Marks & Spencer ค้าปลีกสัญชาติอังกฤษ หรือ M&S ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1884 จนป่านนี้ก็ล่วงเวลามาถึง 136 ปีแล้ว มีหน้าร้านมากถึง 1,463 แห่ง ใน 57 ประเทศทั่วโลก พนักงานราว 7.8 หมื่นคน ล่าสุด เตรียมปลดพนักงานราว 950 ตำแหน่ง ซึ่งก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนในการจัดการร้านหลังวิกฤตโควิด-19 กระทบรุนแรง
ก่อนหน้านี้ ทั้ง Boots และ John Lewis ค้าปลีกรายใหญ่ของอังกฤษก็เพิ่งจะประกาศปลดพนักงานไปรวมแล้วราวๆ 5,000 ตำแหน่ง หลังโควิดระบาดหนักจนผลักให้คนหันไปชอปปิงออนไลน์แทน ก่อนหน้านี้ค้าปลีกทั้งหลายก็ประสบปัญหาเกี่ยวกับค่าเช่าราคาแพง ภาษีธุรกิจ แถมยังมีผลกระทบจาก Brexit อีก พอเจอโควิดเข้าไปก็ถือว่ากระทบอย่างหนักหน่วง
Sacha Berendji ผู้อำนวยการด้านค้าปลีก, ปฏิบัติการ และอสังหาริมทรัพย์แห่ง Marks and Spencer ระบุว่า ต้องการให้ความเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้โครงสร้างองค์กรมีการจัดการที่ปรับตัวมากขึ้น Berendji ระบุว่า ตลอดห้วงยามแห่งภาวะวิกฤตนี้ จะทำให้เราเห็นว่าเราทำงานเร็วขึ้นและยืดหยุ่นขึ้นอย่างไร ด้วยการเพิ่มอำนาจให้ทีมมากขึ้น สิ่งแรกที่เราต้องจัดการคือ ให้การสนับสนุนแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหลายผ่านกระบวนการให้คำปรึกษาต่างๆ
ทั้งนี้ Marks and Spencer ไม่ได้จัดจำหน่ายสินค้าแค่เสื้อผ้า ของตกแต่งบ้าน ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย แต่ยังมีอาหารด้วย ซึ่งยอดขายเสื้อผ้าก็ตกต่ำลงมากที่สุดถ้าเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนหน้านี้ในอัตราที่สูงมากถึง 84%
ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมจากการซื้อเสื้อผ้าที่มีความเป็นทางการ ราคาแพง มาใช้เสื้อผ้าที่ใส่สบายขึ้นและราคาถูกลงแทน
ช่วงที่มีการ Lockdown บริษัทให้คนพักงานเป็นจำนวนมากถึง 27,000 คน หลายคนก็เริ่มกลับมาทำงานแล้ว แต่ Steve Rowe ซึ่งเป็น CEO ระบุว่า พฤติกรรมการชอปปิงของลูกค้าอาจจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล บางคนก็อาจจะฟื้นพฤติกรรมเดิมได้ แต่บางคนก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไปเลย ขณะเดียวกัน ค้าปลีกเริ่มปรับตัวและมองหาการเพิ่มยอดขายออนไลน์มากขึ้น
ที่มา – Reuters, The Guardian
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา