
- GMM GOODS มี Big Data ของฐานแฟนคลับจำนวนมหาศาล ที่ได้ทำการวิเคราะห์ถึงโอกาสในความสำเร็จอย่างต่อเนื่องมาตลอด 3 ปีเต็ม จึงมั่นใจได้ในความพร้อมของกำลังซื้อที่รองรับที่มีอยู่มาก
- GMM GOODS มี Incentive และ Bonus Plan ที่สูงเป็นรูปธรรม เพื่อตัวแทนขายในการสร้างรายได้จนสามารถยึดเป็นอาชีพเสริม หรืออาชีพหลักในการดำเนินชีวิต
- GMM GOODS ได้ร่วมมือกับโรงงานชั้นนำของประเทศในการผลิตสินค้า และ สินค้าทุกชิ้นได้รับการรับรองจากสถาบันนานาชาติ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในคุณภาพของสินค้าที่ศิลปิน แฟนคลับ กล้าแนะนำ และบอกต่อ
- GMM GOODS มีเงินลงทุนจำนวนมากในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ด้วยคอนเทนต์ที่แตกต่าง และมีสื่อแบบครบวงจร ทั้งสื่อโทรทัศน์, สื่อวิทยุ, สื่อ Social Media, สื่อ Outdoor และ สื่อ Point of Sale รวมถึงสื่อของศิลปิน GMM Music ที่จะช่วยกันร่วมโปรโมทธุรกิจ และ สินค้าให้เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายทั้งประเทศ
- GMM GOODS มีหลักสูตรการขายสินค้ารองรับ ทั้งคอร์สเรียน On Ground และคอร์สเรียน Online เพื่อให้ตัวแทนขายสามารถขายสินค้าได้อย่างง่ายดายและยั่งยืน
- GMM GOODS ได้คัดสรรทีมงานที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะด้านที่เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น ผู้เชี่ยวชาญด้านขายตรง, ผู้เชี่ยวชาญด้าน CRM & Data Scientist, ผู้เชี่ยวชาญด้านสินค้าและการตลาด, ผู้เชี่ยวชาญด้านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ และผู้เชี่ยวชาญด้าน Social Media และการค้า Online
หัวใจหลักของธุรกิจขายตรงคือการสร้างตัวแทนขายที่มีประสิทธิภาพ สามารถสร้างความสัมพันธ์ และ แนะนำสินค้าสู่มือผู้บริโภค จำนวนตัวแทน คือ 1 ในเป้าหมายที่สำคัญที่สุดที่จะนำพาความสำเร็จมาสู่ธุรกิจนี้ ดังนั้นจึงตั้งเป้าที่จะมีตัวแทนขาย 9,000 คน ในปีที่ 1 และ ขยายสู่ 25,000 คน ในระยะเวลา 3 ปี ซึ่งบริษัทฯ ควรจะมียอดขายอย่างต่ำ 500 ล้านบาท ภายใน 3 ปี เช่นกัน
ออร่า-ทัย (AURA-THAI) แบรนด์แรกจากราชินีลูกทุ่ง “ต่าย-อรทัย ดาบคำ”
ต่าย อรทัย เป็นศิลปินที่สร้างชื่อเสียง และ สร้างแฟนคลับในวงการมาตลอด 20 ปี เมื่อได้วิเคราะห์ในเชิงลึกของ Big Data พบว่า ต่าย อรทัย มีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน และ แฟนคลับมีระดับความผูกพันที่พร้อมสนับสนุนในระดับ Advocacy ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุด 1 ใน 5 ของ GMM Grammy การเริ่มต้นในการเดินธุรกิจในครั้งนี้จึงเป็นเรื่องที่มีความพร้อม และ มีโอกาสประสบความสำเร็จสูง
ต่าย อรทัย อยู่ในวงการมานานจึงมีแฟนคลับที่หนาแน่น โดยเฉพาะในประเทศไทย และ สปป.ลาว ผนวกกับความที่เป็นคนทันสมัย Social Media มีแฟนคลับ 5,500,000 Followers ใน Facebook, 600,000 Followers ใน Instagram และ 720,000 คน ใน YouTube
สินค้าชุดแรกจากต่าย อรทัย จึงถูกผลิตคิดค้นออกมา 3 SKU ในกลุ่มสกินแคร์ ได้แก่ Aura-Thai Triple8 Aura White Serum, Aura-Thai Triple8 Aura White Day Cream SPF50 PA+++ และ Aura-Thai Triple8 Aura White Mask Sheet
ประเด็นสำคัญคือ ต้องการให้ผู้บริโภคและแฟนคลับ เชื่อมั่นว่านี่คือแบรนด์ของ ต่าย อรทัย จริงๆ จึงทำให้ชื่อ “ออร่า-ทัย” (AURA-THAI) จึงเป็นชื่อแบรนด์ที่ลงตัว และ เหมาะสมที่สุด หากสรุปถึงสินค้าแบรนด์ “ออร่า-ทัย” (AURA-THAI) และ ความแตกต่าง เราสามารถสรุปได้เป็น 8 หัวข้อใหญ่ๆ ดังนี้
- Brand Purpose ที่แตกต่าง ออร่า-ทัย จะเป็นแบรนด์สินค้าที่ใช้ “ความจริงใจ” ในการดำเนินธุรกิจขายตรง ที่ได้สะท้อนถึงตัวตนของ ต่าย อรทัย ที่เป็นคนซื่อตรง จริงใจ ไม่โกหกหลอกลวง
- กลุ่มเป้าหมายที่แตกต่าง เจาะกลุ่มคนต่างจังหวัดเป็นหลัก กลุ่มสาวอีสาน หรือผู้ใช้แรงงานที่ต้องสู้ชีวิต หาเลี้ยงตนเอง และ ครอบครัว ซึ่งมีความฝัน และ มีการดำเนินชีวิต ไม่ต่างจาก ต่าย อรทัย ที่เปรียบเสมือน “ดอกหญ้าในป่าปูน
- Brand Idea ที่แตกต่าง ใช้ Brand Idea “สวยสู้ชีวิต” เป็นแกนในการขับเคลื่อนแบรนด์ความงามที่มีความแตกต่างจากจุดยืนของ Brand สกินแคร์อื่นๆ Business Idea ของ Brand ออร่า-ทัย เป็นเรื่องของความสอดคล้อง และ ความเชื่อมโยงของคนที่มีทัศนคติ และ วิถีชีวิตที่ต้องผ่านความลำบากมาเหมือนอย่างชีวิตของต่าย อรทัย
- ส่วนผสมผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของคนต่างจังหวัด และ สภาวะอากาศร้อนแบบประเทศไทย
- ผลลัพธ์ที่แตกต่าง จากผลการวิจัย และ พัฒนา ออร่า-ทัย ทริปเปิลเอท ออร่า ไวท์ (Aura-Thai Triple8 Aura White) ผู้ใช้จะรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ภายใน 8 ชั่วโมง ช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใสขึ้นใน 8 วัน และ ผิวแลดูเรียบเนียน รู้สึกได้ถึงความสว่างมีออร่า ใน 8 สัปดาห์
- รูปแบบธุรกิจแบรนด์ขายตรงที่แตกต่าง ออร่า-ทัย เป็นแบรนด์สินค้าขายตรงในรูปแบบ SLM (Single-Level Marketing) จึงเป็นรูปแบบธุรกิจที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ซื้อมาขายไป ได้กำไรทันทีที่ขายได้ ไม่มีค่าสมัครรายปี มีการอบรมให้ฟรี และ ให้ผลตอบแทนสูง ซึ่งการสมัครเป็นตัวแทน สามารถทำได้ 3 ช่องทางหลัก ได้แก่ การโทร. 02-669-9888, การ Add Line Official : @Aura-Thai หรือ ติดต่อผ่านตัวแทนขายออร่า-ทัย
- เจ้าของสินค้าที่แตกต่าง ต่าย อรทัย ลงมาทำเองทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็น การตั้งชื่อ การเลือกส่วนผสม การออกแบบบรรจุภัณฑ์ และการลงรายละเอียดในแผนธุรกิจทั้งหมดร่วมกับ GMM GOODS เส้นทางของการทำธุรกิจจึงออกจากความคิด และ ความเป็นตัวตนของต่าย อรทัย ที่เป็นเจ้าของสินค้าจริงๆ ไม่ใช่ Boss ไม่ใช่ Presenter
- งานโฆษณาที่แตกต่าง แคมเปญ “สวยไปด้วยกัน สู้ไปด้วย” ทาง GMM GOODS ได้ร่วมมือกับ ต่อ ฟีโนมีน่า หรือ ธนญชัย ศรศรีวิชัย ในการพัฒนาโฆษณาให้ตรงกับโจทย์
การที่ GMM Grammy มองเห็นโอกาสทางธุรกิจของแหล่งรายได้ใหม่ให้กับธุรกิจเพลง ด้วยการนำจุดแข็งของ Asset ที่มีอยู่ คือ “ศิลปิน” ที่มีความหลากหลายครบทุก Segment อีกทั้งยังมีชื่อเสียง และ ฐานแฟนคลับเป็นจำนวนมากจึงทำให้มีข้อได้เปรียบด้าน Big Data ที่รู้ว่าลูกค้าคือใคร พฤติกรรมการซื้อเป็นอย่างไร จึงตัดสินใจเดินหน้ารุกธุรกิจขายตรงแบบ SLM (Single-Level Marketing) เต็มสูบ พร้อมปั้นแบรนด์ “ออร่า-ทัย” (AURA-THAI) ที่มี “ต่าย–อรทัย ดาบคำ” เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ออกมาเจาะตลาดสกินแคร์ บนแลนด์มาร์คใหม่ ภายใต้ชื่อบริษัท “GMM GOODS”
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา