สืบเนื่องจาก Facebook ปล่อยให้คอนเทนต์สร้างความเกลียดชังได้ไม่หยุด ไม่หย่อน หลายแบรนด์จึงออกมารณรงค์ต่อต้านด้วยการระงับโฆษณา ก่อนหน้านี้ The North Face ก็เพิ่งประกาศประท้วงเป็นเวลา 30 วัน องค์กรที่แบนเหล่านี้คาดหวังว่าจะทำให้ Facebook ทบทวนนโยบายใหม่
ล่าสุด 3 แบรนด์ที่เดินหน้าออกมาประกาศแบน Facebook ด้วยการระงับโฆษณาเช่นกัน มีทั้ง Eddie Bauer แบรนด์เสื้อผ้า ค่ายหนัง Manolia Pictures และแบรนด์ไอศครีมอย่าง Ben & Jerri ก็เข้าร่วมการแบน Facebook ครั้งนี้ด้วย
Eddie Bauer ประกาศข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่าจะสนับสนุนแคมเปญ #StopHateForProfit (คือ รณรงค์ให้ หยุดสร้างความเกลียดชังเพื่อกอบโกยผลกำไรเสียทีเถอะ) ข้อความนี้ก็ส่งถึง Facebook และ Instagram โดยตรง (เจ้าของคนเดียวกัน) โดยระบุว่าจะระงับการจ่ายค่าโฆษณาเพื่อประท้วงจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม
In support of the #StopHateForProfit initiative, Eddie Bauer will suspend all paid ads on Facebook and Instagram through the end of July, effective immediately.
Learn more here: https://t.co/0oMnahL1Mh— Eddie Bauer (@eddiebauer) June 24, 2020
ขณะที่ค่ายหนังอย่าง Magnolia Pictures ก็ร่วมแบนด้วยการประกาศสนับสนุนการเคลื่อนไหวเพื่อหยุดความเกลียดชังดังกล่าวด้วยเช่นกัน และเริ่มระงับโฆษณาทั้งใน Facebook และ IG ทันที จนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม
In solidarity with the #StopHateForProfit movement, Magnolia Pictures has chosen to stop advertising on Facebook and Instagram, starting immediately, through at least the end of July. We are seeking meaningful change at Facebook and the end to their amplification of hate speech.
— Magnolia Pictures (@MagnoliaPics) June 23, 2020
ขณะที่แบรนด์ไอศครีมอย่าง Ben & Jerry’s ก็ร่วมปฏิบัติภารกิจดังกล่าวด้วยเช่นกัน ประกาศชัดเจนเลยว่าสนับสนุนการแบนดังกล่าวพร้อมระงับโฆษณาใน Facebook และ Instagram เพราะไม่เห็นด้วยที่มีการใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อเผยแพร่ความเกลียดชังต่อไป
We will pause all paid advertising on Facebook and Instagram in the US in support of the #StopHateForProfit campaign. Facebook, Inc. must take the clear and unequivocal actions to stop its platform from being used to spread and amplify racism and hate. >>>https://t.co/7OpxtcbDGg pic.twitter.com/I989Uk9V3h
— Ben & Jerry's (@benandjerrys) June 23, 2020
แคมเปญ #StopHateForProfit เป็นกิจกรรมที่สืบเนื่องมาจากการเสียชีวิตของ George Floyd ที่เสียชีวิตอย่างไม่เป็นธรรมตามที่กล่าวไว้แล้วในประเด็น The North Face เป็นภารกิจที่มีการรวมตัวจากหลายองค์กรเพื่อเรียกร้องให้องค์กรทางธุรกิจต่างๆ ร่วมยืนหยัดต่อสู้เพื่อเสรีภาพและความเท่าเทียมด้วยการไม่ลงโฆษณาใน Facebook ตลอดเดือนกรกฎาคม 2020
ภายในเว็บไซต์รณรงค์นี้ ไม่ได้ระบุว่าทำเพื่อ George Floyd เท่านั้น แต่ยังรวมถึง Breonna Taylor หญิงสาววัย 26 ปี เชื้อสายแอฟริกัน อเมริกันก็ถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิต, Tony McDade ซึ่งเป็น transgender วัย 38 ปี ก็ถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิตเช่นกัน, Ahmaud Arbey เชื้อสายแอฟริกัน อเมริกัน วัย 25 ปีก็ถูกยิงขณะวิ่งจ็อกกิง ซึ่งก็มีผู้ต้องสงสัยหลายคนเกี่ยวข้องในคดี, Rayshard Brooks ชายหนุ่มวัย 27 ปี เชื้อสายแอฟริกันอเมริกัน ก็ถูกยิงโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ และคนอื่นๆ อีกมากมาย
จากนั้นก็เชิญชวนให้ร่วมสนับสนุนการแบน Facebook ที่เป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่ทำให้ความเกลียดชังแพร่สะพัด โดยระบุว่า Facebook ทำรายได้จากการโฆษณาได้มากถึง 99% ราว 70,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 2.1 ล้านล้านบาท)
หลายๆ บริษัท หลายๆ แบรนด์ เริ่มถอนตัวจากการโฆษณาใน Facebook เพื่อรณรงค์ให้ Facebook ทบทวนนโยบายที่ปล่อยให้คนสร้างความเกลียดชังผ่านแพลตฟอร์ม เรื่องนี้ Jason Dile นักวางแผนสื่อระบุว่า มีลูกค้าราว 20 แห่งพูดคุยกับเขาว่าจะระงับการซื้อโฆษณาใน Facebook เช่นกัน แต่โรคระบาดที่กำลังคุกคามอยู่ทำให้แผนของพวกเขายังไม่ชัดเจนเท่าไรนัก
เรื่องนี้ Carolyn Everson รองประธาน Facebook ก็ระบุในแถลงการณ์ขององค์กรว่า Facebook เคารพการตัดสินใจของแบรนด์ต่างๆ และพยายามจะจัดการกับพวก hate speech ที่เกิดขึ้นในแพลตฟอร์มอยู่
ที่มา – The New York Times, Stop Hate for Profit
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา