โควิด-19 พ่นพิษไม่หยุด ล่าสุด แบรนด์เสื้อผ้าดังอย่าง Levi Strauss ก็ต้องปลดพนักงานออก 15% หรือประมาณ 700 คน เพื่อลดผลกระทบจากยอดขายตกต่ำ
แบรนด์เสื้อผ้ายีนส์สัญชาติอเมริกันเตรียมปลดพนักงานออกราว 700 ตำแหน่ง หรือประมาณ 15% (จากทั้งหมดกว่า 4,600 คนที่ทำงานในออฟฟิศ ไม่รวมตำแหน่งที่อยู่หน้าร้านและโรงงาน) เพื่อลดผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19 ที่ทำให้ยอดขายลดลงมากถึง 62% ทั้งนี้ Chip Bergh CEO แห่ง Levi’s ระบุ ยังมีความไม่แน่นอนรออยู่อีกมาก
ภายใน 3 เดือนก่อนหน้าจนถึง 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา Levi’s ขาดทุนราว 364 ล้านเหรียญสหรัฐ (1.13 หมื่นล้านบาท) เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้ามีผลกำไรอยู่ที่ 29 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 903 ล้านบาท ทำให้รายได้ลดลงอยู่ที่ 498 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.55 หมื่นล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปี 2019 อยู่ที่ 1,300 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4.04 หมื่นล้านบาท
การปลดพนักงานจำนวน 700 คนทั่วโลก จะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3.11 พันล้านบาท ทั้งนี้ รายได้ที่ลดลงของ Levi’s มีทั้งผลกระทบจากโควิดและเทรนด์การซื้อชุดเสื้อผ้าของผู้คนก็เปลี่ยนไปด้วยในที่มีโรคระบาด
ทั้งนี้ หน้าร้านของ Levi’s เริ่มกลับมาเปิดขายได้ 90% แล้วหลังรัฐบาลใช้มาตรการ Lockdown ยาวนานส่งผลให้หน้าร้านต้องถูกปิดชั่วคราว ทำให้รายได้ลดตามไปด้วย หลังจากเริ่มกลับมาดำเนินกิจการใหม่ ยอดขายก็เริ่มกลับมาดีขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะเดียวกันยอดขายออนไลน์ก็เพิ่มขึ้นด้วย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา